โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

รมช.คลังคาด จีดีพีปีนี้จะขยายตัวเกิน 2.2% ผลพวงภาษีทรัมป์ได้เปรียบคู่แข่ง

ทันหุ้น

อัพเดต 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

#ทันหุ้น รมช.คลังคาด จีดีพีปีนี้จะขยายตัวเกิน 2.2% ผลพวงภาษีทรัมป์ได้เปรียบคู่แข่ง ดันส่งออกขยายตัว บวกปัจจัยหนุนจากอัตราดอกเบี้ยนโยบายลดลง ระบุ พื้นที่การคลังและการเงินยังมี หนี้สาธารณะโตช้ากว่าจีดีพี

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังกล่าวมั่นใจว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ จะมากกว่า 2.2% ที่เป็นตัวเลขคาดการณ์เดิมของกระทรวงการคลัง จากผลของ Reciprocal Tariff ของไทยที่มีผลเชิงบวกต่อเศรษฐกิจและอยู่ในอัตราที่ได้เปรียบประเทศคู่แข่งขัน

ทั้งนี้ เขากล่าวภายหลังการปาฐกถาในงาน Thailand Focus 2025ที่จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและว่า จากการคาดการณ์จีดีพีของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เมื่อ30 ก.ค.นี้ที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวเฉลี่ยทั้งปีที่ 2.2 % อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่า จะมีการปรับการคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอีก ในการคาดการณ์ครั้งต่อไป เพราะตัวเลขต่างๆที่อยู่ในมือเราออกมาดี มีแนวโน้มปรับคาดการณ์ขึ้น

เขากล่าวว่า ก่อนที่จะมีการประกาศอัตรา reciprocal tariff ที่ไทยได้รับในอัตรา 19% นั้น หลายสำนักที่พยากรณ์เศรษฐกิจไทย ได้ลดตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทยลงประมาณ 1% แต่ Reciprocal tariff ผลที่ออกมาเป็นบวกต่อประเทศไทย อย่าลืมว่าการดูความสามารถในการแข่งขันในเรื่องการส่งออก เราดูจากเทียบกับประเทศที่เราแข่งขันด้วย ซึ่งตัวอัตราภาษีนั้นเราไม่แพ้ ดีกว่าเล็กน้อยด้วยซ้ำ และอีกสิ่งที่ดีกว่าคือ ในเรื่อง Regional Value Content (RVC) ซึ่งประเทศไทย เป็นประเทศที่มีการผลิตในประเทศสูง ดังนั้น โอกาสที่เราจะได้ภาษีตัวต่ำ เป็นสัดส่วนสูงกว่าประเทศคู่แข่งขันของเรา ทำให้ผู้ส่งออกไทยมีความได้เปรียบในเชิงราคามากกว่า

“ต่างๆเหล่านี้ทำให้ปัจจัยลบในช่วงแรกๆ ได้ผ่อนคลายไปเยอะ และตัวเลขต่างๆที่ออกมามีแนวโน้มในเชิงดี ประกอบกับทางธนาคารแห่งประเทศไทย มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็ช่วยเสริม” นายเผ่าภูมิ กล่าว

เขากล่าวอีกว่า ตัวเลขการส่งออกของไทยดีมาโดยตลอด จะชะลอตัวลงในครึ่งหลังของปีนี้เล็กน้อย แต่ถ้าดูในตัวจีดีพีครึ่งปีแรกเราดีมากเฉลี่ยที่ 3 % ครึ่งปีหลังแน่นอนว่าต่ำกว่า 3 % แต่โดยเฉลี่ยจีดีพีทั้งปีจะมากกว่าคาดการณ์ที่ 2.2%

ส่วนมาตรการกระตุ้นการคลัง เรามีมาตรการกระตุ้นออกมาก้อนใหญ่มาก คือ 1.57 แสนล้านบาท ขณะนี้ถูกใช้ไป 1.3 แสนล้านบาท อันนี้เป็นมาตรการทางการคลังก้อนใหญ่มาก ซึ่งจะมีผลต่อเศรษฐกิจในไตรมาสที่สี่ของปีนี้และไตรมาสที่หนึ่งของปีหน้า

ในด้านFiscal Space หรือพื้นที่ทางการคลังนั้น ปัจจุบันระดับ หนี้สาธารณะต่อจีดีพีของรัฐบาล ล่าสุดอยู่ที่ 64% เป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 10 เดือน หมายถึงว่าหนี้โตช้ากว่าจีดีพี ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดี ขณะที่ พื้นที่ทางการเงินยังเหลืออยู่

ส่วนภาระดอกเบี้ยของรัฐบาลต่อรายได้ของรัฐบาล ปัจจุบันอยู่ที่ 9% ต่ำกว่า 10% อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย ส่วนแนวโน้มอาจมีการเพิ่มขึ้นจากภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น แต่ทั้งนี้อยู่ที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจ หากการขยายตัวทางเศรษฐกิจทำให้รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้น จะทำให้ตัวภาระดอกเบี้ยต่อรายได้ สามารถดำรงอยู่อย่างไม่มีปัญหา

เขากล่าวด้วยว่า สถาบันจัดอันดับเครดิต ไม่ได้ดูในเรื่องภาระดอกเบี้ยตัวเดียว แต่ดูในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ ความสามารถในการเดินไปข้างหน้าของประเทศ ,โครงการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน , ดูพื้นที่ทางการคลังและการเงิน , ดูนโยบายหลักของรัฐบาล และดูการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นต้น

เขายังกล่าวถึงตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ(FDI)ว่า จากตัวเลขของบีโอไอพบว่า การลงทุน FDI ในปีนี้ ถือว่าเป็นตัวเลขที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ต่อจากนี้รัฐบาลมีหน้าที่สนับสนุนในเรื่องการอำนวยความสะดวกทางการค้า การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและไม่ใช่ภาษีต่างๆ ต้องทำให้น่าดึงดูดยิ่งขึ้น เช่น ที่รัฐบาลทำ ร่างกฎหมายไฟแนนเชียลฮับ ซึ่งเป็นหนึ่งหมุดหมายที่จะใช้ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ จะเข้าสภาฯวาระหนึ่งไม่เกินสองสัปดาห์จากนี้

ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจหรือการใส่เม็ดเงินทางการคลัง เข้าไปในส่วนที่อีกไม่กี่เดือนที่เหลือเราใส่การกระตุ้นเศรษฐกิจไปค่อนข้างสูง ส่วนครึ่งปีหลังจะใส่เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจไปอีกหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์แต่มีความเป็นไปได้

สำหรับเรื่องนโยบายดอกเบี้ยของ กนง.นั้น นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า มันมี Space ที่สามารถปรับลดลงได้อีก แต่อยู่ที่ความเหมาะสม ให้เป็นหน้าที่ของ กนง.

ส่วนปัญหาการเมืองกับความเชื่อมมั่นต่อเสถียรภาพของรัฐบาลนั้น เขากล่าวว่า รัฐบาลมีความเชื่อมั่นว่า อยู่ครบวาระ ไม่มีประเด็นที่จะกระทบต่อความเชื่อมั่น และทุกนโยบายจะเดินหน้าไปสู่ปลายทางของมัน ทุกกระทรวงมีหน้าที่ทำงานอย่างต่อเนื่อง

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ทันหุ้น

หุ้นไทยวันนี้(27 ส.ค.) ลบ 3.23 จุด ขาย TRUE-AOT ซื้อ DELTA

36 นาทีที่แล้ว

EURO ขึ้นแท่นผู้นำธุรกิจไลฟ์สไตล์ รุกเปิด B&O Flagship Storeในไทย

36 นาทีที่แล้ว

"อีสท์ วอเตอร์" จับมือ สกพอ. MOU เสริมแกร่งชุมชน หนุนพัฒนาพื้นที่อีอีซี

59 นาทีที่แล้ว

เมืองไทยประกันชีวิต รับมอบเกียรติบัตร “ESG DNA”

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

หุ้นวันนี้ปิดลดลง 3.23 จุด อยู่ที่ 1,248.03 จุด คาดพรุ่งนี้ยังแกว่งแคบ จับตาคดีนายกฯ

The Bangkok Insight

หุ้นไทย ปิดลบ 3.23 จุด ไร้ปัจจัยใหม่ รอลุ้นคดีคลิปเสียงนายกฯ-ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ

การเงินธนาคาร

TOP เปิด Tender Offer ซื้อคืนหุ้นกู้ มูลค่าไม่เกิน 199.9 ล้านเหรียญ

หุ้นวิชั่น

ก.ล.ต. ประกาศวันหยุดผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์-สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ปี 69

ทันหุ้น

BDMS เคาะปันผล 0.35 บ. รับเงิน 25 ก.ย. นี้

หุ้นวิชั่น

ตลท. เผย Thailand Focus 2025 ดึงดูดนลท. สถาบันทั่วโลก 180 ราย หวังช่วยเสริมความเชื่อมั่น หนุนเงินทุนต่างชาติไหลสู่ตลาดหุ้นไทย

Wealthy Thai

หุ้นไทยวันนี้(27 ส.ค.) ลบ 3.23 จุด ขาย TRUE-AOT ซื้อ DELTA

ทันหุ้น

ทรูมันนี่ จับมือ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้การลงทุน หุ้นกู้ตลาดรองง่ายกว่าเดิม ไม่ต้องใช้เอกสาร ครบ จบ ในแอปเดียว

Wealthy Thai

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...