‘อสส.’ ลุยฟ้อง ‘ฮุน เซน-ฮุน มาเนต’ เข้าไทยเมื่อไหร่ จับทันที
ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุม สมช. ว่า ที่ประชุมได้ประเมินสถานการณ์ชายแดน ยังต้องเฝ้าระวัง มีเรื่องกระทบกระทั่งกันอยู่ โดยกองทัพติดตามอย่างใกล้ชิด ขณะที่การเจรจาเขตแดนทั้งหลายยังไม่จบง่ายๆ ต้องรอการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (RBC) 27 ส.ค. และการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) 8-10 ก.ย. ที่เสียมราฐ กัมพูชา
นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องที่สองเราได้พูดกันเรื่องการดำเนินคดีตามกฎหมายกรณีกัมพูชาใช้กำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ในการรุกรานอธิปไตยไทย มีหลายส่วนที่กระทบกับชีวิต ทรัพย์สินประชาชนคนไทย และเราเตรียมจะดำเนินการฟ้องร้องกัมพูชา รวมทั้งผู้นำกัมพูชา ที่เป็นเรื่องที่ฝ่ายกฎหมายได้พิจารณากัน และขณะนี้ได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ให้เป็นศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากประชาชน และหน่วยราชการต่างๆ และคดีบุคคลในการดำเนินการ้องเรียนให้ทำเรื่องตรงจุดนั้น จากนั้นให้ส่งไปยังอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อรับหน้าที่ในการฟ้องร้อง ทั้งหมดจะเป็นฟ้องในประเทศ คือการกระทบต่อความมั่นคง และทรัพย์สินของประชาชน โดยผู้ก่อเหตุอยู่ภายนอกประเทศ จุดสำคัญคือเราจะฟ้องเฉพาะในประะเทศเท่านั้น จะไม่ไปฟ้องที่กฎหมายระหว่างประเทศ เพราะเราทำในหน้าที่กรอบตรงนี้ และไม่ทำก็ไม่ได้ถ้าหากเราไม่ทำอาจจะโดนข้อหา ม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เรื่องนี้เราจะดำเนินเรื่องนี้โดยมีสำนักงานอัยการสูงสุดทำหน้าที่ทนายแผ่นดินรับเรื่องฟ้องร้อง โดยตำรวจสอบสวนและรวบรวมเอกสารทั้งหมด
“เป็นการฟ้องที่สามารถดำเนินการได้ เป็นคดีที่เป็นการฝากขัง ถ้าเข้ามาในประเทศเจอเมื่อไหร่ก็จับ” นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามว่า เหตุใดถึงไม่ฟ้องโดยใช้กฎหมายระหว่างประเทศ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นเหตุการณ์ที่กระทบต่อชีวิตทรัพย์สินในประเทศ รวมทั้งสถานที่ราชการต่างๆ แต่ว่าผู้ก่อเหตุอยู่นอกประเทศ วันนี้เราก็ดำเนินการภายในประเทศตามอำนาจหน้าที่ที่ทำได้เลย ส่วนต่างประเทศนั้นเราไม่ได้รับเขตอำนาจของศาลโลก จึงยังไม่ไปถึงตรงนั้น
เมื่อถามว่า สามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินเครือข่ายนักการเมืองกัมพูชาในไทย และฮุนเซน ได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องไปพิจารณาให้เหมาะสม ถ้าจะทำก็ยังพูดไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องที่ควรมาพูด และเรายังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องนี้ เป็นเรื่องการดำเนินการตามปกติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง