ชายแดนสุรินทร์ยังตึงเครียด! ชาวบ้านทยอยอพยพ "ส.ส.ปทิดา" ยันไม่ได้หาย เร่งดันค่าชดเชยเสี่ยงภัย อสม.-ชรบ.

วันที่ 25 ส.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านจังหวัดสุรินทร์ยังไม่ปกติและไม่น่าไว้ใจ โดยเฉพาะตามแนวชายแดนอำเภอพนมดงรัก อำเภอกาบเชิงและอำเภอสังขะ มีราษฎรอพยพออกจากพื้นที่ออกมาเป็นระยะๆโดยอพยพมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ซึ่งอยู่ห่างจากพื้นที่ชายแดนพอสมควร ส่วนมากจะเป็นศูนย์พักพิงอยู่ตามวัดวาอารามต่างๆที่ยังเปิดให้ชาวบ้านได้เข้ามาพักอาศัยได้ ทั้งที่ได้ปิดศูนย์ฯไปแล้วและมีผู้นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้ที่ศูนย์พักพิงอยู่ตลอดเวลา รวมทั้งทางจังหวัดสุรินทร์ก็ได้จัดสรรงบประมาณมาซื้อสิ่งของที่จำเป็นนำมามอบให้ผู้อพยพตลอด

ขณะที่นางปทิดา ตันติรัตนานนท์ (ซ้อกุล) ส.ส.สุรินทร์ เขต 8 พรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็น ส.ส.เขตพื้นที่ชายแดน ได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนชาวบ้านตามแนวชายแดนเพื่อเป็นกำลังใจให้ชาวบ้าน พร้อมรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตำบลคูตัน , ตำบลแนงมุดและตำบลโคกตะเคียน อำเภอกาบเชิง จ.สุรินทร์ โดยพบปะพูดคุยกับบรรดาอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) พร้อมมอบเสื้อและขนมห่อใบตอง ซึ่งก่อนนี้ในคราวที่ชาวบ้านต้องอพยพจากพื้นที่ไปอยู่ตามศูนย์พักพิงชั่วคราวตามสถานที่ต่างๆจำนวน 76 แห่ง ก็ได้นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคและสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้ประจำตัว โดยเฉพาะเด็กสตรีและผู้ป่วยติดเตียงไปมอบให้ตลอดเวลา ซึ่งแสดงออกถึงความมีน้ำใจความห่วงใยพี่น้องประชาชนผู้ที่อพยพมาจากพื้นที่ชายแดนมาโดยตลอดและตรวจเยี่ยมการสร้างหลุมบังเกอร์หลบภัยในพื้นที่ด้วย

ส.ส.ปทิดา ตันติรัตนานนท์ กล่าวว่า ทุกสัปดาห์ที่สภาฯปิดการประชุม จะออกมาพบปะเยี่ยมเยียนเพื่อรับทราบปัญหาพี่น้องประชาชนโดยตลอด ยิ่งช่วงเวลานี้พื้นที่ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ ยังมีความไม่สงบสุขสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจยิ่งต้องออกมาพบปะพี่น้องบ่อยมากขึ้น เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านและหาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือ โดยจะสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ยื่นเป็นกระทู้สดสอบถามรัฐบาล ว่ามีมาตรการในการช่วยเหลือชาวบ้านอย่างไรบ้าง เช่นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านและชุดรักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน(ชรบ.)ว่าจะมีค่าจะมีค่าตอบแทนค่าเสี่ยงภัยค่าเสียโอกาสในการประกอบอาชีพของชาวบ้านมีมากน้อยเพียงใด และให้เร่งแจกจ่ายให้ถึงมือชาวบ้านให้เร็วที่สุดในยามที่ชาวบ้านตามแนวชายแดนซึ่งผ่านเหตุการณ์วิกฤตมาหมาดๆ สำหรับการสร้างหลุมหลบภัยร่วมตามชุมชนต่างๆซึ่งยังต้องสร้างขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก ได้ประสานกับทางจังหวัดสุรินทร์ก็ทราบว่ามีการนำเสนอข้อมูลการสร้างบังเกอร์ตามแนวชายแดนอีกเป็นจำนวนมากให้กระทรวงมหาดไทยได้ทราบแล้ว ซึ่งตนจะได้ติดตามเร่งรัดในเรื่องนี้ให้ออกมาให้เร็วที่สุดเพราะว่าขณะนี้สถานการณ์ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ ต้องถือว่ายังไม่น่าไว้ใจมากที่สุดอาจมีการปะทะกันเกิดขึ้นอีกได้ทุกเมื่อ ดังนั้นการมีหลุมหลบภัยให้ชาวบ้านตามพื้นที่ชายแดน จึงเป็นความจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่รัฐบาลจะต้องหันมามองและเร่งดำเนินการมาให้ชาวบ้านให้เร็วที่สุด

ส่วนที่มีข่าวออกไป เรื่องชาวบ้านถามหา ส.ส.ว่าหายไปไหน นั้น เป็นการสื่อสารกันผิด ความหมายชาวบ้านที่ถามคือเขาเป็นแกนนำเสื้อแดง ที่เขาถามหาคือ ส.ส.เสื้อแดง เพียงแต่เขาพูดออกมาไม่หมดและไม่ระบุเป็นที่ชัดเจน จึงเกิดการเข้าใจผิด และข่าวก็นำคำพูดนั้นไปลง ซึ่งก็ได้เข้าไปเยี่ยมสอบถามแล้วเข้าใจกันแล้ว และก็ไม่ได้ติดใจอะไร ซึ่งคนในพื้นที่เขาก็เห็นว่าเราลงพื้นที่โดยตลอดไม่เคยทิ้งพื้นที่ไปไหน ยิ่งมีเหตุการณ์แบบนี้ยิ่งต้องลงพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหาและให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

ข่าวกล่าวว่า ที่ปราสาทตาควายและเนิน 350 ตำบลบักไดอำเภอพนมดงรัก ทหารทั้งสองฝ่ายยังตรึงกำลังอยู่ในที่ตั้งทหารฝ่ายกัมพูชายังมีการยั่วยุอยู่ตลอดเวลารวมทั้งลักลอบเข้ามายังฝั่งไทยแอบวางทุ่นระเบิดอยู่เสมอๆซึ่งชุดลาดตระเวนของไทยต้องระมัดระวังกันมากเป็นพิเศษ รวมทั้งข่าวคราวในพื้นที่ว่าจะมีการปะทะกันขึ้นอีกในเร็วๆนี้ยิ่งความหวาดกลัวให้ชาวบ้านเป็นอย่างมากบางครอบครัวต้องอพยพออกจากพื้นที่มาทั้งหมดแล้ว ส่วนการสร้างถนนหินคลุกขึ้นไปยังเนิน 350 ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตรดำเนินการเรียบร้อยแล้ว