โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

ช็อกครอบครัว หนุ่มหายตัวไป 27 ปี ที่แท้ถูกขังในหลุมใต้ดิน ห่างกันแค่ 200 เมตร แม่ตายก่อนเจอหน้าลูก

Thaiger

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว • Thaiger ข่าวไทย

ช็อกครอบครัว หนุ่มหายตัวไป 27 ปี หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ที่แท้ถูกเพื่อนบ้านขังในหลุมใต้ดิน ห่างจากบ้านแค่ 200 เมตร

เป็นคดีที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลกและกลายเป็นปริศนามานานเกือบ 3 ทศวรรษ สำหรับเรื่องราวการหายตัวไปของ นายโอมาร์ บิน ออมราน (Omar bin Omran) ชายชาวแอลจีเรีย ที่ล่าสุดเพิ่งถูกค้นพบตัวในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่ หลังจากหายสาบสูญไปนานถึง 27 ปี

ย้อนกลับไปในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ท่ามกลางความวุ่นวายของสงครามกลางเมืองในประเทศแอลจีเรีย ครอบครัวของโอมาร์ได้แจ้งความว่าเขาหายตัวไปจากบ้านในเมืองเฌลฟา ด้วยสถานการณ์ในขณะนั้น ทำให้พ่อแม่ของเขาสันนิษฐานว่าลูกชายอาจถูกลักพาตัวหรือถูกสังหารไปแล้วในเหตุความไม่สงบ

แต่แล้วเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว พ.ศ. 2567 หรือ 27 ปีให้หลัง ความจริงทั้งหมดก็ถูกเปิดเผย เมื่อมีการค้นพบว่าโอมาร์ ซึ่งปัจจุบันอายุ 45 ปี ที่แท้ยังมีชีวิตอยู่ แต่เขาถูกกักขังไว้ใน หลุมใต้ดินใต้กองฟาง ภายในบ้านของเพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของเขาเอง เพียง 182 เมตรเท่านั้น

คลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยสถานีโทรทัศน์ของแอลจีเรีย แสดงให้เห็นนาทีที่เจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือโอมาร์ขึ้นมาจากหลุมใต้ดิน เขามีหนวดเครายาวรุงรัง สวมเสื้อสเวตเตอร์ขาดรุ่งริ่ง อยู่ในอาการสับสนมึนงง พยายามกะพริบตาถี่ๆ เมื่อเจอแสงสว่างจากภายนอกเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี

เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า ตลอดระยะเวลาที่ถูกกักขัง โอมาร์ไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือเลย เพราะเขาถูกผู้ลักพาตัวทำให้เชื่อว่าตัวเองโดน “มนต์สะกด” หรือ “ทำของใส่” จนไม่สามารถขัดขืนหรือหลบหนีได้

ผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุ คือ ชายวัย 61 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านและทำงานเป็นคนเฝ้าประตูในเมืองใกล้เคียง เขาถูกจับกุมได้ในที่เกิดเหตุขณะพยายามหลบหนี

อัยการเมืองเฌลฟาได้ออกแถลงการณ์ยืนยันการค้นพบตัวโอมาร์ เผยว่าเบาะแสสำคัญมาจากพี่ชายของผู้ต้องสงสัยเอง ที่ได้โพสต์เรื่องราวการลักพาตัวนี้ลงบนโซเชียลมีเดีย จนนำไปสู่การเข้าตรวจค้นและช่วยเหลือในที่สุด

“สำนักงานอัยการได้สั่งให้เหยื่อได้รับการดูแลทั้งทางร่างกายและจิตใจ ส่วนผู้ต้องสงสัยจะถูกนำตัวขึ้นศาลทันทีหลังการสอบสวนเสร็จสิ้น” แถลงการณ์ระบุ พร้อมยืนยันว่า “ผู้ก่ออาชญากรรมที่น่ารังเกียจนี้” จะต้องเผชิญกับการพิจารณาคดีอย่างเด็ดขาด

เรื่องที่น่าเศร้าที่สุดคือ แม่ของโอมาร์ได้เสียชีวิตไปเมื่อปี 2013 โดยที่เธอไม่เคยได้รู้ความจริงเลยว่าลูกชายของเธอยังมีชีวิตอยู่ แต่ถูกขังไว้ในสถานที่ที่ใกล้ตัวเธอเพียงนิดเดียวมาโดยตลอด

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...