โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

คณะผู้สังเกตการณ์ฯ เชื่อมั่นไทยเป็นสุภาพบุรุษ กัมพูชาขอโทษทหารเมาป่วนช่องอานม้า

ไทยโพสต์

อัพเดต 21 สิงหาคม 2568 เวลา 3.02 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

โฆษก ทบ. เผย คณะ IOT เชื่อมั่นไทยอยู่ในกติกาสากล เป็นสุภาพบุรุษ รับกัมพูชา ทำผิดข้อตกลงนานนับ 10 ปี ไทยจึงใช้โอกาสด้านกำลังผลักดัน แจงไม่มีที่ไหนในโลกทำกัน หลังเขมรอ้างไทยเฟคนิวส์ วางทุ่นระเบิดเอง ส่วนทหารเขมรโทรขอโทษอ้างกำลังพลเมา โวยวายที่ช่องอานม้า ไม่รู้จะมีใครเชื่อหรือไม่

20 สิงหาคม 2568 - ที่วัดบ้านพรานหนองคันนาราษฎร์บำรุง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ภายหลังกองทัพไทย และกองทัพบก นำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) และสำนักข่าวต่างประเทศ เข้าสังเกตการณ์ในพื้นที่ บ้านโนนมะยาง ช่องจุ๊ปตะโมก เป็นที่ตั้งติดกับชายแดนไทย-กัมพูชา ใกล้กับประสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เพื่อตรวจพื้นที่จุด กองร้อยทหารพรานที่ 2610 (กพ.ร้อย.ทพ.2610) เหยียบกับระเบิด

พล.ต.วินธัย บอกว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวจะมี 2 ส่วน ส่วนแรกคือ คณะสังเกตการณ์ชั่วคราว จะเข้ามาสังเกตการณ์ว่าทั้ง 2 ฝ่ายเป็นไปตามข้อตกลงการหยุดยิง 13 ข้อหรือไม่ โดยมุ่งเน้น 3 ข้อหลัก คือ

1. การหยุดใช้อาวุธ โดยฝ่ายไทยพยายามที่จะแสดงหลักฐานต่างๆ เพื่อให้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว เห็นว่ากัมพูชามีการใช้อาวุธ โดยเฉพาะทุ่นระเบิด ซึ่งได้พาคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ไปเห็นในพื้นที่จริง คือจุดเกิดเหตุ และอธิบายให้ฟัง ซึ่งทุ่นระเบิดเหล่านี้จะสอดคล้องกับยุทธวิธีทางทหาร และการใช้อาวุธ ทั้งนี้หลังวันที่ 7 ส.ค. 68 (หลังประชุม GBC) มีการใช้ทุ่นระเบิดถึง 2 ครั้งจากฝ่ายกัมพูชา โดยในวันนี้ได้พาไปดูในจุดที่มีการใช้ทุ่นระเบิดครั้งที่ 2 ซึ่งเป็นลักษณะการลักลอบวางในพื้นที่ทหารลาดตระเวนเป็นประจำ แสดงให้เห็นว่าไม่ได้เป็นการบังเอิญ โดยประเด็นนี้คณะผู้สังเกตการณ์ฯได้รับทราบ และจะทำรายงานของคณะต่อไป

2.ยังมีการใช้โดรนในรูปแบบต่างๆ บินล้ำแดนเข้ามาในฝั่งไทย โดยเรื่องนี้คณะผู้สังเกตการณ์ฯ มีข้อมูลแล้ว

3.เป็นเรื่องที่ละเมิดข้อตกลง คือ การเผยแพร่ข่าวสารที่บิดเบือน เช่น เมื่อเห็นคลิปในโซเชียลมีเดีย ก็รีบตอบกลับทันที โดยไม่มีการตรวจสอบว่าเป็นลักษณะของข่าวปลอม (fake news) จากที่ตนประเมิน คาดว่าคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวน่าจะเข้าใจ ทุกคนไม่มีคำถามและไม่มีข้อสงสัย จึงเป็นสิ่งบอกเหตุที่คาดว่าเป็นบวก ซึ่งการให้ข้อมูลข่าวสารที่บิดเบือน โดยเฉพาะประชาชนคนไทยรู้สึกไม่ดี เพราะเราไม่เคยเจอกับระบบการให้ข่าวสารที่เป็นลักษณะมั่ว และไม่มีหลักอะไรอ้างอิง

ส่วนที่ 2 ทางกองทัพบกได้เพิ่มเติมไปคือ อยากให้คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวได้ดู เรื่องการใช้ทุ่นระเบิด แม้จะเป็นเรื่องเสริม แต่ทางคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ก็ได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัสกับผลกระทบจากการใช้อาวุธจากฝั่งกัมพูชา ที่กระทบกับเป้าหมายพลเรือนไทย โดยเฉพาะโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ จึงถือเป็นของแถมที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ในฐานะที่เข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ก็จะเข้าใจกระบวนการว่าวันที่เกิดเหตุโรงพยาบาลทำอย่างไร และแก้ไขปัญหาอย่างไร

ส่วนของโรงพยาบาล จะเห็นข้อดีหนึ่งอย่างคือ การบริหารจัดการของฝ่ายปกครองพื้นที่ส่วนหลัง มีการเตรียมพร้อมอย่างดี และเป็นความโชคดีที่ระเบิดลงช่วงบ่าย ทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เพราะมีการอพยพออกไปก่อนแล้ว ซึ่งคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวแสดงความชื่นชมโรงพยาบาล เพราะหลังมีข่าวสารแจ้งเข้า ว่ามีการใช้อาวุธปืนเล็ก ก็ได้อพยพผู้ป่วยหนักไปอยู่ที่โรงพยาบาลอื่น และเร่งนำผู้ป่วยคนอื่นๆ ที่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ เข้าที่หลุมหลบภัย ทำให้ระเบิดที่ลงตัวอาคารไม่กระทบกับประชาชน จากนั้นก็มีการประสานงานเพื่อนำประชาชนออกจากพื้นที่ ซึ่งเป็นการบริหารสถานการณ์ในภาวะวิกฤตของฝ่ายปกครอง และฝ่ายทหารที่อยู่ในพื้นที่ส่วนหลัง

เมื่อถามว่า ภาพรวมเป็นอย่างไร ที่ฝ่ายไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง พลตรี วินธัย กล่าวว่า คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ได้พูดในที่ประชุมว่า "เขาเชื่อมั่นว่าฝ่ายไทยอยู่ในกติกาที่เป็นมาตรฐานสากลจริงๆ" ซึ่งพวกเราก็มีความรู้สึกที่ดี เพราะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวชุดนี้ เข้าใจต่อสถานการณ์และติดตามสถานการณ์มาอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพิ่งมารับรู้ ณ ที่แห่งนี้

ทั้งนี้ การใช้อาวุธ หรือทุ่นระเบิด บุคคลที่อยู่ในอาชีพทหารด้วยกันจะมองออกและจะเข้าใจ ส่วนที่มีการปฏิเสธและมีความน่าเชื่อถือต่ำ คาดว่าจะเป็นความรู้สึกที่ไม่ดีกับกลุ่มผู้สังเกตการณ์เสียมากกว่า แต่ทางคณะผู้สังเกตการณ์ไม่ได้มีการแสดงออกแต่อย่างใด

ส่วนที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ที่ทหารกัมพูชามาโวยวายนั้น พลตรี วินธัย กล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ทั้งไทยและกัมพูชา สามารถเดินลาดตระเวนได้โดยที่ไม่ติดอาวุธ ส่วนห้วงเวลาที่กัมพูชานำคณะผู้สังเกตการณ์ของตนมา เราก็พบเห็นและเข้าไปดู ทั้งยังตำหนิไปเล็กน้อยว่าไม่ได้บอกฝ่ายไทยก่อน ซึ่งไม่ได้แสดงอาการและท่าทีในลักษณะที่เสียมารยาท โดยเหตุการณ์ที่ทหารกัมพูชาเข้ามาโวยวาย เมื่อมีการสื่อสารออกไป สังคมโลกจะได้เห็น และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เห็นว่า กัมพูชาไม่ได้อยู่ในมาตรฐานอย่างที่ควรจะเป็นเมื่อเทียบกับประเทศไทย

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าทางกัมพูชาโทรมาขอโทษและอ้างว่าทหารนายที่ตกเป็นข่าวนั้น "เมา" พลตรี วินธัย กล่าวว่า ตนทราบว่าเป็นการภายใน แต่เขาบอกว่าที่มีอาการและพฤติกรรมเช่นนั้น เพราะว่าเมา ซึ่งไม่ทราบว่าจะมีบุคคลใดเชื่อหรือไม่

เมื่อถามว่าการมีเหตุการณ์ยั่วยุเช่นนี้ มีการทำหนังสือประท้วงไปยังกัมพูชาหรือไม่ พลตรี วินธัย กล่าวว่า การทำหนังสือชี้แจงหรือการประท้วง ทางกองทัพดำเนินการตลอด และก่อนมีสถานการณ์การ ช่วงระหว่างมีสถานการณ์ และหลังมีสถานการณ์ ก็ยังดำเนินการ เนื่องจากอยู่ในข้อตกลงเดิมที่เราใช้ในการบริหารจัดการความเรียบร้อยบริเวณพื้นที่ชายแดน เพียงแต่ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ไทยไม่เคยได้รับความร่วมมือ ยืนยันว่าเราไม่ยอมและมีการประท้วงมาโดยตลอด เพียงแต่หลังเกิดเหตุปะทะ เราจึงใช้โอกาสในการใช้กำลังผลักดัน

ส่วนกระแสข่าวทุ่นระเบิดที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างว่าประเทศไทยเป็นคนสร้างขึ้นมา และสร้างข่าวปลอมเพื่อลดความน่าเชื่อถือของกัมพูชานั้น พลตรี วินธัย กล่าวว่า ไม่เคยเห็นกัมพูชายอมรับอะไรเลย ตั้งแต่เห็นการสื่อสารอย่างเป็นทางการของฝ่ายกัมพูชามายังไทย และยังพูดดักทางมาตลอด เพราะเห็นว่าฝ่ายไทย โดยเฉพาะสื่อมวลชน มีการเก็บรายละเอียดและหลักฐานได้อย่างดี ทำให้กัมพูชารู้สึกว่าหากดำเนินการอะไรที่เป็นหลักฐาน ฝ่ายไทยน่าจะนำเอามาใช้ และกัมพูชาเคยใช้คำว่า ประเทศไทยชอบทำข่าวปลอม และอาจซื้อเสื้อผ้าจากตลาดโรงเกลือ ซึ่งมีการเผยแพร่ออกมาระยะนึงแล้ว จึงเห็นว่าเป็นเทคนิคการสื่อสาร ซึ่งไทยยืนยันว่ากัมพูชามีนัยยะทุกอย่าง ไม่ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งกองทัพบกมองเช่นนั้นจากสิ่งที่เห็นจริงๆ ส่วนประชาชนก็คาดว่าคงมองไม่แตกต่างจากกองทัพบก

เมื่อถามถึง กรณีที่กองทัพเรือ มีการพบโทรศัพท์ของทหารกัมพูชาที่ถ่ายคลิปวีดีโอในการวางทุ่นระเบิดไว้ได้ พลตรี วินธัย กล่าวว่า ตนยังไม่ได้รับข้อมูล แต่เชื่อว่าภาพที่ออกมามีการซ่อนเร้นนัยยะที่บ่งบอกได้หลายอย่าง เช่นด้านการข่าว คงมาใช้ประโยชน์ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด แต่ยืนยันว่าหากเราดูภาพและเสียง รวมถึงสิ่งที่ได้เห็นและได้สัมผัส มันไม่ใช่การทำขึ้นมา ซึ่งสำเนียงเสียงการพูดก็สามารถสัมผัสได้โดยที่ไม่ต้องเห็นหน้า หากลืมตาก็จะเห็นองค์ประกอบอื่นๆ อย่างครบถ้วน

"ที่กัมพูชามีความพยายามบอกว่าฝ่ายไทยมีการวางทุ่นระเบิด เพื่อใช้อาวุธทำร้ายฝ่ายเดียวกันเอง ผมมั่นใจว่าตรรกะเช่นนี้ไม่มีที่ไหนในโลก อะไรที่จะใช้นอกเหนือจากกติกา และมาทำให้กำลังพลของตัวเองได้รับบาดเจ็บ มันไม่สมเหตุสมผล"

ส่วนประเด็นที่มีการกล่าวหาว่า ไทยมีการนำเชลยศึกไปทำคลิปวีดีโอ พลตรี วินธัย กล่าวว่า ปัจจุบันเชื่อถือกัมพูชาไม่ได้ ศซึ่งกรณีเชลยศึก ยืนยันว่าเราปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ และเปิดโอกาสให้กลไกระหว่างประเทศเข้ามาดำเนินการได้ทันที โดยคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ก็เคยสื่อสารเข้ามาว่า พวกเค้าไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ เพราะรู้ว่าประเทศไทยอยู่ในระบบมาตรฐานและอยู่ในกติกาสากลที่ไทยเป็นสุภาพบุรุษ และประเทศไทยไม่มีลับลมคมใน หรือปิดบัง และไม่ทำให้ประเทศเสียหายในสายตาของสังคมโลก รวมถึงเวทีต่างประเทศแน่นอน

ส่วนการนำเชลยศึกออกไปข้างนอกและไปดำเนินการใดๆ ตามที่กัมพูชากล่าวหานั้น ยืนยันว่า เราไม่ทำ ซึ่งเชลยศึกนั้น ตามธรรมเนียมของทหาร ถือว่าพวกเขาเป็นบุคลากรที่ได้รับเกียรติ ไม่ว่าจะยศใดก็ตาม เราก็จะดูแลเสมือนทหารฝ่ายไทย และให้เกียรติ เพราะบุคคลเหล่านั้นเป็นบุคคลที่เสียสละและทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศตนเอง ดังนั้นเชลยศึกอยู่ในฐานะเพื่อนร่วมอาชีพกัน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

ตลาดสดกลางเมืองขอนแก่น ประดับธงชาติไทยผืนยาวที่สุดในจังหวัด

53 นาทีที่แล้ว

อิสราเอลอนุมัติแผนยึดครองเมืองหลวงกาซา เรียกกำลังพลสำรอง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

แม่ทัพภาคที่ 2 เยี่ยม ฉก.1-3 มอบสิ่งของพระราชทานกำลังพล

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘ไชยา’ ชิงปิดประชุม หนีสภาล่มซ้ำซาก สส.หายหัวไปกินข้าว

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

กฟภ. แจงดราม่า ชาวบ้านกลับจากศูนย์อพยพ เจอบิลค่าไฟพุ่ง 2 พัน ชี้เกิดการสับสนในทางปฏิบัติ

MATICHON ONLINE

“พงศ์กวิน” หนุนลดอุบัติเหตุจากการทำงาน เปิดสัมมนาวิชาการด้านความปลอดภัย

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

จ่อถกกระทรวงแรงงาน-สมช. รับมือแรงงานขาดแคลน หลังชาวกัมพูชากลับเข้าประเทศ

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

รัฐบาล เผยยกระดับสิทธิประโยชน์บัตรทอง 30 บาท เพิ่มบริการสุขภาพจิตครบวงจร ดูแลใจควบคู่สุขภาพกายคนไทยทั่วประเทศ

THE ROOM 44 CHANNEL

ศาลรัฐธรรมนูญ ถ่ายทอดวงจรปิดไต่สวน “แพทองธาร” คดีคลิปเสียงพรุ่งนี้

PostToday

ชิงปิดประชุมสภาหนีองค์ประชุมล่มครั้งที่ 4 ทำร่างพ.ร.บ.ตั๋วร่วมชะงัก!

PPTV HD 36

ข่าวและบทความยอดนิยม