โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ยกเครื่องหลักสูตรพัฒนาผปก.โลจิสติกส์ไทย สอดรับศก.โลกที่ท้าทาย

สยามรัฐ

อัพเดต 2 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 2 วันที่แล้ว

"อธิบดีอรมน" ลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการให้บริการโลจิสติกส์ไทย ณ สถานประกอบการ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะทุกด้าน โดยเฉพาะการพัฒนาผู้ประกอบการให้พร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และบริบทท้าทายรอบด้านที่ได้รับผลกระทบจากเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พร้อมให้ความช่วยเหลือตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจอย่างรวดเร็ว รวมทั้ง นำความเห็นไปประสานความร่วมมือสถาบันการเงินจัดหาแหล่งเงินทุนอัตราดอกเบี้ยพิเศษ และปรับปรุงหลักสูตรการอบรมต่างๆ ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง เพื่อพัฒนาและสนับสนุนผู้ประกอบการให้มีระบบการบริหารจัดการเทียบเท่าสากล โดยเฉพาะการนำระบบ AI และเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยบริหารจัดการธุรกิจ

วันที่ 1 กันยายน 2568 นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตลอดเดือนกันยายน 2568 นี้ จะลงพื้นที่พบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และรับฟังข้อเสนอแนะผู้ประกอบการที่อยู่ภายใต้การส่งเสริมสนับสนุนของกรมฯ 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก และธุรกิจแฟรนไชส์ เพื่อนำข้อเสนอแนะที่ได้รับมาดำเนินการตามความต้องการและให้ความช่วยเหลือภาคธุรกิจได้อย่างตรงจุด ซึ่งเป็นไปตามนโยบาย ‘พาณิชย์พึ่งได้’ ของกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการให้หน่วยงานภายในกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่พบปะผู้ประกอบการแขนงต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานครและส่วนภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง และเร่งดำเนินการให้ความช่วยเหลือตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผลเชิงบวกต่อภาพรวมของประเทศ

อธิบดีอรมน กล่าวต่อว่า วันนี้ (วันที่ 1 กันยายน 2568) ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ บริษัท ดับบลิวซี.ภาคิน จำกัด อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ข้อเสนอแนะด้านต่างๆ รวมทั้ง ประเด็นปัญหาที่ภาคธุรกิจกำลังเผชิญอยู่และต้องการให้ภาครัฐให้ความช่วยเหลือ กับ นางสาวรุ้งจิรา วงศ์ใจ กรรมการผู้จัดการ และคณะผู้บริหารของบริษัทฯ

จากการพูดคุย พบว่า ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์กำลังเผชิญท้าทายหลากหลายด้าน โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค ยิ่งในปัจจุบันที่เศรษฐกิจมีการผันผวนตลอดเวลา ทำให้ธุรกิจมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงมากขึ้น โดยความท้าทายที่ธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ต้องเผชิญและเร่งรับมือ ได้แก่ 1) ด้านบุคลากร/แรงงาน ที่ปัจจุบันยังขาดบุคลากรที่เชี่ยวชาญและมีความรู้ความเข้าใจด้านโลจิสติกส์โดยตรง และขาดการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยบริหารจัดการธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันภาคธุรกิจมีแนวโน้มที่จะลงทุนด้านการพัฒนาคน การ Up Skill บุคลากรในองค์กร และสร้างระบบงานที่เป็นมาตรฐาน รองรับการเติบโตของธุรกิจมากขึ้น

2) ด้านระบบการจัดการข้อมูล ด้วยปัจจุบันผู้ประกอบการบางแห่งยังมีการทำงานแบบ Manual ทำให้มีความเสี่ยงด้านความถูกต้องของข้อมูล เช่น การติดต่อประสานงาน ความล่าช้า และไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีเท่าที่ควร ซึ่งผู้ประกอบการให้ความสำคัญต่อการปรับปรุงระบบการบริหารจัดการด้านนี้ โดยต้องการนำระบบ TMS (Transportation Management System) ซึ่งเป็นระบบซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้ธุรกิจจัดการกระบวนการขนส่งสินค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ตั้งแต่การวางแผนเส้นทาง จัดตารางเวลา ติดตามสถานะการจัดส่งแบบเรียลไทม์ จัดการเอกสาร ไปจนถึงการคำนวณต้นทุนและชำระเงิน โดยมีเป้าหมายหลักคือการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน เพิ่มความแม่นยำในการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์มาใช้ รวมถึงการนำมาตรฐาน ISO มาสร้างระบบและฐานข้อมูลที่ถูกต้อง รวดเร็วต่อการใช้งาน และสามารถตรวจสอบกลับได้ ทั้งในมุมของการวิเคราะห์ และวางแผนกลยุทธ์ต่างๆ

3) ความผันผวนด้านต้นทุนการขนส่ง ที่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเป็นพลังงานขับเคลื่อนเป็นหลัก ซึ่งมีความไม่เสถียร และไม่แน่นอน ผู้ประกอบการจึงต้องปรับกลยุทธ์ด้านการบริหารต้นทุน และสร้างมาตรฐานการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น วางแผนเส้นทาง ปรับกระบวนการการขนส่ง การติดตามผลงาน KPI ด้านการขนส่งเพื่อให้คุ้มค่าต่อการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้ลงทุน

ทั้งนี้ 3 ข้อที่กล่าวมา เป็นความท้าทายหลักที่ผู้ประกอบการธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ต้องเผชิญ จึงต้องการรับการสนับสนุนและช่วยเหลือจากภาครัฐ เพื่อลดทอนปัญหาที่เกิดขึ้น ได้แก่ สนับสนุนหลักสูตรอบรมพัฒนาบุคลากรด้านโลจิสติกส์ที่มีความทันสมัย เท่าทันการเปลี่ยนแปลงในแวดวงธุรกิจ มีระบบการบริหารจัดการธุรกิจที่เทียบเท่าสากล และกิจกรรมส่งเสริมด้านการตลาดที่ไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อให้บุคลากรในองค์กรมีความรู้เฉพาะทางและส่งเสริมให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่ง สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการทั้งในประเทศและต่างประเทศได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

อีกประการหนึ่ง คือต้องใช้เงินทุนในการปรับปรุงพัฒนาระบบการบริหารจัดการและนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมระบบทำงานให้มีประสิทธิภาพและลดต้นทุนในภาพรวม พัฒนาระบบการให้บริการที่มีความคล่องตัวและทันสมัย รวมถึง ช่วยเสริมสภาพคล่องและเป็นทุนหมุนเวียนในสถานประกอบการ จึงต้องการให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนหาแหล่งเงินทุนอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพื่อให้ธุรกิจสามารถเดินต่อได้อย่างมั่นคง

กรมฯ ยินดีรับฟังความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะด้านต่างๆ จากผู้ประกอบการ และพร้อมนำคำร้องขอมาจัดทำแผนให้ความช่วยเหลืออย่างเป็นรูปธรรม เบื้องต้น กรมฯ จะประสานความร่วมมือกับสถาบันการเงินในการพิจารณาให้สินเชื่ออัตราพิเศษแก่สถานประกอบการ พร้อมทั้งจับมือกับหน่วยงานพันธมิตรที่เกี่ยวข้องและสถาบันการศึกษาที่เปิดสอนวิชาโลจิสติกส์มาช่วยปรับปรุงหลักสูตรการฝึกอบรมพัฒนาองค์ความรู้ผู้ประกอบการให้บริการโลจิสติกส์ของไทยให้สอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถรับมือกับความท้าทายที่เกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้ด้วยความมั่นใจ โดยเฉพาะการนำระบบ AI และเทคโนโลยีที่สมัยใหม่มาช่วยบริหารจัดการธุรกิจ รวมทั้ง ปัจจัยสนับสนุนด้านต่างๆ ที่จะช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจโลจิสติกส์อยู่รอดบนเส้นทางธุรกิจ และเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้มีการเติบโตระยะยาว” อธิบดีอรมน กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...