รมช.กลาโหมเผย ตั้งเกณฑ์วัดความจริงใจกัมพูชา 3 ระดับ บอกผ่านระดับหนึ่งแล้ว หลังบรรลุข้อตกลงหยุดยิง รอดูปฏิบัติจริง
วันนี้ (6 สิงหาคม) พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาราชการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยก่อนการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อรวบรวมข้อมูลจากการประชุมฝ่ายเลขานุการ คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ว่า ผลการหารือของฝ่ายเลขานุการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เบื้องต้นข้อเสนอที่ได้เสนอไปมีความเห็นชอบร่วมกันทั้งสองฝ่าย แต่ต้องมาดูรายละเอียดอีกครั้งว่าตรงกับที่ สมช. ได้ให้ความเห็นชอบไว้ประมาณ 13-14 ข้อหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีหากกัมพูชามีความจริงใจที่จะหยุดยิง จากการบรรลุข้อตกลงในระดับเลขานุการ
ทั้งนี้ ส่วนตัวแบ่งเป็น 3 ระดับ คือในระดับเลขานุการถือว่าผ่านเกณฑ์แล้ว ส่วนการประชุมในระดับรัฐมนตรีพรุ่งนี้ (7 สิงหาคม) จะเป็นการวัดความจริงใจระดับ 2 ส่วนที่เหลือคือระดับ 3 จะวัดว่าเมื่อถึงเวลาการปฏิบัติจริงจะทำตามข้อตกลงหรือไม่
โดยปกติเมื่อมีการประชุมกองเลขานุการของ GBC ฝ่ายกัมพูชา มักจะรอฟังข้อเสนอจากฝ่ายไทย และให้ข้อพิจารณามาในการแลกเปลี่ยน ซึ่ง 3 วันผ่านไปได้ข้อสรุปที่น่าพอใจ ซึ่งต้องดูในวันพรุ่งนี้อีกครั้ง
ส่วนที่ไทยยื่นข้อเสนอไปมีเรื่องเงื่อนไขเวลาหรือไม่ พล.อ. ณัฐพล ระบุว่า ก็มีแต่ต้องขอดูรายละเอียด แต่ขอให้ทุกท่านสบายใจได้ เรายึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก คำนึงถึงอธิปไตย และที่อยากเน้นย้ำว่าการประชุม GBC มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของทั้งสองประเทศเป็นประธาน ฉะนั้นกรอบการพิจารณาจะมุ่งไปที่ทางด้านความมั่นคงในเรื่องการหยุดยิง แต่มีงานที่ต้องทำอีกหลายอย่าง เช่น การเรียกร้องค่าเสียหายของพลเรือน แต่จะไม่มีการพูดถึงเรื่องเขตแดน เนื่องจากจะต้องรอให้เข้าสู่การประชุม JBC ซึ่งดูแล้วขั้นตอนอาจดูเยอะ แต่ต้องมีความรอบคอบ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการพิจารณาหลายอย่าง
พล.อ. ณัฐพล ยังระบุด้วยว่า ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวานนี้ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี สั่งการให้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติเป็นประธานในการประชุมพิจารณาแบ่งมอบงาน เพื่อให้ประชาชนสบายใจ ส่วน ศบ.ทก. เรามุ่งไปที่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เนื่องจากมีหน่วยราชการต่างๆ มาร่วมกันทำงาน ซึ่งจะทำให้กลไกปกติไม่สามารถทำงานได้ ต้องอาศัยการทำงานของกลไกพิเศษเป็นสิ่งที่ไม่ควรเป็น
ส่วนหลังจากนี้ขั้นตอนคณะกรรมการอื่นๆ จะง่ายขึ้นหรือไม่ พล.อ. ณัฐพล กล่าวว่า กลไกที่เกี่ยวเนื่องต่อไปคือ RBC ซึ่งในที่ประชุม GBC จะมอบหมายให้ RBC เป็นผู้กำหนดเรื่องการหยุดยิง การปรับกำลัง การวางกำลัง เพราะ GBC เป็นเพียงการตีกรอบไปให้ ส่วนกลไก JBC ที่ทางกัมพูชาบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด เพราะอยากนำเรื่องเข้าสู่ศาลโลกซึ่งไทยไม่ยอมรับ แต่เราอยากให้เข้าสู่ที่ประชุมนี้ เนื่องจากเป็นการพูดคุยเรื่องเขตแดน
พล.อ. ณัฐพล ยังระบุถึงสาเหตุการไม่ยกเลิก MOU43 ว่า MOU43 ยังมีประโยชน์ที่ทำให้เราสามารถกล่าวหากัมพูชากับนานาชาติได้ เช่น การเข้ามาขุดคูเลตบริเวณเขตประเทศไทยถือว่าผิด MOU43 ซึ่งหากไม่มีตรงนี้จะทำได้แต่กล่าวหา แต่ไม่มีกรอบที่จะอ้าง
พล.อ. ณัฐพล ยังกล่าวว่า กรอบข้อตกลงที่เสนอไปยังกัมพูชายังเป็น 8 ประเด็น โดยเฉพาะข้อตกลงหยุดยิง และมีอีก 6 ประเด็นที่เป็นเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกัน ซึ่งกัมพูชารับทั้งหมด แต่ช่วงบ่ายวันนี้สื่อของกัมพูชากลับรายงานว่า ไม่ได้เต็มใจรับเงื่อนไข ซึ่งเรื่องนี้คิดว่าไม่เป็นปัญหาเพราะคุยกันด้วยเอกสาร หากเอกสารมีความเห็นพ้องต้องกันก็ต้องเห็นพ้องต้องกัน และการมีผู้สังเกตการณ์ประเทศที่ 3, 4 และ 5 เป็นเรื่องดีเพราะจะเป็นพยานให้เราอยู่แล้ว โดยขั้นตอนต่อไปจะเป็นการกำกับว่า กัมพูชาทำตามที่ตกลงกันไว้หรือไม่ แต่ข้อเสียก็คือ ควรจะพูดคุยตกลงกันในระดับทวิภาคีมากกว่า