สรุปกรณีพระอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ชื่อ-เลขบัตรประชาชนซ้ำกับคนตาย แถมใช้เปิดบัญชีธนาคาร สู่คำถามถึงความปลอดภัยใน ‘ข้อมูลส่วนตัว’
ตั้งแต่ที่เริ่มมีการเปิดโปงมหากาพย์วัดพระบาทน้ำพุ สังคมไทยก็ไม่เคยได้พักเลยสักวัน ซึ่งล่าสุดวันนี้ หมอบีและพระอลงกตก็ถูกจับกุมแล้ว ในข้อหาทุจริตยักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ
แต่อีกหนึ่งในประเด็นของวัดพระบาทน้ำพุที่น่าสนใจคือ มีการตั้งคำถามถึงตัวตนของ ‘พระอลงกต’ อดีตเจ้าอาวาสวัด ที่ค้นไปค้นมาทั้งชื่อและเลขบัตรประชาชนดันไปตรงกับคนที่เสียชีวิตไปแล้ว จนกลายเป็นคำถามว่าพระอลงกตเป็นใครกันแน่?
เราสรุปและไล่เรียงข้อประเด็นต่างๆ มาให้ในโพสต์นี้
ช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีรายงานข่าวว่า เสกสันน์ ทรัพย์สืบสกุล หรือ หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ ถึงพฤติกรรมที่ถูกกล่าวหาว่า พัวพันและทำผิดจากกรณีเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งเป็นวัดดังในจังหวัดลพบุรี และดำเนินงานในฐานะ ‘สถานชีวาภิบาล’ ของผู้ป่วยโรค HIV สังคมยังตั้งถามต่อถึงการบริหารจัดการผู้ป่วยและเงินของวัด รวมถึงการรู้เห็นเป็นใจของเจ้าอาวาสวัด จึงได้ทำให้มีการตรวจสอบภายในเพิ่มเติม ในขณะที่สังคมโซเชียลก็เริ่มขุดคุ้ยเรื่องราวในวัดเพิ่มเพื่อปะติดปะต่อเรื่องราว มีการกลับไปพูดถึง รายงานข่าวของ Bangkok Post เมื่อกว่าสิบปีที่แล้ว ที่มีข้อสังเกตเกี่ยวกับ นโยบายการดูแลผู้ป่วย เงินบริจาค และข้อคำถามที่ช่องโหว่ที่อาจนำไปสู่การทุจริต ทำให้ผู้คนเริ่มให้ความสนใจ และตั้งคำถามถึงตัวตนของ ‘หลวงพ่ออลงกต’ มากขึ้นในฐานะเจ้าอาวาสของวัด จุดพีคของเรื่องนี้คือ มีนักข่าวไปตรวจสอบประวัติของพระอลงกต และค้นพบว่า ชื่อและบัตรประชาชนที่ปรากฎบนใบสุทธิ (บัตรประจำตัวพระ) ของพระอลงกต ไม่ซ้ำกับ ชายที่ชื่อ ‘อลงกต พลมุข’ อดีตข้าราชการคนหนึ่งที่เสียชีวิตไปแล้ว เมื่อเป็นแบบนี้ คำถามคือแล้ว พระอลงกตคือใครกันแน่?
ถ้าเทียบข้อมูลในใบสุทธิของพระอลงกต กับข้อมูลทางราชการของ นาย อลงกต พลมุข จะเจอสิ่งที่เหมือนกันอย่างน่าแปลกใจ เช่น ชื่อ อลงกต เหมือนกัน / เลขบัตรประชาชน เหมือนกัน / ชื่อบิดา ‘เสริมวิทย์’ เหมือนกัน / ชื่อมารดาเกือบจะเหมือนกัน ของพระอลงกตคือ ‘วิไลภรณ์’ ส่วน นาย อลงกตคือ ‘วิไลวรรณ’ ไม่เพียงแค่ชื่อและข้อมูลบนบัตรที่คล้ายกัน แต่ยังมีทดสอบของผู้สื่อข่าวด้วยว่า ถ้ากดโอนเงินพร้อมเพย์ไปยังบัญชีที่เป็นชื่อของนายอลงกต ที่เสียชีวิตไปแล้ว ก็จะพบว่า ปลายทางของการโอนเงินนั้นคือบัญชีของกองทุนอาทรประชานาถ ซึ่งวัดพระบาทน้ำพุเคยแจ้งไว้ว่าเป็นบัญชีสำหรับการบริจาคเงินให้กับวัด ยังมีปริศนาเกี่ยวกับวันเกิดของพระอลงกตด้วยเช่นกัน ที่ตอนนี้ไม่แน่ชัดว่า ตกลงแล้ว พระอลงกตอายุเท่าไหร่? เพราะข้อมูลในระบบราชการพบว่า พระอลงกต เกิดวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2503 ส่วนใบสุทธิพระระบุว่า เกิดวันที่ 1 ธันวาคม 2498 ขณะที่ข้อมูลจากจังหวัดลพบุรี ระบุว่า เกิดวันที่ 9 ธันวาคม 2496 ข้อมูลจากข่าว 3 มิติ ระบุว่า พระอลงกต มีชื่อเดิมว่า ‘เกรียงไกร เพ็ชรแก้ว’เกิดที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อนในวัยเด็กเรียกเขาว่า ‘จอร์จ’ เขาเรียนหนังสือ และเป็นนักฟุตบอลเยาวชนของจังหวัด แต่หลังจากที่เขาเรียนจบในปี 2523 ก็ไม่มีใครได้ข่าวของเขาอีกเลย มนตรี อุดมพงษ์ ผู้ช่วยบรรณาธิการข่าว 3 มิติ ตั้งข้อสังเกตว่า ช่วงเวลาที่หายไป เป็นช่วงเวลาที่พระอลงกตเป็นวัยรุ่น ซึ่งถ้ายึดตามข้อมูลที่ปรากฎก็จะพบว่า เรียนที่เทพศิรินทร์บ้าง เรียนที่ ม.เกษตรบ้าง เรียนปริญญาโทบ้าง หรือแม้กระทั่งรับราชการที่กระทรวงเกษตร
ทีมข่าว 3 มิติลงพื้นที่ไปตรวจสอบกับบิดาของอลงกต (ตัวจริง) ที่ จ.มหาสารคาม และได้รับการยืนยันว่า ครอบครัวมีบุตรชายทั้งหมด 3 คนและไม่มีใครเป็นพระสงฆ์ โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาทางครอบครัวก็ไม่ทราบเรื่องนี้ จนกระทั่งมีบิลค่าบริการของค่ายโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเรียกเก็บเงินในชื่อ ‘พระภิกษุอลงกต พลสุข’ ทำให้เกิดความสงสัย และนำเรื่องไปร้องเรียนให้ตรวจสอบ สิ่งที่น่าตั้งคำถามต่อมาคือ พระอลงกตมีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลักเป็นของตัวเองในปี 2527 ซึ่งเป็นระยะเวลา 2 ปีก่อนบวช แต่เมื่อมาบวช เจ้าตัวกลับเลือกใช้เลข 13 หลักของผู้ที่เสียชีวิตไปแล้ว และทำใบสุทธิ 2 ครั้งในเดือนมีนาคมปี 2552 (2 และ 18 มีนาคม) ทว่าก็ยังใช้เลข 13 หลักของผู้เสียชีวิตเช่นเดิม
อลงกรณ์ จากข่าว 3 มิติ ตั้งคำถามว่า นี่คือความตั้งใจที่จะพรางตัวตน หรือปกปิดประวัติอย่างจงใจ โดยที่ก่อนหน้านี้ พระอลงกตได้ทำธุรกรรมต่างๆ เช่น ทั้งการซื้อที่ดิน การโอนที่ดิน หรือธุรกรรมการเงินกับธนาคาร โดยใช้ข้อมูลไม่ถูกต้องนี้ไปจำนวนมาก ซึ่งชี้ว่าเป็นหน้าที่ของหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องเร่งตรวจสอบ ว่าปล่อยให้มีการนำข้อมูลปลอมเหล่านี้ทำธุรกรรมต่างๆ ได้อย่างไร ด้าน กรมการปกครอง ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ (อลงกต พูลมุข) หรือ หลวงพ่ออลงกต เกิดปี 2503 เลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วย 036-50-7 และนามสกุล พูลมุข มีสระอู ส่วน อลงกต พลมุข (เสียชีวิตแล้ว) เกิดปี 2505 เลขบัตรประชาชนลงท้ายด้วย 796-46-3 นามสกุล พลมุข ไม่มีสระอู นั่นทำให้ทั้งสองมิใช่บุคคลเดียวกัน และเลขบัตรประชาชนไม่ซ้ำกัน ทำให้กระแสข่าวที่เผยว่าเลขบัตรประชาชนตรงกับผู้เสียชีวิตนั้นไม่เป็นความจริง กรมการปกครองชี้แจงด้วยว่า พระอลงกตได้ทำการเปลี่ยนชื่อจาก เกรียงไกร เพ็ชรแก้ว เป็น อลงกต พลมุข ในปี 2552 และพบหลักฐานการทำรายการบัตรประชาชน รูปถ่ายพระอลงกตโดยไม่มีการเปลี่ยนเลขประจำตัวประชาชน ส่วนประเด็นการออกใบสุทธินั้น ไม่ได้เป็นเอกสารราชการยืนยันตัวบุคคลที่ออกโดยกรมการปกครองแต่อย่างใด ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประชาชนของผู้ตายที่ตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกันต่อไป เราได้เห็นแล้วว่าจากประเด็นเงินวัด สู่การเปิดโปงตัวตนอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งยังมีอีกหลายเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งหาข้อเท็จจริงมาชี้แจงต่อไปว่า แท้จริงแล้ว พระอลงกตเป็นใคร มีเหตุผลอะไร
คำถามที่สำคัญมากๆ ในข่าวนี้ก็คือ เกิดช่องโหว่อะไรในระบบราชการ ระบบทะเบียนราษฎร ทะเบียนของพระ ตลอดจนระบบของธนาคาร ที่ทำให้ชื่อของคนที่เสียชีวิตถูกใช้ซ้ำได้? และเรื่องนี้ อาจเป็นมากกว่าแค่กรณีของพระอลงกต แต่รวมถึงความปลอดภัยเกี่ยวกับ ‘ข้อมูลส่วนตัว’ ของเราทุกคน