“ฮุน เซน” ลั่น โยนปริญญาทุกใบที่ได้จากไทยทิ้งไปหมดแล้ว ชี้ไม่มีค่าอะไร
จากกรณีที่มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ประกาศเพิกถอนปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ของ สมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ทำให้เมื่อเวลา 21.35 น. ของวันที่ 22 ส.ค. 68 ฮุน เซน ออกมาโพสต์ยืนยันว่า ทิ้งปริญญาทุกใบที่ได้สถาบันการศึกษาไทยไปหมดแล้ว เพราะ “ไม่มีค่าอะไรให้เก็บรักษาไว้เลย”
ฮุน เซน ระบุว่า “ผมทิ้งมันไปนานแล้ว มันไม่มีค่าอะไรให้เก็บรักษาไว้เลย!”
“วันนี้ผมเห็นสถาบันของไทยอีกแห่งหนึ่งประกาศเพิกถอนประกาศนียบัตรที่มอบให้ผมไปแล้ว ขอชี้แจงให้ชัดเจนว่า ผมทิ้งประกาศนียบัตรทั้ง 3 ใบจากสถาบันไทยที่เคยมอบให้เมื่อนานมาแล้ว ประกาศนียบัตรเหล่านั้นไม่มีค่าสำหรับผใเลยและไม่คุ้มค่าที่จะเก็บรักษาไว้เลย”
“ประกาศนียบัตรใบแรกได้รับในปี พ.ศ. 2544 ใบที่สองในปี พ.ศ. 2549 และใบที่สามในปี พ.ศ. 2562 ผมไม่ได้ภาคภูมิใจในเอกสารเพียงแผ่นเดียวของสถาบันของคุณเลย”
“สติปัญญาและความรู้ของผมไม่ได้เกิดจากประกาศนียบัตรหรือโรงเรียนของคุณ แต่เกิดจากคนกัมพูชาและโรงเรียนในกัมพูชาที่ให้การศึกษาแก่ผม”
“ขอชี้แจงให้ชัดเจนว่า หากคุณลองพิจารณาช่วงเวลาที่คุณมอบประกาศนียบัตรเหล่านั้นให้ผม (ซึ่งผมไม่เคยขอจากคุณ) และเปรียบเทียบกับช่วงเวลาที่ผมรับราชการ จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าประกาศนียบัตรของคุณไม่ได้มีส่วนช่วยใดๆ ต่อความสำเร็จของผมเลย”
“ประกาศนียบัตรเหล่านั้นได้รับหลังจากที่ผมบรรลุเป้าหมายสำคัญดังต่อไปนี้แล้ว”
“ในปี พ.ศ. 2522 ตอนอายุ 27 ปี ผมได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในปี พ.ศ. 2524 ตอนอายุ 29 ปี ผมได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในปี พ.ศ. 2528 ตอนอายุ 32 ปี ผมได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี”
“ผมเชื่อว่าคุณน่าจะรู้สึกละอายใจหากจะกลับไปทบทวนการประเมินคุณสมบัติของคุณเมื่อครั้งที่มาขอให้ผมรับประกาศนียบัตร ผมจะสั่งการให้สำนักงานของผมเผยแพร่ผลการประเมินของคุณเกี่ยวกับคุณงามความดีของผม เพื่อเป็นการเตือนความจำ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ลืม คุณไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอดีตได้ และขอย้ำเตือนอีกครั้งว่า คุณมามอบประกาศนียบัตรเหล่านั้นพร้อมกับคำยกย่องอย่างเป็นทางการ ไม่ใช่ในทางกลับกัน การจะรับหรือไม่รับนั้นเป็นการตัดสินใจของผมโดยสิ้นเชิง และผมไม่ใช่คนที่จะรับอะไรมาแบบไม่ลืมหูลืมตา”
ต่อมาในเช้าวันที่ 23 ส.ค. 68 สำนักงานประธานวุฒิสภากัมพูชาได้ออกแถลงการณ์ แจ้งเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยไทย 3 แห่งใช้ในการพิจารณาเพื่อมอบปริญญากิตติมศักดิ์ให้ สมเด็จ ฮุน เซน
แถลงการณ์ระบุว่า “สำนักงานประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้แจ้งให้สาธารณชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทราบถึงเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยทั้ง 3 แห่งในประเทศไทยใช้ในการประเมินคุณธรรมของ สมเด็จ ฮุน เซน ก่อนที่จะมีมอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แก่ท่าน ดังต่อไปนี้”
“1. มหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ให้แก่สมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในปี 2544 เพื่อยกย่องผลงานของท่านในการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อนบ้าน มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างกัมพูชาและไทย เกณฑ์การตัดสินรางวัลมุ่งเน้นไปที่บทบาทที่ท่านได้รับการยอมรับในการส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค”
“เหตุผลหลักของการมอบปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขารัฐศาสตร์ ซึ่งได้รับพระราชทานเมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2544 คือเพื่อยกย่องความพยายามของ สมเด็จ ฮุน เซน ในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา แถลงการณ์อย่างเป็นทางการของมหาวิทยาลัยในขณะนั้นยกย่องท่านในการส่งเสริมสันติภาพและความร่วมมือ ซึ่งสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ทั่วไปของปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ นั่นคือ เพื่อยกย่องบุคคลที่สร้างคุณูปการเชิงบวกที่สำคัญต่อสังคม ไม่ว่าจะเป็นระดับชาติหรือระดับนานาชาติ”
“พื้นฐานของปริญญาคือการประเมินคุณูปการของ สมเด็จ ฮุน เซน ข้อบังคับของมหาวิทยาลัยระบุว่า ปริญญากิตติมศักดิ์สำหรับบุคคลที่สร้างคุณูปการสำคัญต่อสังคมและยึดมั่นในคุณค่าของปริญญา เกณฑ์ที่ใช้จะรวมถึงการประเมินการกระทำและนโยบายของสมเด็จฮุนเซนในฐานะนายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีกับประเทศไทย”
“2. มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา พระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาการศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น แก่ สมเด็จ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2549 เกณฑ์เฉพาะที่ใช้สำหรับรางวัลนี้มีดังนี้”
“การมีส่วนสนับสนุนด้านการศึกษา: มหาวิทยาลัยยกย่องการมีส่วนสนับสนุนที่สำคัญของฮุนเซนต่อสาขาการศึกษา”
“การอุทิศตนเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชน: ท่านได้รับเกียรติสำหรับความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละของท่านในการปรับปรุงความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนชาวกัมพูชา”
“การพัฒนาความสัมพันธ์กัมพูชา-ไทย: ปริญญาดังกล่าวยังเป็นการยกย่องบทบาทของท่านในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทยให้ดีขึ้นอย่างมาก”
“3. มหาวิทยาลัยเกริก ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนในประเทศไทย ได้มอบปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ให้แก่ สมเด็จ ฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในเดือนมี.ค. 2562 โดยปริญญาดังกล่าวเป็นปริญญาเอก สาขาการสื่อสารทางการเมือง”
“อธิการบดีมหาวิทยาลัยระบุว่า ปริญญาบัตรนี้มอบให้แก่ สมเด็จ ฮุน เซน เพื่อยกย่องความสำเร็จในการปลดปล่อยและฟื้นฟูกัมพูชา คำแถลงของมหาวิทยาลัยเน้นย้ำถึงการใช้การสื่อสารทางการเมืองของท่านในความพยายามที่จะโค่นล้มระบอบเขมรแดงและยุติสงครามกลางเมืองที่ยืดเยื้อมานานหลายทศวรรษ รางวัลนี้ยังมอบให้แก่บทบาทของท่านในการสร้างความปรองดองแห่งชาติและความเป็นผู้นำ ซึ่งมหาวิทยาลัยระบุว่านำไปสู่ชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งปี 2561”
“เกณฑ์การตัดสินให้สมเด็จฮุนเซนได้รับประกาศณียบัตรนี้คือ”
“ความสำเร็จทางการเมือง: การยอมรับการดำรงตำแหน่งอันยาวนานในฐานะผู้นำทางการเมืองและความสำเร็จในการนำทางยุคหลังความขัดแย้งของกัมพูชา”
“การสื่อสารทางการเมือง: ลักษณะเฉพาะของระดับนี้ชี้ให้เห็นว่าการใช้การสื่อสารเพื่อบรรลุเป้าหมายทางการเมืองของท่านเป็นปัจจัยสำคัญ”
“การปรองดองและการพัฒนาประเทศ: ผลงานของท่านในการยุติสงครามกลางเมืองและการฟื้นฟูชาติถูกยกมาเป็นเหตุผลหลักของเกียรติยศนี้”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “ฮุน เซน” ลั่น โยนปริญญาทุกใบที่ได้จากไทยทิ้งไปหมดแล้ว ชี้ไม่มีค่าอะไร
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.pptvhd36.com