แท้งแล้ว! คำร้องถอด 136สว.ขั้วน้ำเงิน หลังลายมือชื่อไม่ครบเกณฑ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ออกเอกสารชี้แจงลำดับเหตุการณ์ กรณี นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.และคณะสว. รวม 21 คน เข้าชื่อต่อประธานวุฒิสภาเพื่อขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพการเป็นสมาชิกวุฒิสภาจำนวน 136 คนสิ้นสุดลง ดังนี้
1. วันที่ 6 สิงหาคม 2568
คณะ สว. จำนวน 21 คน ได้เข้าชื่อกันมีหนังสือ ลงวันที่ 25 ก.ค. 2568 เรื่อง ขอให้ประธานวุฒิสภาส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยว่าสมาชิกภาพการเป็นสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 136 คน สิ้นสุดลง กราบเรียน ประธานวุฒิสภา โดยได้ยื่นส่งต่อสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2568 เวลา 12.04 นาฬิกา
สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้ส่งเรื่องให้สำนักกฎหมายดำเนินการในวันเดียวกันทันที และสำนักกฎหมายเร่งดำเนินการสรุปสาระสำคัญของเรื่องเพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ซึ่งมีขั้นตอนการดำเนินการในทางธุรการ โดยมีการจัดเตรียมเรื่องเรียบร้อยแล้ว แต่กลับได้รับการประสานงานทางโทรศัพท์ว่า นายธณัชญ์พงศ์ วงศ์มูลาลี สว.ไม่ได้เป็นผู้ลงลายมือชื่อในหนังสือคำร้อง สำนักกฎหมายจึงจำเป็นต้องรอการดำเนินการเพื่อตรวจสอบลายมือชื่อของนายธณัชญ์พงศ์ก่อน
2. ต่อมาใน วันที่ 7 ส.ค. 2568 ปรากฏข้อเท็จจริงว่า
นายธณัชญ์พงศ์ ได้มีบันทึก ลงวันที่ 7 ส.ค. 2568 แจ้งว่า ได้ตรวจดูต้นฉบับหนังสือคำร้องของคณะสว.แล้ว พบว่า นายธณัชญ์พงศ์ ไม่ได้เป็นผู้ลงลายมือชื่อ และขอยืนยันว่า ลายมือชื่อที่ปรากฏในบัญชีแนบท้ายหนังสือนั้นเป็นลายมือชื่อปลอม ทั้งนี้ นายธณัชญ์พงศ์ ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานกับพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2568 เวลา 16.09 นาฬิกา
ทั้งนี้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้รับบันทึกฉบับนี้ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2568 เวลา 09.05 นาฬิกา
นอกจากนั้นแล้วพบว่านายเดชา นุตาลัย สว.ได้มีบันทึก ลงวันที่ 7 ส.ค. 2568 แจ้งว่า ไม่ได้ลงลายมือชื่อในบัญชีแนบท้ายหนังสือคำร้อง และลายมือชื่อที่ปรากฏอยู่นั้นไม่ใช่ลายมือชื่อของนายเดชาฯ โดยสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้รับบันทึกฉบับนี้ เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2568
ต่อมา พ.อ.หญิง ธณตศกร บุราคม สว. มีหนังสือ ที่ พิเศษ/2568 ลงวันที่ 7 ส.ค. 2568 แจ้งว่า ขอถอนรายชื่อจากการเสนอหนังสือคำร้อง เนื่องจากเข้าใจคลาดเคลื่อนในสาระสำคัญของการร่วมเสนอชื่อในครั้งนี้
"สำนักกฎหมาย ได้มีบันทึก ลับ ที่ สว 0012.12/17 ลงวันที่ 7 ส.ค. เรื่อง ขอให้ตรวจสอบลายมือชื่อสมาชิกวุฒิสภา เรียน ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานกลาง เพื่อขอความอนุเคราะห์ สำนักบริหารงานกลาง ดำเนินการตรวจสอบลายมือชื่อของสมาชิกวุฒิสภาในบัญชีแนบท้ายคำร้อง ซึ่งสำนักบริหารงานกลาง ได้รับบันทึก ลับ ที่ สว 0012.12/17 ลงวันที่ 7 ส.ค. 2568 ฉบับดังกล่าว เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2568 เวลา 19.51 นาฬิกา"
ขณะที่ สำนักบริหารงานกลาง ได้มีบันทึก ลับ ที่ สว 0003.03/35 ลงวันที่ 7 ส.ค. 2568 เรื่อง ขอให้ตรวจสอบลายมือชื่อสว. เรียน ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย แจ้งว่านอกจากปรากฏว่ามีสว. จำนวน 3 คน ได้มีหนังสือแจ้งว่า ไม่ได้ลงลายมือชื่อหรือขอถอนการเข้าชื่อในคำร้องดังกล่าวแล้ว ยังปรากฏผลการตรวจสอบลายมือชื่อในเบื้องต้น
"สำนักบริหารงานกลางพบว่า มีลายมือชื่อของสว.ที่สอดคล้องกับลายมือชื่อที่สมาชิกวุฒิสภาได้ให้ไว้ในแบบตัวอย่างลายมือชื่อสมาชิกวุฒิสภา จำนวน 16 คน และบางท่านไม่สอดคล้องกับลายมือชื่อ จำนวน 5 คน จากข้อเท็จจริงตามลำดับเวลาดังกล่าว จึงแสดงให้เห็นว่า ภายหลังจากที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาได้รับหนังสือคำร้องดังกล่าวเมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2568 แล้ว ได้มีการดำเนินการตามลำดับขั้นตอนในทันทีโดยมิได้มีความล่าช้าแต่อย่างใด และได้เสนอเรื่องต่อประธานวุฒิสภาแล้ว แต่ด้วยเหตุที่คำร้องดังกล่าวมีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องลายมือชื่อและจำนวนสว.ที่ร่วมลงลายมือชื่อ ทำให้มีจำนวนสมาชิกวุฒิสภาลงลายมือชื่อร่วมเสนอหนังสือคำร้องเพียงจำนวน 18 คน ซึ่งยังไม่หักจำนวนสมาชิกวุฒิสภาที่ปรากฏผลการตรวจสอบลายมือชื่อของสำนักบริหารงานกลางในเบื้องต้นว่า ไม่สอดคล้องกับที่ให้ไว้กับสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาอีก จำนวน 3 คนทำให้ไม่ครบจำนวน 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ หรือไม่ครบ 20 คน ตามที่รัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคหนึ่ง กำหนดไว้"
ดังนั้น ประธานวุฒิสภาจำต้องมีหนังสือแจ้ง นพ.เปรมศักดิ์ ผู้เสนอคำร้องหลัก และคณะสว. ทราบว่า ไม่สามารถส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญได้ เนื่องจากมีสมาชิกวุฒิสภาไม่ครบ 1 ใน 10 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา ตามที่รัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคหนึ่ง กำหนด