“รมว.พาณิชย์” พบหารือหอการค้า พร้อมผลักดันการเจรจาระหว่าง FTA ไทย – สหราชอาณาจักร
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พบหารือกับสภาหอการค้าอังกฤษแห่งประเทศไทย ที่มีบริษัทชั้นนำเป็นสมาชิกเกือบ 600 ราย สองฝ่ายพร้อมร่วมมือเพื่อขยายโอกาสการค้าและการลงทุนรวมทั้งผลักดันการเจรจาจัดทำ FTA ไทย – สหราชอาณาจักรโดยเร็ว
นายจตุพร เปิดเผยว่า ได้พบกับสภาหอการค้าอังกฤษแห่งประเทศไทย (BCCT) เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568 ณ กระทรวงพาณิชย์ โดยประธานสภาหอฯ พร้อมผู้แทนบริษัทสมาชิก 11 ราย ได้สนใจและสอบถามถึงความคืบหน้าการเจรจา FTA ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป รวมถึงความเป็นไปได้ในการเริ่มเจรจา FTA กับสหราชอาณาจักร ตลอดจนผลการเจรจาภาษีสหรัฐฯ ซึ่งล้วนมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทสมาชิกของสภาหอฯ
โดยตนได้ย้ำว่า กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญลำดับต้นกับการสรุปผล FTA ไทย – สหภาพยุโรปโดยเร็ว และที่ผ่านมา กระทรวงฯ ได้ผลักดันการเริ่มการเจรจา FTA กับสหราชอาณาจักรในทุกระดับอย่างต่อเนื่อง จึงขอขอบคุณสภาหอฯ ที่จะร่วมผลักดันเรื่องนี้ด้วยอีกแรงหนึ่ง นอกจากนี้ ภายใต้สถานการณ์การค้าโลกในปัจจุบัน กระทรวงฯ ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการค้าเชิงรุกในตลาดใหม่ ๆ เช่น ตะวันออกกลาง แอฟริกา และอเมริกาใต้ เพื่อสร้างโอกาสทางการค้าให้กับภาคธุรกิจของไทยและต่างชาติที่ตั้งอยู่ในไทย ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพิงตลาดเดิมที่มีอยู่
นายจตุพร เปิดเผยเพิ่มเติมว่า สภาหอฯ ได้มีข้อเสนอแนะต่อการปรับปรุงกฎหมายและระเบียบเพื่อลดความยุ่งยากในการประกอบธุรกิจของต่างชาติ และจะช่วยดึงดูดการลงทุนเข้ามาในไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งตนพร้อมรับฟัง และหารือในประเด็นนี้ รวมถึงข้อเสนอแนะอื่น ๆ กับสภาหอฯ ต่อไป
ปัจจุบัน สหราชอาณาจักรเป็นคู่ค้าอันดับที่ 22 ของไทยในโลก ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 (ม.ค. – มิ.ย.) การค้ารวมมีมูลค่า 2,625.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 0.63 โดยไทยส่งออกไปยังสหราชอาณาจักร คิดเป็นมูลค่า 1,733.82 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 11.40 และนำเข้าจากสหราชอาณาจักร รวมทั้งสิ้น 892.17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 15.29 ทั้งนี้ ไทยได้เปรียบดุลการค้า 841.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีสินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ไก่แปรรูป เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ และรถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ และมีสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้าเครื่องมือเครื่องใช้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์การแพทย์ เครื่องดื่มประเภทน้ำแร่น้ำอัดลม และสุรา และสินแร่โลหะ