ทนายวัดพระบาทน้ำพุแจง ขอเวลาตรวจสอบเพิ่ม “หลวงพ่ออลงกต” ปมชื่อ-เลขบัตรคนตาย
เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2568 ณ วัดพระพุทธบาทน้ำพุ ทีมทนายความชุดใหม่และตัวแทนจากหลายมูลนิธิที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าว เพื่อชี้แจงประเด็นดราม่าต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับ “หลวงพ่ออลงกต” โดยยืนยันว่าหลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้ด้อยโอกาส และเด็กกำพร้า พร้อมยอมรับว่าอาจมีข้อบกพร่องบางส่วน
นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความ ได้ชี้แจงกรณีที่หลวงพ่อถูกกล่าวหาว่าสวมชื่อและเลขบัตรประชาชนของนายอลงกต พลมุข ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้ว โดยยืนยันว่า:
* หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของตัวเอง และมีนามสกุล “พูลมุข” ซึ่งเป็นคนละคนกับนายอลงกต พลมุข
* ส่วนกรณีที่พบว่าในใบสุทธิของหลวงพ่อใช้ชื่อและเลขบัตรประชาชนของนายอลงกต พลมุข ที่เสียชีวิตไปแล้ว ทีมทนายระบุว่าอาจเกิดจากความสับสน และจะทำการตรวจสอบเพิ่มเติม
* เรื่องที่เลขบัตรประชาชนของนายอลงกตผู้เสียชีวิตถูกนำไปผูกกับพร้อมเพย์ของบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ ทีมทนายยังไม่ได้ตรวจสอบเชิงลึกและขอเวลาตรวจสอบข้อมูลในประเด็นนี้
ด้านนายเฉลิมพล พลมุข ประธานมูลนิธิธรรมรักษ์ ซึ่งเป็นญาติของนายอลงกต พลมุข ผู้เสียชีวิต ยืนยันว่าทั้งสองคนเป็นคนละคนกัน และมีเลขบัตรประชาชนที่แตกต่างกัน
นอกจากนี้ ทีมทนายความยังได้ชี้แจงประเด็นอื่นๆ ที่สังคมตั้งข้อสงสัย ดังนี้:
* จำนวนผู้ที่ได้รับการดูแล: วัดยังคงดูแลผู้ป่วย HIV และผู้ด้อยโอกาสรวมกว่า 1,260 คน
* การบริหารเงินบริจาค: หลวงพ่อได้ตั้งมูลนิธิ 5 แห่งเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างเต็มที่ โดยเงินบริจาคของแต่ละมูลนิธิจะถูกแยกออกจากเงินของวัดอย่างชัดเจน และหลวงพ่อมีฐานะเป็นเพียงที่ปรึกษาของมูลนิธิ
* ที่ดิน: การที่ใช้ชื่อบุคคลถือครองที่ดิน ไม่ใช่เพื่อวัด แต่เป็นที่ดินของมูลนิธิที่อยู่ระหว่างการรวบรวมเพื่อโอนกรรมสิทธิ์
* โรงเรียนนาถะศาสตร์และใจฟ้าฟาร์ม: ยืนยันว่าไม่ได้สร้างขึ้นเพื่อความหรูหรา แต่เป็นสถานที่ฝึกสอนทักษะกีฬาให้กับเด็กยากจน
สุดท้าย นายศุภชัยยืนยันว่าทางวัดพร้อมให้ตรวจสอบทุกข้อกล่าวหาตามกระบวนการยุติธรรม โดยเงินบริจาคทุกบาททุกสตางค์ถูกนำไปใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะทั้งหมด และยอมรับว่าอาจมีข้อบกพร่องบางประการเกิดขึ้นได้
ข่าวที่น่าสนใจ