“มาริษ” แจงทูตภาคีออตตาวา กัมพูชาจงใจละเมิดอนุสัญญา วางทุ่นระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
รมว.กต. แจงคณะทูตกลุ่มรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ชี้ “กัมพูชา” ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ลอบวางทุ่นระเบิดสังหารซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำมีหลักฐานเพิ่งวางใหม่ จงใจละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ไทยเน้นย้ำ 3 ประเด็นหลัก มุ่งแก้ไขปัญหาข้ามพรมแดน
วันที่ 15 สิงหาคม 2568 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ ตามกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง (Mekong - Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 และเข้าร่วมการหารือกับประเทศสมาชิก ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 13 - 15 สิงหาคม 2568 บรรยายสรุปแก่คณะทูตกลุ่มรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา เกี่ยวกับเหตุการณ์การใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชาผ่านบันทึกวิดีทัศน์ ต่อเอกอัครราชทูต อุปทูตรักษาการชั่วคราว ผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูต ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร และองค์การระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา รวม 67 คน จาก 41 ประเทศ 1 องค์กร และ 4 องค์การระหว่างประเทศ เพื่อให้ข้อมูลที่ครบถ้วนและถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์ทุ่นระเบิดที่ชายแดนไทย-กัมพูชาแก่ประเทศสำคัญ ๆ และองค์กรระหว่างประเทศภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดต่อต้านบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา ตลอดจนประเทศสมาชิกอาเซียน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ที่จัดตั้งขึ้นตามการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 16 สมัยวิสามัญ ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ และประเทศผู้สังเกตการณ์และองค์กรอื่น ๆ
นายมาริษ ยืนยันว่า ประเทศไทยได้ยึดมั่นในพันธกรณีทางกฎหมายภายใต้อนุสัญญาออตตาวาอย่างเต็มที่ ซึ่งกว่า 20 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ไทยได้กอบกู้และส่งคืนพื้นที่มีการวางทุ่นระเบิดกว่าร้อยละ 99 ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 2,500 ตารางกิโลเมตร กลับคืนสู่ชุมชนไทย อีกทั้งได้ดำเนินการและยังคงให้ความช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากทุ่นระเบิด เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตอย่างมีศักดิ์ศรีและปกติสุข และยังมีความพยายามร่วมกันของประชาคมระหว่างประเทศ ในการแก้ไขปัญหาผลกระทบด้านมนุษยธรรมจากทุ่นระเบิดที่ได้รุดหน้าไปมาก จึงเป็นเหตุผลที่เหตุการณ์ทุ่นระเบิดที่ชายแดนไทย-กัมพูชา จึงสร้างความสะเทือนขวัญอย่างมาก และไม่ควรมีพื้นที่หรือเหตุผลใด ๆ ในการใช้อาวุธชนิดนี้อีกต่อไป
นายมาริษ ยังกล่าวว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ได้มีการตกลงหยุดยิง ซึ่งไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงนี้โดยสมบูรณ์ แต่เป็นที่น่าเศร้าใจที่ไม่ถึง 5 วันหลังจากการประชุมฯ ก็เกิดเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดอีก 2 ครั้ง โดยหลักฐานยืนยันอย่างชัดเจนว่า ทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่โดยกัมพูชา
นายมาริษ ยังย้ำว่า เหตุการณ์ทุ่นระเบิดที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่า กัมพูชายังคงจงใจละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และข้อตกลงหยุดยิงที่ตกลงกันไว้เมื่อเร็ว ๆ นี้ ยิ่งไปกว่านั้น กัมพูชายังจงใจละเมิดพันธกรณีหลักภายใต้อนุสัญญาออตตาวาอีกด้วย ดังนั้น ประเทศไทยจึงขอประณามการกระทำเหล่านี้อย่างรุนแรงที่สุด เพราะการกระทำเหล่านี้ บ่อนทำลายความสมบูรณ์ของอนุสัญญาออตตาวา และเจตนารมณ์ของปฏิญญาเสียมราฐ-อังกอร์ ซึ่งได้รับการรับรองภายใต้การปกครองของกัมพูชาในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567
นายมาริษ ยังระบุว่า การกระทำของกัมพูชาเหล่านี้ ยังถือเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ซึ่งเป็นหลักการที่ตนเชื่อว่าคณะทูตกลุ่มรัฐภาคีฯ ในที่นี้ยึดมั่นอยู่
นายมาริษ ยังกล่าวอีกว่า ก่อนเกิดสถานการณ์ชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชา นายกรัฐมนตรีไทยได้เสนอต่อนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เกี่ยวกับปฏิบัติการกวาดล้างทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม ซึ่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้ให้ความเห็นชอบแล้ว อย่างไรก็ตาม ฝ่ายกัมพูชาได้ชะลอการดำเนินการ ซึ่งมาตรการเหล่านั้น หากดำเนินการ ก็อาจสามารถป้องกันความสูญเสียอันน่าเศร้าที่เพิ่งเกิดขึ้นได้ และที่สำคัญกว่านั้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชา พยายามขัดขวางการปฏิบัติการกวาดล้างทุ่นระเบิดของไทยตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาซ้ำแล้วซ้ำเล่า และแม้จะมีการเรียกร้องให้ปฏิบัติตามและร่วมมืออย่างต่อเนื่อง แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่กัมพูชาไม่ได้ตอบสนอง
นายมาริษ ระบุว่า ข้อกังวลเหล่านี้ ไม่เพียงแต่มีความสำคัญโดยตรงต่อประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังมีความสำคัญต่อชุมชนนานาชาติ โดยเฉพาะผู้บริจาคที่ให้การสนับสนุนกัมพูชาด้วยความจริงใจอีกด้วย ดังนั้น ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อให้แน่ใจว่ากัมพูชา จะหยุดการใช้ทุ่นระเบิดอย่างไร้มนุษยธรรม และปฏิบัติตามพันธกรณีทางกฎหมายภายใต้อนุสัญญาออตตาวาและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ซึ่งประเทศไทยได้แจ้งเรื่องนี้ต่อเลขาธิการสหประชาชาติ และผ่านทางเลขาธิการฯ เพื่อขอคำชี้แจงจากกัมพูชาตามมาตรา 8 วรรค 2 ของอนุสัญญาออตตาวา ที่ไทยจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป
นายมาริษ ยังขอเรียกร้องประเทศสมาชิกอาเซียน ในฐานะคณะสังเกตการณ์ชั่วคราว (Interim Observer Team) ให้พิจารณาประเด็นนี้อย่างถี่ถ้วนในการไปสำรวจพื้นที่ในอนาคต เพื่อที่บริเวณชายแดนจะปลอดภัยเพื่อประโยชน์ของพลเรือนของทั้งสองประเทศ พร้อมยังขอเชิญร่วมการลงพื้นที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ในวันพรุ่งนี้ เพื่อสังเกตการณ์สถานการณ์ทุ่นระเบิดด้วยตัวเอง พร้อมยังยืนยันความมุ่งมั่นของประเทศไทยต่อพันธกรณีตามอนุสัญญาออตตาวา และการหยุดยิง
ไทยเน้นย้ำ 3 ประเด็นหลัก มุ่งแก้ไขปัญหาข้ามพรมแดน
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ไทย-จีน เป็นประธานการประชุมร่วมกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายมาริษ พร้อมด้วย นายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้แถลงผลการประชุมร่วมกัน
นายมาริษ ระบุว่า ประเทศไทยได้เน้นย้ำ 3 ประเด็นหลัก ที่ประเทศสมาชิกได้ตกลงร่วมกันไว้ ประกอบด้วย 1. การเสริมสร้างความร่วมมือข้ามพรมแดน เพื่อต่อสู้กับอาชญากรรมข้ามพรมแดน รวมถึงอาชญากรรมทางไซเบอร์ และการหลอกลวงออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการแบ่งปันข่าวกรองที่เพิ่มขึ้น การฝึกอบรมร่วมกัน และการเพิ่มขีดความสามารถ 2. การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และความมั่นคงด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ ปัญหาน้ำท่วม การปนเปื้อนของน้ำ และฝุ่น PM2.5 ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนและต้องร่วมมือกันแก้ไข ผ่านการแลกเปลี่ยนในด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี และ 3. ส่งเสริมนวัตกรรมและการพัฒนาที่ยืดหยุ่นระหว่างกัน อาทิ การเกษตรอัจฉริยะ การค้าดิจิทัล และการใช้งาน AI ในด้านการศึกษาและสุขภาพ รวมถึงการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน โดยยึดหลักการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี การเคารพซึ่งกันและกัน ความเสมอภาค และความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพราะท่ามกลางความไม่แน่นอนของโลกและความท้าทายที่เพิ่มมากขึ้น ความสามัคคีผ่านการเจรจาและความร่วมมือเชิงปฏิบัติมีความสำคัญมากกว่าเดิม
นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้แสดงเจตจำนงของไทย ว่า เราจะมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ ในการเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำ MLC ครั้งที่ 5 ในเดือนธันวาคมนี้ และหวังว่าจะได้ต้อนรับผู้นำ MLC ในกรุงเทพฯ เพื่อร่วมกันวางแผนบทบาทต่อไปของ MLC ที่ยืดหยุ่นและมองไปข้างหน้ามากยิ่งขึ้น
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “มาริษ” แจงทูตภาคีออตตาวา กัมพูชาจงใจละเมิดอนุสัญญา วางทุ่นระเบิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กัมพูชา พาผู้ตรวจการณ์ 7 ประเทศ ดูพื้นที่ชายแดนติดสระแก้ว กล่าวหาไทยปิดเส้นทาง
- ในหลวงทรงห่วง แม่ทัพภาค 2 เผย ยันไม่มีต่ออายุ-ขอเกษียณ ดึงจีนร่วมถกปมทุ่นระเบิด
- พปชร. ถามรัฐบาลทำอะไรเร่งด่วนบ้าง ชายแดนปะทะมา 20 วัน ยังไม่ออกหมายจับ “ฮุนเซน”
- แรงงานกัมพูชาหนีความอดอยาก ลักลอบกลับมาทำงานในไทย หลังรัฐบาลกัมพูชาไม่มีงานให้ทำ
- “ภูมิธรรม” ชี้เรื่องล้อมรั้วชายแดนต้องรอการเจรจา เปิด-ปิดด่าน รอวง GBC
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath