ธุรกิจขายตรงอ่วม! สคบ. สั่งรื้อใบอนุญาต กิจการ 3,000 ราย
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ นายจิติภัทร์ บุญสม ผู้อำนวยการกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง เข้มงวดในการออกใบอนุญาตธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง และสั่งให้ตรวจสอบผลการประกอบธุรกิจสำหรับผู้ที่ได้รับใบอนุญาตไปก่อนหน้าแล้วตั้งแต่ปี 2565 – 2566 มีจำนวนทั้งสิ้น 2,983 ราย คาดว่าจะสามารถตรวจสอบได้ไม่น้อย 90%
ขณะนี้ สคบ. โดยกองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง อยู่ระหว่างดำเนินการได้ส่งหนังสือถึงผู้ประกอบธุรกิจขายตรงทั้ง 2,983 ราย เพื่อให้รายงานบัญชีผลการประกอบธุรกิจ ณ สิ้นปีบัญชี หากไม่ส่งรายงานบัญชีผลประกอบการธุรกิจนับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือจาก สคบ. ภายใน 30 วัน จะถูกเพิกถอนใบอนุญาตการประกอบธุรกิจทันที
“ในวันที่ 19 ส.ค. 2568 ที่ผ่านมา สคบ. ได้มีการจัดสัมมนาผู้ประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง เพื่อทำความเข้าใจและสร้างการรับรู้ในการจัดทำบัญชีประกอบธุรกิจให้ถูกต้อง และส่งรายงานบัญชีการประกอบธุรกิจภายในระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งถือว่าเป็นการแจ้งเตือนแล้ว” นายรณรงค์ กล่าว
ทั้งนี้ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรงในจำนวน 2,983 ราย แบ่งเป็น ผู้จดทะเบียนประกอบธุรกิจแบบตรงและตลาดแบบตรงปี 2565 ต้องรายงานบัญชีประกอบธุรกิจปี 2566 จำนวน 1,333 ราย และแบ่งเป็น ผู้จดทะเบียนประกอบธุรกิจแบบตรงและตลาดแบบตรงปี 2566 ต้องรายงานบัญชีประกอบธุรกิจ 2567 จำนวน 1,650 ราย สำหรับบริษัทใน 2,983 รายมีบริษัทซ้ำที่ไม่ส่งรายงายบัญชีตั้งแต่ปี 2566-2567 ทำให้มีจำนวนรายชื่อสะสมอยู่ในจำนวน ขณะเดียวกันยังมีผู้ประกอบธุรกิจที่ยื่นขอรับใบอนุญาตขายตรงรายใหม่อีกจำนวน 500 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบประวัติ
“เป็นปัญหาเรื้อรังที่หมักหมมมานานตั้งแต่ปี 2565 ซึ่งยังไม่รายงานบัญชีธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง ดังนั้น ภายในปีนี้ถือเป็นการล้างท่อแบบเอาจริงเอาจัง พร้อมเปิดรายชื่อร้านค้าออนไลน์ที่ได้รับใบอนุญาตตลาดขายตรง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับผู้บริโภค โดยในช่วงเดือนก.ย. 2568 ท่านจิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนากยรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแล สคบ. จะตั้งโต๊ะแถลงข่าว” นายรณรงค์ กล่าว