‘ชานยอล’ ส่งมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ‘Upside Down’ นำเสนอหลากหลายอารมณ์ชีวิต
“ชานยอล” (CHANYEOL) กลับมาพร้อมผลงานล่าสุดมินิอัลบั้มชุดที่ 2 “Upside Down” (อัปไซด์ ดาวน์) นับเป็นอัลบั้มเดี่ยวชุดใหม่ในรอบ 1 ปี หลังจากมินิอัลบั้มแรก “Black Out” (แบล็ก เอาต์) เมื่อเดือนสิงหาคมปี 2567
สำหรับมินิอัลบั้มชุดที่ 2 Upside Down ประกอบด้วยเพลงแนวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงที่ชานยอลให้ความสนใจมากที่สุดอย่างเพลงที่เน้นเสียงของวงดนตรี ตลอดจนการเพิ่มรายละเอียดตามสไตล์ของตัวเองเข้าไปในเพลงแนวป็อป ร็อก ฮิปฮอป อาร์แอนด์บี และอื่น ๆ รวมทั้งหมด 6 เพลง ซึ่งจะนำเสนออารมณ์ที่หลากหลายที่ทุกคนสัมผัสได้ในชีวิต และเช่นเดียวกับชื่ออัลบั้ม Upside Down ที่แปลว่า กลับหัวกลับหาง เพลงในอัลบั้มนี้ไม่ได้ถ่ายทอดแค่ช่วงเวลาที่สดใส เช่น ความสุข ความรัก และมิตรภาพเท่านั้น แต่ยังถ่ายทอดช่วงเวลาอันมืดมน เช่น ความเจ็บปวด ความเสียใจ และความว่างเปล่าอีกด้วย
สำหรับเพลงไตเติลชื่อเดียวกับอัลบั้มอย่าง“Upside Down” เป็นเพลงแนวอิเล็กทรอนิกส์ร็อกที่ผสมผสานกีตาร์ริฟฟ์เสียงแตกพร่า เสียงกลองสไตล์ร็อกคลาสสิก และซินธ์อิเล็กทรอนิกส์ เนื้อเพลงแสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะไม่ยอมแพ้ต่อตัวเองจนถึงที่สุด แม้จะอยู่ท่ามกลางความยากลำบากที่รู้สึกเหมือนโลกกำลังจะพังทลายก็ตาม ด้านมิวสิกวิดีโอของเพลงนี้ถ่ายทำขึ้นภายใต้คอนเซปต์เกี่ยวกับ “ไฟฟ้าช็อต” โดยจะได้รับชมภาพลักษณ์ที่ตรงข้ามกันของชานยอลผู้แสดงเป็นสองตัวตน และแอนิเมชันที่แสดงอารมณ์ไม่สมจริงหลังจากถูกไฟฟ้าช็อต
ชานยอลได้แนะนำเกี่ยวกับเพลงไตเติล Upside Down ว่า “ครั้งแรกที่ได้ฟัง ผมรู้สึกตื่นเต้นเหมือนโดนไฟฟ้าช็อตเลยครับ เป็นเพลงที่ผมอยากถ่ายทอดออกมาให้ดีมาก ๆ ส่วนตัวแล้วผมฟังบ่อยมากตอนออกกำลังกายครับ เพลงนี้เป็นเหมือนคู่หูออกกำลังกายที่เปี่ยมไปด้วยพลังครับ !” พร้อมเผยความรู้สึกถึงการเตรียมอัลบั้มนี้ว่า “เนื่องจากอัลบั้มนี้อัดแน่นไปด้วยเสียงร้องของผม ผมจึงอยากทำออกมาให้ดียิ่งขึ้น ผมค้นคว้าวิธีการถ่ายทอดเสียงเยอะมาก ทดลองสไตล์ต่าง ๆ เพื่อหาสไตล์ที่เหมาะกับตัวเอง และผมคิดว่าต้องขอบคุณการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ที่ทำให้ผมกลับมาพบกับทุกคนด้วยสไตล์ที่ผมพึงพอใจครับ”
นอกจากนี้ ในอัลบั้มยังมี “Back & Forth” เพลงแนวอัลเทอร์เนทีฟ ฮิปฮอป บอกเล่าความสัมพันธ์ที่ไม่มั่นคง ทั้งคู่ต่างรักกันแต่ก็ทำร้ายกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า, “Ocean Drive” เพลงป็อปร็อกพูดถึงมิตรภาพอันแสนงดงามผ่านเนื้อเพลงเกี่ยวกับการเดินทางออกจากชีวิตประจำวันกับเพื่อนที่ล้ำค่า, “High & Dry” เพลงป็อปจังหวะช้าที่ได้รับอิทธิพลจากแนวเพลงคันทรีและป็อปร็อก เนื้อเพลงบรรยายถึงภาพเหมือนตนเองของผู้คนในยุคปัจจุบันที่ต้องการค้นหาตัวตนที่แท้จริงของตนเอง ท่ามกลางความว่างเปล่าและไร้เรี่ยวแรง, “Happy Accident (Feat. SOLE)” เพลงอาร์แอนด์บีที่มีเสียงแบบย้อนยุค เนื้อเพลงเปรียบเทียบการตกหลุมรักและพัฒนามาเป็นคู่รักกับอุบัติเหตุอันน่ายินดีที่เกิดขึ้นกับทั้งคู่ และ “123 Dance” เพลงแนวฮิปฮอปที่มีเอกลักษณ์อยู่ตรงเนื้อสัมผัสแบบวินเทจและหยาบกร้าน เนื้อเพลงสื่อความคิดถึงคนที่คอยให้การสนับสนุน และมีทัศนคติเชิงบวกของการทำให้ดีที่สุดอยู่เสมอ..