‘จุลพันธ์’ เผย สว.ตัดสินใจไม่ยื่นซักฟอก ‘นายกฯ’ แล้ว

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 30 มิ.ย. 68 ที่รัฐสภา นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวถึงกรณีพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และ สว.เตรียมจะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ว่า ในส่วนของ สว.เคยมีการหารือเข้ามาจริงๆ ซึ่งนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนวิปคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ไปพูดคุยกับทาง สว.แล้ว แต่วันนั้นเรื่องคลิปเสียงสนทนาของนายกรัฐมนตรีและสมเด็จฮุน เซน ยังมีความละเอียดอ่อน ทาง สว.จึงตัดสินใจไม่ยื่น ส่วนจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรคงมีการตัดสินใจอีกครั้ง ทั้งนี้การยื่นอภิปรายทั่วไปเปิดอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153 จะต้องมีการมาหารือกันอีกครั้งในเรื่องกรอบวันเวลา ซึ่งหากตกลงได้ข้อสรุปอย่างไรและมีการยื่นมาอย่างถูกต้อง รัฐบาลก็มีความพร้อมที่จะเข้าไปชี้แจง

นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน โดยเฉพาะสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ต้องมาพิจารณาประเด็นที่มีความอ่อนไหว และอาจจะต้องใช้กลไกอื่นของสภาในการพิจารณา เช่น การประชุมลับ ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่เรื่องอื่นก็ว่ากันไป ขณะที่การจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและ ครม.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 ของพรรคภูมิใจไทยนั้น ก็เห็นว่ามีการแจ้งความประสงค์มา แต่คงต้องรอดูว่ากระบวนการที่ยื่นมานั้นจะครบถ้วนหรือไม่ รวมถึงต้องดูเรื่องจังหวะเวลา และสัปดาห์นี้จะเปิดประชุมสภาสมัยสามัญแล้ว ต้องดูด้วยว่ามีการเข้าชื่อครบ 99 คนหรือไม่ ทั้งนี้ เข้าใจว่ายังเข้าชื่อกันไม่ครบ แต่ก็ถือเป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่จะหารือกันและมีข้อสรุปตรงกันอย่างไร หากเป็นเช่นนี้คงจะไม่ได้อภิปราย แต่ทั้งนี้ก็เข้าใจทุกฝ่าย อีกทั้งประชาชนอาจจะเข้าใจว่าเพิ่งอภิปรายไม่ไว้วางใจมา

“จุดประสงค์ของพรรคประชาชนอาจจะไม่ใช่เรื่องของการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี โจทย์มันต่างกันเพราะเวลาที่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 151 นั้น นายกรัฐมนตรีจะไม่มีอำนาจในการยุบสภา ต้องรอให้ลงมติเสร็จสิ้นก่อน ถือเป็นสิทธิของแต่ละฝ่ายที่สามารถทำได้และต้องไปพูดคุยกันเอง แต่รัฐบาลยืนยันว่าพร้อมที่จะชี้แจงทุกประเด็น ไม่ได้ห่วงในเรื่องข้อสงสัย ถือเป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำที่จะมีการยื่นอภิปรายเข้ามา เพราะจะถือเป็นเวทีที่รัฐบาลจะได้ชี้แจง ทั้งนี้ เชื่อว่านายกรัฐมนตรีและครม.พร้อมจะชี้แจง แต่ต้องดูว่าภูมิใจไทยจะรวบรวมเสียงได้ครบหรือไม่” นายจุลพันธ์ กล่าว

นายจุลพันธ์ กล่าวถึงผลสำรวจของนิด้าโพลที่คะแนนนิยม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หล่นไปอยู่อันดับที่ 5 และคะแนนนิยมของพรรคเพื่อไทยตกไปอยู่อันดับที่ 3 ว่า โพลอยู่ที่ช่วงระยะเวลา ซึ่งวันที่ทำโพลอยู่ในช่วงที่มีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนาของ น.ส.แพทองธารกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา หลุดออกมา แน่นอนว่าอารมณ์ของประชาชนอ่อนไหว ฉะนั้นเรารับไว้เป็นข้อคิดและข้อสังเกตเพื่อที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดและดีขึ้น แก้ไขปัญหาให้เต็มกำลังความสามารถ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดการเลือกตั้งใดๆ อย่างไรก็ตามเมื่อทุกคนเห็นโพลแล้วก็จะมีความห่วงใยพรรคของตัวเองเป็นหลัก ย้ำว่าเรายินดีรับฟัง ตระหนักรู้ และต้องมาปรับการทำงานของเราให้ดีขึ้น ทั้งนี้ เชื่อว่าหากทำโพลในช่วงที่นายกรัฐมนตรีชี้แจงแล้ว ผลโพลจะดีกว่านี้แน่นอน.