Perfume 101 รู้จักประเภทของน้ำหอม และ วิธีเลือกน้ำหอมให้เหมาะกับตัวเอง
Hello Magazine Thailand
อัพเดต 29 พ.ค. เวลา 16.03 น. • เผยแพร่ 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • HELLO! Magazine Thailandน้ำหอมไม่ใช่แค่กลิ่น แต่เป็นอารมณ์ ความทรงจำ และบุคลิกที่เราเลือกจะส่งออกไปโดยไม่ต้องพูดอะไรเลย หลายคนเลือกน้ำหอมจากกลิ่นที่ชอบในวินาทีแรกที่ฉีด ซึ่งไม่ผิด แต่ในความเป็นจริงแล้ว กลิ่นที่อยู่กับเราตลอดวันกลับเป็นอีกชั้นหนึ่งที่มักไม่ทันได้รู้สึกตอนแรก เพราะฉะนั้นการเข้าใจประเภทของน้ำหอม และ วิธีเลือกน้ำหอมให้เหมาะกับตัวเอง จึงเป็นสิ่งที่ควรเรียนรู้!
ประเภทของน้ำหอมแบ่งตามความเข้มข้นของหัวน้ำหอม ซึ่งส่งผลทั้งกับความชัดของกลิ่น และระยะเวลาที่กลิ่นติดผิว เริ่มจาก Eau de Parfum หรือ EDP ซึ่งมีความเข้มข้นสูงสุดในกลุ่มทั่วไป อยู่ที่ราวๆ 15–20% กลิ่นชัดเจน อยู่ทนนานประมาณ 6–8 ชั่วโมง เหมาะกับวันที่ต้องการความมั่นใจ มีความเป็นทางการ หรือใช้ระหว่างวันทำงานยาวๆ ไปจนถึงดินเนอร์ช่วงค่ำ
Eau de Toilette หรือ EDT มีความเข้มข้นรองลงมา อยู่ที่ประมาณ 5–15% กลิ่นจะโปร่งและบางเบากว่า EDP ทำให้เหมาะกับอากาศร้อน หรือวันที่ต้องการความรู้สึกสะอาด สดชื่น เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการใช้ทุกวันโดยไม่รู้สึกหนักหรือล้นเกินไป กลิ่นจะอยู่ได้ราว 4–6 ชั่วโมง และอาจต้องเติมระหว่างวันหากต้องการให้กลิ่นยังชัดอยู่เสมอ
Eau de Cologne หรือ EDC เป็นประเภทที่เบาที่สุด โดยมีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมเพียง 2–4% กลิ่นจะโปร่ง สดชื่น และอยู่ได้ประมาณ 2–3 ชั่วโมง มักใช้หลังอาบน้ำ หรือพกไว้เติมระหว่างวัน เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นติดตัวนานๆ หรือต้องการเพียงความรู้สึกรีเฟรชเบาๆ โดยไม่ต้องผูกพันกับกลิ่นใดกลิ่นหนึ่ง
วิธีเลือกน้ำหอมให้เหมาะกับตัวเอง เริ่มจากการดูไลฟ์สไตล์ของคุณก่อน ถ้าคุณต้องอยู่ในห้องประชุมทั้งวัน พบปะผู้คน และต้องการความมั่นใจที่ไม่ต้องเติมบ่อย EDP อาจเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ แต่ถ้าคุณใช้ชีวิตในอากาศร้อน เดินทางเยอะ หรืออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ต้องการให้กลิ่นชัดเกินไป EDT คือคำตอบที่ยืดหยุ่นกว่า ส่วนใครที่อยากใช้น้ำหอมแบบบางเบา ไม่ต้องอยู่กับกลิ่นนานเกินไป EDC ก็เป็นทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม
สิ่งสำคัญคือการทดลองกลิ่นบนผิวจริง และปล่อยเวลาให้กลิ่นค่อยๆ คลี่ออกอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะกลิ่นที่เรารู้สึกในช่วงแรก (top note) มักจางไว ส่วนกลิ่นกลางและกลิ่นฐาน (heart และ base note) จะอยู่กับเรานานขึ้น และกลายเป็นกลิ่นที่คนจดจำเราได้มากที่สุด นอกจากนี้ กลิ่นเดียวกันอาจเปลี่ยนไปตามเคมีผิว อุณหภูมิ และแม้แต่สไตล์การใช้ชีวิตของแต่ละคน