ไทยมีครบ! กูรูยกย่อง 3 อาหาร "ตัวเร่ง" การไหลเวียนโลหิตและฟื้นฟูหัวใจ กินตอนเช้ายิ่งดี

ไทยมีครบ 3 อาหาร ถูกยกย่องเป็น “ตัวเร่ง” การไหลเวียนโลหิตและฟื้นฟูหัวใจ กินตอนเช้ายิ่งดี!

อย่ามองข้ามความสำคัญของการไหลเวียนโลหิต! เพราะการไหลเวียนโลหิตที่ไม่ดี ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดความเหนื่อยล้าและสมาธิสั้นเท่านั้น แต่ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง และการเสียชีวิตกะทันหันอีกด้วย

หากเลือดไหลเวียนไม่ดีจะส่งผลเสียอย่างไร?

การไหลเวียนของเลือดทั่วร่างกายไม่เพียงแต่นำพาออกซิเจนและสารอาหารไปยังเซลล์แต่ละเซลล์เท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วย

ดร. หง ฮุ่ยเฟิง หัวหน้าภาควิชาโรคหัวใจ โรงพยาบาลซันกง ไต้หวัน เตือนว่า "การไหลเวียนของเลือดที่ไม่ดีอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพร้ายแรงมากมาย ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้" การไหลเวียนโลหิตที่ไม่ดีอาจทำให้เกิดปัญหาต่างๆ มากมาย ตั้งแต่อาการทั่วไป เช่น ความเหนื่อยล้าและสมาธิสั้น ไปจนถึงปัญหาหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองที่ร้ายแรง

ดร. ฮ่อง ยังกล่าวอีกว่า การไหลเวียนโลหิตที่ไม่ดี ซึ่งเป็นความผิดปกติในการไหลเวียนโลหิตชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นในทุกอวัยวะของร่างกาย มีสาเหตุที่แตกต่างกันมากมาย ซึ่งรวมถึงวิถีชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพ (ขาดการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิทยาศาสตร์ ฯลฯ) หรือปัจจัยต่างๆ เช่น ความดันสูงเป็นเวลานาน การสูบบุหรี่ และโรคอ้วน ดังนั้น การดูแลระบบไหลเวียนโลหิตจึงเป็นภารกิจสำคัญในการปกป้องหัวใจและรักษาร่างกายให้แข็งแรง

“เร่ง” การไหลเวียนโลหิต ด้วย 3 อาหาร

นอกจากการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตแล้ว อาหารยังส่งผลอย่างมากต่อการปรับปรุงการไหลเวียนโลหิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่เรารับประทานในตอนเช้า หม่า เฟิงหยิน นักโภชนาการชาวไต้หวัน เน้นย้ำว่า "อาหารเปรียบเสมือนดาบสองคมต่อสุขภาพหลอดเลือด การเลือกอาหารที่เหมาะสมสามารถช่วยปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตและป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดได้"

ดังนั้น หากต้องการปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตและปกป้องหัวใจของคุณ แนะนำว่าควรเพิ่มอาหาร 3 ชนิดต่อไปนี้ลงในเมนูอาหารเช้าของคุณ

1. หัวหอม

หัวหอมถือเป็นหนึ่งในอาหารสีทองที่ช่วยปกป้องระบบไหลเวียนโลหิต ดร.หม่า ระบุว่าหัวหอมมีเคอร์ซิติน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องหลอดเลือดไม่ให้ถูกทำลาย

สิ่งที่พิเศษยิ่งกว่าคือ ไดอัลลิลซัลไฟด์ในหัวหอม เมื่อสัมผัสกับอากาศจะเปลี่ยนเป็นอัลลิซิน ซึ่งเป็นสารประกอบที่ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้นและยับยั้งการแข็งตัวของเลือด การใส่หัวหอมลงในอาหารเช้าจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมอัลลิซินและเคอร์ซิตินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นรากฐานของระบบไหลเวียนโลหิตที่ดี

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีกระเพาะอาหารอ่อนแอไม่ควรรับประทานหัวหอมดิบ

2. วอลนัท

วอลนัทไม่เพียงแต่มีชื่อเสียงในด้านประโยชน์ต่อสมองเท่านั้น แต่ยังเปรียบเสมือน "เครื่องยนต์" ตามธรรมชาติ ที่ช่วยเร่งการไหลเวียนโลหิต ด้วยปริมาณอาร์จินีนที่สูง ถั่วชนิดนี้จึงมีคุณค่าทางโภชนาการสูงต่อหลอดเลือด

ดร. หม่า ระบุว่า เมื่อร่างกายเผาผลาญอาร์จินีน จะเกิดไนตริกออกไซด์ ซึ่งเป็นสารที่ช่วยคลายกล้ามเนื้อเรียบของหลอดเลือด ส่งผลให้หลอดเลือดขยายขนาดและลดแรงต้าน ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น การให้พลังงานด้วยวอลนัทสักเล็กน้อยเป็นอาหารเช้าจะช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิตทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่เริ่มต้น

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากวอลนัทอุดมไปด้วยไขมัน จึงควรรับประทานเพียงประมาณ 6-8 เม็ดต่อวันเท่านั้น

3. ปลาทะเล

เมื่อพูดถึงอาหารเพื่อสุขภาพหัวใจ คงปฏิเสธไม่ได้ว่าปลาทะเลคือหนึ่งในนั้น โดยเฉพาะปลาน้ำลึก ดร. หม่า ระบุว่าปลาทะเลอุดมไปด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัว เช่น EPA และ DHA ซึ่งเป็นโอเมก้า 3 สองชนิดที่มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการไหลเวียนโลหิต

นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า กรดไขมันเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ต้านอนุมูลอิสระ และปกป้องเซลล์บุผนังหลอดเลือดเท่านั้น แต่ยังช่วยทำให้เลือดบางลง ลดความดันโลหิต และยับยั้งการเกิดลิ่มเลือด ส่งผลให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ง่ายขึ้น ช่วยปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตโดยรวม

ดังนั้น การรับประทานอาหารเช้าที่มีปลา เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการได้รับโอเมก้า 3 ซึ่งช่วยปกป้องหลอดเลือดและทำงานได้อย่างราบรื่นตั้งแต่เริ่มต้นวัน ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รับประทานปลาอย่างน้อยสองมื้อต่อสัปดาห์ หรือเทียบเท่ากับ 340 กรัม