เขมรล้นชายแดน! รับยอมเสี่ยงลอบเข้าไทย ดีกว่าอดอยากไม่มีอะไรจะกิน
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 12 สิงหาคม 2568 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธินจันทบุรี กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด โดยกองทัพเรือ ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี และตำรวจ สภ.บ้านแปลง เข้าตรวจค้นบริเวณบ้านไม่มีเลขที่ หมู่ 4 บ้านคลองบอน ตำบลหนองตาคง อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศโดยผิดกฎหมาย
จากปฏิบัติการตรวจค้นดังกล่าว สามารถจับกุม นายสมนึก หรือ "นึก" อายุ 49 ปี ชาวอำเภอแก่งหางแมว จังหวัดจันทบุรี ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้นำพา พร้อมควบคุมตัว แรงงานชาวกัมพูชา 46 คน แบ่งเป็นชาย 16 คน หญิง 10 คน และเด็กอีก 21 คน ที่ลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติและหลบซ่อนอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว
เบื้องต้น นายสมนึกถูกแจ้งข้อหานำพาและให้ที่พักพิงแรงงานต่างด้าวโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.บ้านแปลง ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่แรงงานชาวกัมพูชาหลายรายให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า สาเหตุที่ลักลอบกลับเข้ามาในประเทศไทยอีกครั้ง เนื่องจากถูกหลอกลวงว่าเมื่อเดินทางกลับประเทศจะมีงานรองรับ แต่กลับไม่มีงาน ไม่มีรายได้ และไม่มีหนทางเลี้ยงชีพ จึงต้องเสี่ยงจ้างคนนำพาให้ลักลอบเข้ามาอีกครั้ง
ภายหลังเสร็จสิ้นการสอบสวน หน่วยงานความมั่นคงได้ดำเนินการ ผลักดันแรงงานชาวกัมพูชาทั้งหมดกลับประเทศ ตามกระบวนการ
ต่อมาในเวลา 01.20 น. วันที่ 13 สิงหาคม เจ้าหน้าที่ หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศ และ ร้อย.ทพ.1204 ตรวจพบกลุ่มแรงงานชาวกัมพูชาจำนวน 10 ราย ขณะเดินเท้าอยู่ห่างจากแนวพรมแดนประมาณ 1.6 กิโลเมตร ในพื้นที่บ้านผ่านศึก ตำบลผ่านศึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว
ผู้ต้องหากลุ่มนี้ประกอบด้วย ชาย 4 คน หญิง 4 คน และเด็กหญิง 2 คน ไม่มีเอกสารแสดงตัวตนหรือเอกสารเข้าเมืองอย่างถูกต้อง จากการสอบสวนทราบว่า ทุกคนยอมจ่ายเงินคนละ 3,500 บาท ให้กับคนนำทางชาวกัมพูชา เพื่อข้ามแดนมาหางานทำในตลาดโรงเกลือ โดยหวังจะได้กลับไปทำงานซักรองเท้ามือสองเหมือนที่ผ่านมา ก่อนจะกลับไปประเทศบ้านเกิดช่วงเดือนมิถุนายน แต่สุดท้ายต้องกลับมาอีกเพราะขาดรายได้และงานในประเทศ
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวทั้งหมดเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และเตรียมผลักดันกลับประเทศต้นทางตามระเบียบ