พ่อของนายอลงกต พูดแล้ว! หลังลูกชื่อเหมือน พระอลงกต วัดพระพุทธบาทน้ำพุ ความจริงปรากฎ
จากกรณีที่เกิดความสับสนในสังคมเกี่ยวกับชื่อ อลงกต พลมุข ซึ่งปรากฏในทะเบียนราษฎร์ว่าเคยเป็นข้าราชการกรมชลประทาน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเสียชีวิตไปเมื่อ 2 ปีก่อน โดยมีชื่อ-นามสกุล ตรงกับ พระอลงกต วัดพระพุทธบาทน้ำพุ และชื่อบิดาในข้อมูลทะเบียนราษฎร์คือ เสริมวิทย์ พลมุข เช่นเดียวกัน ทำให้เกิดข้อสงสัยทั้งในสาธารณชนและในกลุ่มเครือญาติว่าอาจมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่
ล่าสุด ที่บ้านหลังหนึ่งในตำบลกู่ทอง อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม ซึ่งเป็นที่อยู่ของนายเสริมวิทย์ พลมุข บุคคลที่มีชื่อปรากฏในทะเบียนราษฎร์ดังกล่าว
นายเสริมวิทย์ ได้ให้ข้อมูลยืนยันอย่างชัดเจนว่า ตนไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับพระอลงกต วัดพระพุทธบาทน้ำพุ ทั้งทางสายเลือดและเครือญาติ พร้อมชี้แจงว่าข่าวหรือข้อมูลที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดนั้นไม่เป็นความจริง และขอให้สังคมรับทราบข้อมูลที่ถูกต้อง
นายเสริมวิทย์ พลมุข เล่าว่า ตนเองอายุ 84 เข้า 85 ปี มีลูชาย ชื่อนายอลงกต พลมุข แต่เสียชีวิตไปแล้ว เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ตนเองมีลูกชาย 3 คน คนโตและคนเล็กเสียชีวิตไปแล้ว เหลือแต่คนกลาง ซึ่งตนเองยืนยันว่า พระอลงกต นั้นไม่ใช่ญาติ ไม่ใช่ลูก พอทราบจากข่าว ตนเองก็ยังงง และสงสัยอยู่เลย และขอยืนยันไม่เกี่ยวข้องใดๆเลยกับพระอลงกต
ดร.ดาหวัน ทะสา นายก อบต.กู่ทอง เปิดเผยว่า ตนเองเป็นญาติๆกันนายอลงกต พลมุข ซึ่งพ่อของนายอลงกต เป็นน้องชายของแม่ ตะกูล พลมุข เหลือแต่นายเสริมวิทย์ พลมุข คนเดียว นอกนั้นเสียชีวิตหมดแล้ว แต่รู้จักกับพระอลงกต มาหลายปี ซึ่งรู้จักในนามพระวัดพระบาทน้ำพุ รักษาโรคเอดส์ ซึ่งตนเองเคยพาผู้ป่วยโรคเอดส์บ้านโจดบัวบานไปรักษาที่วัดพระบาทน้ำพุด้วย และผู้ป่วยโรคเอดส์ได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่เห็น ว่าพระอลงกต เป็นนามสกุลกับเรานึกว่าเป็นญาติกัน ก็ถามไถ่กัน เพราะไม่ได้อะไร แต่คนเป็นพ่อนั้นไม่ทราบว่าอลงกต เป็นชื่อลูกตนเอง ซึ่งลูกชายชื่อนายอลงกต พลมุข หรือ ป้อม ได้เสียชีวิตไปแล้ว เกิด พ.ศ.2505 มาเรียนที่แก่นนคร ลูกชาย 3 คนเรียนที่จังหวัดขอนแก่น และได้สอบบรรจุได้ที่ราชบุรี และย้ายตามแม่ไปที่ราชบุรี และพ่อกะแม่ได้แยกกันอยู่แต่ ความเป็นพ่อแม่ยังดูแลอยู่เหมือนเดิม ซึ่งนายเสริมวิทย์ พลมุข รับราชการ ซึ่งส่งเสียการเรียนยังใช้สิทธิของผู้เป็นพ่อ เบิกค่าใช้จ่ายได้อยู่
ซึ่งก่อนหน้าหนี้มีที่ข่าวจะออกมาประมาณ 2 ปี ญาติเป็นลูกชายของน้องชาย ที่อยู่ชุมพร คือ อ.เฉลิมพล พลมุขเป็นอาจารย์สอนที่ราชภัฏอยุทยา เห็นลูกศิษย์ นามสกุล พลมุข ก็เลยเอะใจและสงสัยเกี่ยวกับการใช้นามสกุลของบุคคลบางคน ซึ่งไปพ้องหรือเหมือนกับนามสกุลของ พระอาจารย์อลงกต วัดพระบาทน้ำพุ อันเป็นพระนักพัฒนาที่มีชื่อเสียง เป็นที่เคารพของประชาชนจำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้เริ่มจากการพูดคุยในกลุ่มเพื่อน ซึ่งต่างตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีความเกี่ยวข้องกับครอบครัว หรือ วงศ์ตระกูลของพระอาจารย์ แต่ตนเองก็ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นญาติกันจริงหรือเป็นเพียงความบังเอิญ ต่อมาได้เกิด ความกังวลที่เกิดขึ้น คือ หากมีบุคคลใช้นามสกุลเดียวกัน และมีการทำธุรกรรมทางการเงินหรือการติดต่อกับหน่วยงานต่าง ๆ (เช่น เอกสารจากบริษัทเอกชน ธนาคาร หรือเครือข่ายโทรศัพท์) ไปยังที่อยู่ซึ่งใกล้เคียงหรืออ้างอิงถึงครอบครัวตน อาจทำให้เกิดความสับสนหรือส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวันของข้าพเจ้าและครอบครัวได้
อย่างไรก็ตาม ตนไม่มีเจตนาจะสร้างความเสียหายหรือให้ร้ายต่อพระอาจารย์ เพราะท่านเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมมาอย่างยาวนาน เพียงแต่อยากให้เรื่องนี้มีความ ชัดเจน โปร่งใส และตรวจสอบได้ เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย และเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในอนาคต ดังนั้นจึงเห็นสมควรบันทึกเรื่องนี้ไว้เป็นข้อสงสัย และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบเพื่อความจริงให้กระจ่างชัดต่อไป