อุทธรณ์พิพากษากลับคุก 'เอกชัย หงส์กังวาน' 21 ปี คดีขวางขบวนเสด็จฯ
เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 2568 เวลา 09.30 น. ที่ห้องพิจารณา 608ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์คดีขัดขวางขบวนเสด็จฯ หมายเลขดำ อ778/2564 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้อง นายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง นายบุญเกื้อหนุน เป้าทอง หรือ "ฟรานซิส" นักเคลื่อนไหวทางการเมือง นายสุรนาถ แป้นประเสริฐ หรือ "ตัน" ผู้ประสานงานเครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง (Active Youth) นายชนาธิป ชัยชะยางกูร และนายภาณุภัทร ไผ่เกาะ เป็นจำเลยที่ 1 - 5 ในความผิดฐานประทุษร้ายต่อเสรีภาพของพระราชินีฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 110 ฐานมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ให้เกิดความวุ่นวายตามมาตรา 215 และกีดขวางการจราจร ที่กลุ่มจำเลยชุมนุมใกล้ขบวนเสด็จพระราชินีฯ เมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2563 โดยจำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ
สำหรับคดีนี้ศาลอาญา (ชั้นต้น) พิเคราะห์พยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายแล้ว มีคำพิพากษายกฟ้องจำเลยทั้งหมด อัยการโจทก์ยื่นอุทธรณ์ ขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลยด้วย
ล่าสุด วันนี้ (5 ก.ย.) ศาลอุทธรณ์ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้วเห็นว่า พวกจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง อุทธรณ์ของอัยการโจทก์ฟังขึ้น พิพากษากลับ จำคุก นายเอกชัย หงส์กังวาน จำเลยที่ 1 รวม 21 ปี ส่วนจำเลยที่เหลืออีก 4 คน ให้จำคุกคนละ 16 ปี
โดยศาลอุทธรณ์ พิพากษากลับเป็นว่า จำเลยทั้งห้ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 110 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 80 มาตรา 215 วรรคหนึ่ง มาตรา 385 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 เฉพาะจำเลยที่ 1 และ ที่ 3 ยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 วรรคสามด้วย
และจำเลยทั้งห้ามีความผิดทางพินัยตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 114 วรรคหนึ่ง 148 วรรคหนึ่ง (เดิม) ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
การกระทำของจำเลยทั้งห้าเป็นการกระทำ กรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานร่วมกันพยายามกระทำการประทุษร้ายต่อเสรีภาพของพระราชินี ซึ่งต้องระวางโทษเช่นเดียวกับมาตรา 110 วรรคหนึ่งตามมาตรา 110 วรรคสอง อันเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 ให้จำคุกคนละ 16 ปี เพิ่มโทษจำเลยที่ 1 หนึ่งในสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 เป็นจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 21 ปี 4 เดือน
ส่วนที่โจทก์ขอให้นับโทษจำคุกของจำเลยที่ 1 ต่อจากโทษจำคุกของจำเลยในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.765/2562 และคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1032/2562 ของศาลชั้นต้นนั้นเมื่อปรากฏว่าคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.765/2562 ศาลชั้นต้นไม่ได้พิพากษาลงโทษจำคุก ส่วนคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.1032/2562 คดีถึงที่สุดศาลฎีกาพิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปีและจำเลยที่ 1 ถูกจำคุกครบกำหนดโทษแล้วจึงไม่อาจนับโทษต่อได้ ให้ยกคำขอในส่วนนี้