ปริศนารองเท้ายักษ์! นักโบราณคดีพบซากรองเท้าขนาดใหญ่เหลือเชื่อของทหารโรมันโบราณ
เมื่อไม่นานมานี้ ทีมนักโบราณคดีในอังกฤษได้เปิดเผยการค้นพบซากรองเท้าหนังขนาดใหญ่ผิดปกติจำนวนมากที่ซากป้อมปราการซึ่งคาดว่าสร้างขึ้นในคริสตศตวรรษแรกตามแนวกำแพงเฮเดรียน (Hadrian’s Wall) ซึ่งเป็นกำแพงหินความยาว 117 กิโลเมตร เคยเป็นปราการป้องกันชายแดนด้านตะวันตกเฉียงเหนือของจักรวรรดิโรมันโบราณ ปัจจุบันอยู่ในใกล้ชายแดนตอนใต้สกอตแลนด์
การค้นพบซากพื้นรองเท้าหลายชิ้นในครั้งนี้ทำให้เกิดคำถามใหม่เกี่ยวกับชีวิตและที่มาของทหารที่ประจำการอยู่ในป้อมปราการแห่งนี้ ชิ้นส่วนที่ได้รับความสนใจอย่างมากคือพื้นรองเท้าหนังขนาดยักษ์จำนวน 8 คู่ ซึ่งมีความยาวมากกว่า 30 เซนติเมตร (เทียบเท่ากับรองเท้าผู้ชายขนาด 13.5 ของสหรัฐฯ หรือประมาณเบอร์ 47-48 ตามขนาดรองเท้าของฝั่งยุโรป)
พื้นรองเท้าขนาดใหญ่เหล่านี้ถูกพบที่ ป้อมแมกนา (Magna Fort) เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นซากชิ้นส่วนที่ปะปนอยู่กับซากรองเท้าทั้งหมด 34 ชิ้น ซึ่งมีทั้งซากรองเท้าบู๊ตทำงานและรองเท้าเด็กขนาดเล็ก
การค้นพบนี้ช่วยให้เห็นภาพชีวิตของผู้คนราว 4,000 คน ทั้งชาย หญิง และเด็ก ที่เคยอาศัยอยู่ภายในป้อมและรอบ ๆ สถานที่แห่งนี้ได้ชัดเจนขึ้น
เรเชล เฟรม นักโบราณคดีอาวุโสผู้ดูแลการขุดค้นครั้งนี้ กล่าวว่า "เมื่อรองเท้าขนาดใหญ่ชิ้นแรกถูกขุดขึ้นมา เรามองหาคำอธิบายหลายอย่าง เช่น อาจเป็นรองเท้าสำหรับฤดูหนาว หรือผู้สวมยัดอะไรบางอย่างลงไป หรือสวมถุงเท้าหลายชั้น"
แต่เมื่อพบซากรองเท้าขนาดใหญ่มากขึ้น ทั้งยังมีรูปแบบที่แตกต่างกัน ก็ดูเหมือนว่ารองเท้าเหล่านี้เป็นของคนที่มีเท้าขนาดใหญ่จริง ๆ
ส่วนซากรองเท้าโบราณทั่วไปที่พบในป้อมโรมันใกล้เคียงจะมีขนาดใกล้เคียงกับรองเท้าผู้ชายไซส์ 8 ของสหรัฐหรือประมาณเบอร์ 41 ตามขนาดรองเท้ายุโรป การค้นพบนี้จึงทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ทหารที่มีรูปร่างสูงใหญ่กว่าปกติอาจเคยประจำการอยู่ที่ป้อมปราการแห่งนี้
นักโบราณคดีสันนิษฐานว่า ทหารโรมันและครอบครัวหลายกลุ่มได้ย้ายเข้ามาอยู่ในป้อมแมกนาทุก ๆ สองสามปี หลังจากที่สร้างขึ้นประมาณปีค.ศ. 85 ข้อความจารึกบนผนังและแท่นบูชาของป้อมปราการบ่งชี้ถึงการตั้งถิ่นฐานของพลธนูชาวฮาเมียซึ่งมาจากดินแดนที่ปัจจุบันนี้คือประเทศซีเรีย, ทหารที่เชี่ยวชาญการรบบนภูเขาจากภูมิภาคดัลมาเชียซึ่งปัจจุบันพื้นที่บางส่วนของโครเอเชียและเซอร์เบีย ตลอดจนทหารเผ่าบาตาวิจากพื้นที่ที่ปัจจุบันนี้อยู่ในประเทศเนเธอร์แลนด์
ทีมวิจัยชี้ว่า ซากรองเท้าหนังเหล่านี้ทำจากหนังวัวซ้อนกันหลายชั้นและยึดให้ติดกันด้วยตะปูเหล็ก จากนั้นอาศัยเทคนิคการฟอกหนังโบราณที่ใช้พืชบดละเอียดทำเป็นสารเคลือบหนัง ทำให้ทนทั้งน้ำและความร้อน ทั้งยังอาจช่วยให้ซากเหล่านี้อยู่รอดมาหลายพันปีใต้ผืนดิน
ร็อบ คอลลินส์ ศาสตราจารย์ด้านโบราณคดีชายแดนแห่งมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิลในอังกฤษกล่าวว่า คู่มือการทหารโรมันโบราณมักบรรยายลักษณะของทหารที่เหมาะสมว่าต้องมีความสูง 5 ฟุต 8 นิ้ว หรือ 5 ฟุต 9 นิ้ว (ราว 170 - 175 ซม.) แต่ทหารที่ประจำการรอบกำแพงฮาเดรียนมาจากทั่วทุกสารทิศของจักรวรรดิอันกว้างใหญ่ไพศาล ซึ่งนำลักษณะทางกายภาพที่หลากหลายมาสู่ถิ่นฐานแห่งนี้
อย่างไรก็ตาม พวกเขายังไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้ว่า เหตุใดป้อมแมกนาจึงต้องการกองกำลังที่มีรูปร่างสูงใหญ่โดยเฉพาะ
การวิจัยเพิ่มเติมถัดจากนี้จะเป็นการตรวจสอบร่องรอยการสึกหรอของรองเท้า เพื่อสร้างแบบจำลองเท้าของผู้สวมใส่ แม้ว่าการเชื่อมโยงรองเท้าเข้ากับโครงกระดูกมนุษย์อาจทำได้ยาก เนื่องจากชาวโรมันในแถบกำแพงเฮเดรียนมักจะเผาศพผู้ตาย อย่างไรก็ตาม ทีมวิจัยยังคงพยายามค้นหาจุดฝังศพใหม่ ๆ ที่อาจมีหลักฐานอื่นหลงเหลืออยู่
ยิ่งไปกว่านั้น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังคงเป็นความท้าทายสำคัญ เนื่องจากสภาพดินที่มีออกซิเจนต่ำช่วยรักษาสภาพหนังโบราณได้ แต่คลื่นความร้อนและภัยแล้งที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบันกำลังส่งผลกระทบอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อมีฝนตกอย่างหนักจนทำให้สภาพดินเปลี่ยนแปลงและมีออกซิเจนผ่านเข้าไปถึงซากวัตถุเหล่านี้มากขึ้น
ในดินที่อุดมไปด้วยออกซิเจน จุลินทรีย์จะเจริญเติบโต ก่อให้เกิดการเน่าเปื่อย และเมื่อระดับค่าความเป็นกรดด่างของดินอยู่ในระดับที่เป็นกรด ก็จะเกิดการกัดกร่อนวัสดุธรรมชาติ เช่น หนัง ด้วยเหตุนี้ ทีมวิจัยจึงต้องเร่งมือในการขุดค้นแหล่งโบราณคดีป้อมแมกนามากขึ้นกว่าเดิม
ที่มา : edition.cnn.com
เครดิตภาพ : VindolandaTrust