โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

"ธีรรัตน์" กำชับ ปภ.-จังหวัด รับมือผลกระทบพายุ "คาจิกิ-หนองฟ้า" 5 ด้าน เร่งช่วยเหลือประชาชน

สยามรัฐ

อัพเดต 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“ธีรรัตน์” กำชับ ปภ. – จังหวัด รับมือผลกระทบพายุ “คาจิกิ” และ “หนองฟ้า” 5 ด้าน พร้อมเร่งช่วยเหลือและเยียวยาประชาชนโดยเร็ว

เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (2 ก.ย. 68) นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและดินถล่มจากอิทธิพลของพายุ “คาจิกิ” และพายุ “หนองฟ้า” ณ ห้องกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยมีนายเชษฐา โมสิกรัตน์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วยผู้บริหารกรม ปภ. นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม ที่ปรึกษา รมช.มท. ผู้แทนกรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมชลประทาน กรมทรัพยากรธรณี ตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้า ปภ. จังหวัด 62 จังหวัด ร่วมประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยมีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย โดย ปภ. ติดตามสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในหลายพื้นที่อย่างใกล้ชิด ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายและความเดือดร้อนแก่ประชาชน การประชุมครั้งนี้จึงจัดขึ้นเพื่อประเมินสถานการณ์อุทกภัยและดินโคลนถล่ม ตลอดจนการสนับสนุนการช่วยเหลือในพื้นที่ให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์ ทั้งนี้ หากจังหวัดใดต้องการความช่วยเหลือให้รีบแจ้งมายังส่วนกลางโดยด่วน และหากพบพื้นที่เสี่ยงสูงที่ต้องประกาศเตือนภัยระดับสูงสุด ให้ประสานมายัง ปภ. เพื่อสามารถส่งสัญญาณเตือนภัยแก่ประชาชนได้อย่างทันท่วงที

รมช.มหาดไทยได้กำชับแนวทางการบริหารจัดการสถานการณ์ 5 ด้าน ได้แก่

1. “ติดตามสถานการณ์” โดยให้ทุกจังหวัด ยังคงเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด ตลอด 24 ชั่วโมง และหากมีเหตุบ่งชี้ว่าพื้นที่ใดอาจเกิดอุทกภัยให้รีบแจ้งอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเตรียมรับสถานการณ์ล่วงหน้า

2. “เตรียมความพร้อมรับเหตุฉุกเฉินในพื้นที่” โดยให้ทุกจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่อยู่ในพื้นที่เสียงภัย เตรียมความพร้อมเพื่อรับเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบของแต่ละระดับ ตั้งแต่การรับแจ้งเหตุฉุกเฉิน การเตรียมชุดปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย การเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ พร้อมออกปฏิบัติงานได้ทันทีที่ได้รับแจ้ง

3. “การปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย” โดยทุกพื้นที่ต้องให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยในพื้นที่เป็นอันดับแรก หากมีผู้ประสบภัยติดค้างอยู่ในพื้นที่ประสบภัย และหากประเมินจะเป็นอันตรายให้อพยพนำผู้ประสบภัยออกจากพื้นที่ประสบภัยโดยเร็ว กรณีมีเหตุดินโคลนถล่มให้เร่งเข้าค้นหาผู้ประสบภัยให้เร็วที่สุด สำหรับพื้นที่ที่มีเหตุกำแพง พนังกันน้ำ กระสอบทรายกั้นน้ำชำรุดเสียหายทำให้น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่ ให้จัดทีมเข้าซ่อมแซมโดยทันที และสำหรับพื้นที่ที่มีน้ำท่วมขัง ให้ประสานขอรับการสนับสนับสนุนเครื่องสูบน้ำจากหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่และศูนย์ ปภ.เขต เร่งรัดการสูบระบายน้ำ

4. “เร่งรัดจ่ายเงินช่วยเหลือหรือให้ความช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง” ขอให้จังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งรัด ลดขั้นตอน และระยะเวลาในการพิจารณาจ่ายเงินช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลัง หรือระเบียบกระทรวงมหาดไทยสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยเฉพาะในด้านการดำรงชีพ โดยไม่ต้องรอให้สิ้นสุด เพื่อให้ประชาชนผู้ประสบภัยมีความเชื่อมั่นในการดูแลของหน่วยงานภาครัฐ

5. “การเร่งฟื้นฟูบูรณะในพื้นที่ที่สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ” ให้จังหวัด อำเภอและองค์กรปกรองส่วนท้องถิ่นจัดทีมเข้าฟื้นฟบูรณะสภาพพื้นที่ให้กลับสู่สภาพเดิม เช่น การเก็บทำความสะอาดพื้นที่ การซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ให้กลับคืนสภาพเดิมโดยเร็ว

สำหรับผลกระทบจากอิทธิพลพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดอุทกภัยและดินถล่มใน 14 จังหวัด 40 อำเภอ 114 ตำบล 377 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับผลกระทบ 9,531 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีสถานการณ์ใน 4 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน สุโขทัย และพิษณุโลก มีผู้เสียชีวิต 10 ราย (เชียงใหม่ 8 รายจากดินถล่ม แม่ฮ่องสอน 2 รายจากจมน้ำ) มีผู้บาดเจ็บ 15 ราย และพืชผลทางการเกษตรเสียหาย 649,960 ไร่

ผลกระทบอิทธิพลพายุ “หนองฟ้า” เกิดสถานการณ์อุทกภัย ในพื้นที่ 12 จังหวัด 37 อำเภอ 114 ตำบล 349 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 192 ครัวเรือน แม้ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ยังมีสถานการณ์ใน 8 จังหวัด ได้แก่ เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ลำพูน ตาก ขอนแก่น เลย หนองบัวลำภู และชุมพร ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้เตรียมความพร้อมรับมืออุทกภัยและดินถล่มในทุกมิติ ทั้งการติดตามสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานด้านพยากรณ์ การจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัด การแจ้งเตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast ครอบคลุมพื้นที่เสี่ยง ตลอดจนการสนับสนุนทรัพยากร เช่น เครื่องจักรกลสาธารณภัย และเต็นท์สนามเพื่อรองรับผู้ประสบภัยชั่วคราว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก สยามรัฐ

"สมาคมฟุตบอลฯ" สั่งสอบด่วน! ปม "แข้งขอนแก่นยูไนเต็ด" ถูก "ที่ปรึกษาศรีสะเกษยูไนเต็ด–ส.ส.พรรคดัง" ข่มขู่กลางไทยลีก 2

5 นาทีที่แล้ว

“พฤกษา” ผนึกพันธมิตร “มิตซูบิชิ เอลเลเวเตอร์” มุ่งสร้างคุณภาพชีวิต โครงการหรู “เดอะ ปาล์ม เรสซิเดนเซส พัฒนาการ”

5 นาทีที่แล้ว

ปภ.อ่างทอง รณรงค์มาตรการองค์กรด้านความปลอดภัยทางถนน ป้องกันและลดความสูญเสีย

8 นาทีที่แล้ว

ฉลุย! มติวุฒิฯ 151 เสียงเห็นชอบร่างพรบ.งบฯ69 "พิชัย" ขอบคุณน้อมรับข้อเสนอแนะ

13 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

แพทองธารเดินทางถึงพรรค ยิ้มให้สื่อก่อนประชุม ส.ส.บ่ายนี้

มุมข่าว

‘ทักษิณ’ เข้าพรรคเพื่อไทย เลี่ยงเจอสื่อเข้าทางหลังตึก แต่ยังส่งยิ้มโบกมือทักทาย

The Bangkok Insight

‘หมอมิ้ง’ขอถามศาลรัฐธรรมนูญ ปมตุลาการครบวาระนั่งบัลลังก์วินิจฉัยคดี‘อิ๊งค์’

เดลินิวส์

ฉลุย! มติวุฒิฯ 151 เสียงเห็นชอบร่างพรบ.งบฯ69 "พิชัย" ขอบคุณน้อมรับข้อเสนอแนะ

สยามรัฐ

“ลุงตู่” หรือใคร? พริษฐ์ จี้เพื่อไทยตอบปม “อัศวินขี่ม้าขาว”

WeR NEWS

ป.ป.ช. จับมือแบงก์ สร้างระบบข้อมูลกลาง หวังใช้ตรวจสอบทรัพย์สินนักการเมือง-จนท.รัฐ

Thai PBS

ข่าวและบทความยอดนิยม