“ดร.เฉลิมชัย” รมว.ทส.เปิดงานมหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู ครั้งที่ 12
“ดร.เฉลิมชัย” รมว.ทส.เปิดงานมหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู ครั้งที่ 12 ส่งเสริมท่องเที่ยว สร้างรายได้สู่ชุมชน พร้อมเน้นย้ำเกษตรกรรักษาคุณภาพชื่อเสียงทุเรียนไทย
วันนี้ 14 ก.ค.68 ที่ลานกิจกรรม อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) เป็นประธานพิธีเปิดงาน “มหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู ประจำปี 2568” โดยมีคณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสิทธิชัย สวัสดิ์แสน ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบฯ นายประสูตร หอมบรรเทิง นายอำเภอหัวหิน นายวัชระ กำพร นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น เกษตรกร สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ และประชาชนเกษตรกรจำนวนมากร่วมพิธี
ซึ่งงานดังกล่าวจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และเผยแพร่สินค้าเกษตรของดีตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย สร้างรายได้ให้เกษตรกรและชุมชนในพื้นที่
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้กล่าวเปิดงานพร้อมมอบต้นกล้าพันธุ์ทุเรียนป่าละอูให้แก่ผู้ใหญ่บ้าน 11 หมู่บ้านในพื้นที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ก่อนเยี่ยมชมการออกร้านจำหน่ายทุเรียนป่าละอู สินค้าGI ขึ้นชื่อของ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ซึ่งนำมาจำหน่ายในราคา กก.ละ 200 บาท รวมถึงการจำหน่ายผลไม้ต่างๆ เช่น เงาะ มังคุด กระท้อย กล้วย และสินค้าเกษตรหลากหลายชนิดซึ่งเป็นผลผลิตของชาวบ้านในพื้นที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ที่ผ่านมาทุเรียนไทยมีปัญหาเรื่องการส่งออกไปประเทศจีนเพราะเรื่องของคุณภาพมาตรฐาน ตัดทุเรียนไม่ได้ความสุกแก่ที่เหมาะสม อีกเรื่องคือการตรวจพบสารเคมีตกค้าง แต่ละครั้งที่มีปัญหาก็จะมีผลกระทบกลับมา ดังนั้นหากเกษตรกรช่วยกันรักษาคุณภาพทุเรียน ไม่ว่าจะเป็นทุเรียนภาคตะวันออก ทุเรียนภาคใต้ ก็เหมือนการรักษาชื่อเสียงของทุเรียนไทย ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีอนาคตสดใส เห็นได้จากตัวเลขการส่งออกที่สูงเกินกว่า 1 แสนล้านบาท การที่ทุเรียนป่าละอูมีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งมาจากเกษตรกรช่วยกันควบคุมดูแลคุณภาพการผลิต ไม่ตัดทุเรียนอ่อน และนอกจากทุเรียนป่าละอูแล้ว ที่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ยังมี”เงาะป่าละอู”ที่รสชาติไม่แพ้ที่ไหน อยากให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์ พร้อมยืนยันว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ จะดูแลประชาชนที่อาศัยทำกินอยู่ในเขตป่าทั้งหมด
สำหรับงาน “มหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู ประจำปี 2568” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-20 ก.ค.68 มีการออกร้านจำหน่ายทุเรียนป่าละอู สินค้าเกษตรใน ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ สินค้าโอทอป สินค้าชุมชน กิจกรรมการประกวดแข่งขัน และการแสดงมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินที่มีชื่อเสียงทุกค่ำคืน ตลอดทั้ง 7 วันของการจัดงาน
ทั้งนี้ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหินจ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นพื้นที่ในโครงการหมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ โครงการตามพระราชดำริที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงมอบที่ดินทำกินให้แก่เกษตรกร ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเลี้ยงโคนม ทำการเกษตร ปลูกพืชผักผลไม้ต่างๆ ผลไม้ที่สำคัญที่สร้างชื่อเสียงคือทุเรียนป่าละอู ซึ่งจะออกสู่ตลาดในช่วงเดือน มิถุนายน กรกฎาคม และสิงหาคมของทุกปี
โดยภาพรวมของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่ปลูกทุเรียนปี 2568 จำนวน 17,759 ไร่ เนื้อที่ให้ผลผลิตจำนวน 11,563 ไร่ มีเกษตรกรผู้ปลูกทุเรียน จำนวน 2,329 ราย ในปี 2568 คาดว่าจะมีผลผลิตทุเรียนประมาณ 9,250 ตัน โดยอำเภอที่มีปริมาณผลผลิตออกสู่ท้องตลาดมาก ได้แก่ อำเภอบางสะพาน อำเภอหัวหิน อำเภอบางสะพานน้อย และอำเภอปราณบุรี ตามลำดับ
ด้านนายกิติพงษ์ สิริเพชรเกษม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ กล่าวว่าในช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฏาคม ของทุกปี ปาละอู เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยว ที่มีทุกเรียนหมอนทองปาละอู ผลไม้ขึ้นชื่อที่ผู้ชื่นชอบบริโภคทุเรียนป่าละอู ต้องขึ้นมาเที่ยสชมสวน และเลือกซื้อทุเรียน มาอย่างต่อเนื่อง โดนเฉพาะปีนี้ราคาทุเรียนป่าละอู ไม่แพงมากนัก ทำให้เป็นอีกหนึ่งปัจจัย ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาพักผ่อนที่หัวหิน และ ในพื้นที่ป่าละอู กันเป็นจำนวนมาก