โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

กสทช.มีมติคุ้มครองผู้บริโภค ร้องเรียนวิทยุโฆษณาเกินจริง ทีวีเนื้อหาไม่เหมาะสม เก็บค่าบริการ SMS ที่ไม่ได้สมัครใช้บริการ

สยามรัฐ

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว

วันที่ 3 กันยายน 2568 คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ได้มีการประชุม กสทช. ครั้งที่ 26/2568 นางสาวอรดา เทพยายน ผู้ช่วยเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เปิดเผยว่า วันนี้มีระเบียบวาระเข้าสู่ที่ประชุม กสทช. จำนวนทั้งสิ้น 74 วาระ ผ่านการพิจารณาทั้งสิ้น 24 วาระ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวาระเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการวิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม โดยเป็นการพิจารณาข้อร้องเรียนที่ผู้ใช้บริการร้องเรียนกับสำนักงาน กสทช. ทั้งกรณีวิทยุ โทรทัศน์ และโทรศัพท์เคลื่อนที่ ได้แก่ ข้อร้องเรียนในกิจการวิทยุกระจายเสียง เรื่องการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ทำให้เข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ซึ่งถือเป็นเป็นการกระทำเอาเปรียบผู้บริโภค แบ่งเป็น (1) มีคำสั่งปรับทางปกครองกับกลุ่มผู้ทดลองออกอากาศวิทยุกระจายเสียง จำนวน 32 ราย เป็นจำนวนเงินรายละ 100,000 บาท ที่ได้มีการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียง และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้ระงับการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียง ตามมติที่ประชุม กสทช. หรือคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยสำนักงาน กสทช. ได้มีหนังสือแจ้งคำสั่งดังกล่าวพร้อมแจ้งให้ทราบไปในคราวเดียวกัน ทั้งนี้ ให้ผู้ทดลองออกอากาศฯ ทั้ง 32 ราย ชำระค่าปรับภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือ หากฝ่าฝืนไม่มาชำระค่าปรับภายในเวลาที่กำหนดดังกล่าว กสทช. จะพิจารณาใช้มาตรการบังคับทางปกครองที่สูงขึ้นต่อไป

และ (2) มีคำสั่งปรับทางปกครองกลุ่มผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการกระจายเสียง ประเภทกิจการบริการสาธารณะ ประเภทที่สอง เพื่อความมั่นคงของรัฐ จำนวน 7 ราย เป็นจำนวนเงินรายละ 100,000 บาท ที่ได้มีการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียง และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งให้ระงับการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ตามมติที่ประชุม กสทช. หรือคำสั่งพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยให้ชำระค่าปรับภายใน 30 วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือ หากฝ่าฝืนไม่มาชำระค่าปรับภายในเวลาที่กำหนดดังกล่าว กสทช. จะพิจารณาใช้มาตรการบังคับทางปกครองที่สูงขึ้นต่อไป

การร้องเรียนในกิจการโทรคมนาคม กรณีผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ประสบปัญหาถูกคิดค่าบริการข้อความสั้น (SMS) โดยไม่ได้สมัครใช้บริการ ในจำนวนนี้มี 1 เรื่อง ที่เห็นสมควรห้ามผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เรียกเก็บค่าบริการ SMS และให้คืนค่าบริการที่มีการเรียกเก็บค่าบริการ SMS ทั้งหมดให้แก่ผู้ร้องเรียน เนื่องจากปรากฏข้อเท็จจริงว่า ผู้ร้องเรียนมิได้เป็นผู้สมัครใช้บริการ SMS ประกอบกับหลักฐานที่บริษัทนำส่งมานั้นยังไม่สามารถพิสูจน์หรือยืนยันได้

นอกจากนี้ ยังตรวจสอบพบว่า การกระทำของบริษัทเข้าข่ายเป็นการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคนั้น และเห็นสมควรมีคำสั่งให้บริษัทระงับการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค โดยให้ยุติการเรียกเก็บค่าบริการจากผู้ใช้บริการโดยที่ไม่สามารถแสดงหลักฐานยืนยันการสมัครใช้บริการ SMS ได้ ทั้งนี้ หากฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว กสทช. จะอาศัยอำนาจปรับทางปกครองเป็นเงินจำนวน 5,000,000 บาท และ ในกรณีที่ยังคงฝ่าฝืนต่อเนื่องหรือยังมิได้ปฏิบัติตามคำสั่ง กสทช. จะปรับทางปกครองอีกวันละ 100,000 บาท ตลอดเวลาที่ยังมิได้ปฏิบัติตามคำสั่ง

การร้องเรียนด้านเนื้อหาในกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ที่อาจมีเนื้อหาไม่เหมาะสม โดยมีการร้องเรียน ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล จำนวน 2 เรื่อง ดังนี้ (1) เรื่องแรก เห็นชอบให้กำหนดโทษปรับทางปกครอง เป็นเงินจำนวน 50,000 บาท กรณีมีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับเด็ก 3 ขวบ จมน้ำเสียชีวิต เนื่องจากเข้าข่ายเป็นเนื้อหาสาระที่มีผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน และเห็นชอบให้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังองค์กรที่ทำหน้าที่ควบคุมการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพกันเอง ซึ่งช่องเป็นสมาชิกได้รับทราบ เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการรวมกลุ่มและการจัดทำมาตรฐานทางจริยธรรมต่อไป

และ (2) เรื่องที่สอง เห็นชอบให้มีคำสั่งเตือนทางปกครอง หลังมีการร้องเรียนช่องในรายการ กรณีใช้คำพูดไม่เหมาะสม ให้มีการปรับปรุง แก้ไข กำกับดูแลการนำเสนอเนื้อหารายการ โดยหลีกเลี่ยงการใช้ถ้อยคำและการนำเสนอเนื้อหาที่บ่งชี้อัตลักษณ์หรือความหลากหลายทางเชื้อชาติในลักษณะที่ทำให้เกิดภาพเชิงลบและอคติเหมารวม และเห็นชอบให้ส่งเรื่องดังกล่าวไปยังองค์กรที่ทำหน้าที่ควบคุมการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพกันเอง เพื่อประโยชน์ในการส่งเสริมการรวมกลุ่มและการจัดทำมาตรฐานทางจริยธรรมต่อไป

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...