“ครูจวง” ชวนมองให้รอบด้าน “เด็กก้าวร้าว” บ้าน โรงเรียน สังคม ต้องร่วมมือ
(11 ส.ค. 68) จากข่าวเด็กนักเรียนชายชั้น ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.อุทัยธานี เนื่องจากไม่พอใจที่ตนได้คะแนนสอบ 18 คะแนน จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน ข่าวนี้กลายเป็นที่โจษจัน วิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง
ทางด้าน ปารมี ไวจงเจริญ หรือครูจวง สส.พรรคประชาชน ซึ่งทำงานผลักดันด้านการปฏิรูปการศึกษา ได้ออกมาแสดงความเห็นถึงกรณีที่เกิดขึ้นนี้ โดยระบุว่า
“จากข่าวนี้ที่เกิดเหตุการณ์นักเรียนชาย ม.5 ทำร้ายครูจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ดิฉันขอเรียกร้องให้กระทรวงศึกษาธิการหรือหน่วยงานต้นสังกัด (หากเป็นโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือสังกัดอื่น) ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายค่ะ ดิฉันยืนยันอย่างหนักแน่นว่าโรงเรียนต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัยของทุกคนทั้งนักเรียน, ครูและบุคลากรทางศึกษาค่ะ
แต่ดิฉันอยากให้สังคมพิจารณาเหตุการณ์นี้อย่างรอบด้านเป็นองค์รวมค่ะ แน่นอนค่ะว่า การกระทำความรุนแรงของนักเรียนคนนี้เป็นความผิด และต้องมีกระบวนการสืบสวนสอบสวนต่อไป แต่การที่เด็กคนหนึ่งจะมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงขึ้นมาได้นั้น อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการอบรมเลี้ยงดูและความรักความอบอุ่นจากครอบครัว (ซึ่งสำคัญมากในการหล่อหลอมเด็กหนึ่งคนขึ้นมา) หรืออาจจะเกิดจากปัญหาในโรงเรียน, ในห้องเรียน หรือในกลุ่มเพื่อนทั้งเพื่อนในโรงเรียนและเพื่อนละแวกบ้าน หรืออื่น ๆ อีกมากมาย
เหตุการณ์นี้ดิฉันหวังอยากให้เกิดการบูรณาการการทำงานของทุกฝ่ายทั้งกระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวง พม. (ที่มีทั้งนักจิตวิทยาและนักสังคมสงเคราะห์), องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และที่สำคัญคือ ครอบครัวของผู้ก่อเหตุ ต้องร่วมกันเข้าไปค้นหาสาเหตุให้ได้ว่าเกิดจากอะไร และร่วมกันออกมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอึก ซึ่งหนึ่งในมาตรการป้องกันนั้น ดิฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกโรงเรียนต้องมีนักจิตวิทยาในการให้คำปรึกษากับนักเรียน, ครูและบุคลากรทางการศึกษา เพราะทุกวันนี้กระทรวงศึกษาจัดให้มีแค่นักจิตวิทยาประจำเขตพื้นที่ ซึ่งดิฉันเห็นว่าไม่พอค่ะ
สุดท้ายนี้ ดิฉันขอให้สังคมฉุกคิดอย่างหนึ่งว่าการจะเลี้ยงเด็กคนหนึ่งขึ้นมาให้เติบโตเป็นพลเมืองที่ดีนั้น ต้องเกิดจากความร่วมมือของทั้งครอบครัว, โรงเรียน, ชุมชน, หน่วยงานรัฐและสังคมค่ะ เราทุกคนในสังคมก็ล้วนเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันหล่อหลอมเด็กหนึ่งคนให้เติบโตขึ้นมาในทิศทางที่ถูกต้องเหมาะสม ถ้าเราปลูกฝังความรุนแรง เด็กก็จะซึมซับความรุนแรง แต่ถ้าเราปลูกฝังการคิดวิเคราะห์อย่างมีเหตุผลหรือปลูกฝังหลักการเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์อย่างเสมอภาคกัน เด็กก็จะซึมซับในสิ่งที่เราปลูกฝังค่ะ”