ผู้ประสบภัย แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทยอยเดินทางกลับบ้าน
วันนี้ (8 ส.ค.2568) หลังสถานการณ์ชายแดนไทย- กัมพูชา เริ่มคลี่คลาย โดยทั้ง 2 ฝ่าย ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อโดยเฉพาะการหยุดยิงอย่างเคร่งครัด ทำให้ล่าสุด ผู้ประสบภัยการสู้รบ ใน จ.สุรินทร์ ทยอยเดินทางกลับบ้าน
ขณะที่ ผู้ประสบภัยใน จ.สุรินทร์ เกือบร้อยละ 80 ทยอยกลับเข้าชุมชน เหลือเพียงบางครอบครัวที่ไม่มีรถยนต์ และต้องรอเจ้าหน้าที่ไปส่ง โดยมีการจัดเตรียมรถยนต์ จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งได้ทยอยส่งชาวบ้านกลับเข้าชุมชน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 2 - 3 วัน จึงจะส่งชาวบ้านกลับได้ทั้งหมด
ส่วน ผู้ประสบภัยที่กลับมาถึงชุมชนต่างก็เร่งขนสัมภาระเข้าบ้านด้วยความดีใจ เพราะได้กลับบ้านในรอบ 16 วัน แม้ลึก ๆ จะยังกังวลสถานการณ์ในพื้นที่อยู่บ้าง แต่ก็มั่นใจว่า เจ้าหน้าที่จะดูแลและแจ้งเตือนหากจะเกิดเหตุขึ้นอีกซึ่งก็เตรียมพร้อมในการอพยพตลอดเวลา
EOD สำรวจ-ทำลาย วัตถุระเบิด
ขณะเดียวกัน ชุด EOD. ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 ร่วมกับ ทหารและตำรวจสถานีตำรวจภูธรพนมดงรัก จ.สุรนิทร์ ลงพื้นที่สำรวจและทำลายวัตถุระเบิด ที่ตกค้างอยู่ตามแนวชายแดน ไร่นา และสวนยางพารา ใน ต.บักได ซึ่งเป็นจุดที่พบระเบิดและกระสุนปืนใหญ่ตกกว่า 180 จุด และพบว่า มี 7 จุด ที่ระเบิดยังไม่ทำงาน โดยจะเน้นการสำรวจมากกว่าทำลายเพราะอยู่ติดแนวชายแดน ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด เพราะในพื้นที่ ยังมีการวางกำลังของทหาร ทั้ง 2 ฝ่าย
จ.อุบลฯ พื้นที่ สีแดง จนท.ยังไม่ให้กลับเข้าพื้นที่
ส่วนที่ จ.อุบลราชธานี โดยเฉพาะที่หมู่บ้านกระสุนตก เรียกได้ว่าเกือบจะ 100% ที่ผู้ประสบภัยจากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา กลับเข้าบ้าน ขณะที่บางตำบลซึ่งยังเป็นพื้นที่สีแดงและอยู่ใกล้กับเขตความมั่นคง เจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาตให้กลับภูมิลำเนาได้
ขณะที่ บ้านหลังหนึ่งซึ่งมีตายายและลูกชายรวม 3 คน บ้านหลังนี้ได้รับความเสียหาย จากกระสุน BM21 ตกใส่บริเวณหน้าบ้าน แรงระเบิดทำให้หลังคารั่วเป็นรู ประตูและหน้าต่างพังเสียหาย และในช่วงที่กลับบ้านก็มีฝนตกทำให้น้ำฝนรั่วซึมลงมา แม้บ้านจะได้รับความเสียหาย แต่ก็ยังต้องอาศัยอยู่ภายในบ้าน ซึ่งคุณตาคุณยายบอกว่า อยู่ที่ไหนก็ไม่อุ่นใจเท่าบ้านของตัวเอง
อ่านข่าว : Gripen E/F อำนาจแห่งเวหา ปกป้อง "อธิปไตย" เหนือน่านฟ้าไทย
"ศบ.ทก." ชี้ภาพรวมประชุม GBC สำเร็จ หวัง "กัมพูชา" จริงใจภาคปฏิบัติ