“อิสราเอล” โจมตีโรงพยาบาล “กาซา” นักข่าวดับ 5 ศพ
(25 ส.ค. 68) สื่อต่างประเทศ รายงานว่า กองกำลังอิสราเอล เปิดฉากยิงถล่มโรงพยาบาลนัสเซอร์ ในเมืองคานยูนิส ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 คน ซึ่งในจำนวนนี้รวมนักข่าว จากสำนักข่าวนานาชาติ 5 คน บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย
การโจมตีครั้งแรกเกิดขึ้นในช่วงเช้าราว 10.00 น. ขณะที่ ฮุสซาม อัล-มาสรี ช่างภาพจาก Reuters กำลังถ่ายทอดสดภาพจากมุมสูงของตำแหน่งรถถังอิสราเอลในเมือง คาน ยูนิส ทางตอนใต้ของกาซาที่ถูกทำลายอย่างหนัก แต่ไม่กี่นาทีต่อมา มิสไซล์ลูกที่ 2 ซึ่งยิงมาจากรถถัง ได้พุ่งเข้ามายังจุดเดิมอีกครั้ง ระหว่างที่เจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนกำลังเข้าไปช่วยเหลือ ทำให้เกิดการสูญเสียเพิ่ม โดยรวมถึง มาริอัม ดักกา ช่างภาพอิสระวัย 33 ปี ซึ่งทำงานร่วมกับสำนักข่าว AP และ โมอาซ อาบู ทาฮา ผู้สื่อข่าวอิสระอีกคนหนึ่งที่เคยร่วมงานกับ Reuters เสียชีวิตในเหตุการณ์นี้เช่นกัน
เหตุการณ์นี้ ถือเป็นหนึ่งในวันที่รุนแรงที่สุดสำหรับผู้สื่อข่าวในฉนวนกาซา โดยมีรายงานว่า ผู้สื่อข่าวอย่างน้อย 245 คน ถูกคร่าชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลในช่วง 22 เดือนของสงคราม
ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวต่าง ๆ เช่น Reuters, AP และ Al Jazeera ต่างออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียครั้งนี้ พร้อมเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างเร่งด่วนและโปร่งใส โดยระบุว่า “พวกเรารู้สึกโกรธอย่างยิ่งที่นักข่าวอิสระตกเป็นเหยื่อในจุดที่ควรได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายระหว่างประเทศ เช่น โรงพยาบาล”
นอกจากนี้ ในแถลงการณ์ดังกล่าว ยังตั้งข้อสงสัยถึงความสามารถของกองทัพอิสราเอลในการสอบสวนตนเองว่า “ประสบการณ์ที่ผ่านมาไม่เคยแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสหรือรับผิดชอบอย่างแท้จริง อีกทั้งยังตั้งข้อกังขาว่าอิสราเอลอาจจงใจโจมตีสัญญาณถ่ายทอดสดเพื่อปิดกั้นข้อมูลข่าวสาร”
สำนักข่าว Al Jazeera ระบุว่า โมฮัมหมัด ซาลามา ช่างภาพของสถานีที่เสียชีวิตในครั้งนี้ ถือเป็นผู้สื่อข่าวคนที่ 10 ขององค์กรที่ถูกอิสราเอลสังหารในการสู้รบรอบล่าสุด
“นี่คืออาชญากรรมที่โหดร้าย เราขอประณามอย่างถึงที่สุด”
พร้อมระบุว่า ก่อนหน้านี้เพียง 2 สัปดาห์ก็มีผู้สื่อข่าว 6 คนเสียชีวิต โดย 5 คนในนั้นมาจาก Al Jazeera รวมถึงนักข่าวชื่อดังอย่าง อนัส อัล-ชาริฟ ที่ถูกโจมตีแบบเจาะจงเป้าหมาย
ขณะเดียวกัน ไม่กี่ชั่วโมงหลังเกิดเหตุการณ์ กองทัพอิสราเอล ได้แถลงยอมรับว่าเป็นผู้โจมตี แต่ยังไม่เปิดเผยว่ามีเป้าหมายใดอยู่ในบริเวณนั้น โฆษกกองทัพ พลตรีเอฟฟี เดฟริน กล่าวในแถลงการณ์ผ่านโซเชียลมีเดียว่า “กองทัพอิสราเอลไม่มีนโยบายเจาะจงโจมตีพลเรือน และขอแสดงความเสียใจต่อความสูญเสียของผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง”
สำนักงานนายกรัฐมนตรีอิสราเอล แถลงการณ์ว่า “อิสราเอลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์อันน่าเศร้าในโรงพยาบาล และเคารพในงานของนักข่าว บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนทุกคน” อย่างไรก็ตาม แถลงการณ์ดังกล่าวไม่ได้ระบุว่าจะมีการรับผิดชอบอย่างไรต่อการเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์ทั้ง 22 รายในเหตุโจมตีครั้งนี้
ขอบคุณข้อมูล : NPR