นายกสมาคมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทยจังหวัดราชบุรีเผยเจรจาการค้าจีนส่งสัญญาณที่ดีซื้อกุ้งก้ามกราม GI 48 ตัน
วันที่ 20 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า นายประกอบ ทรัพย์ยอดแก้ว นายกสมาคมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย จัดประชุมสมาชิกกลุ่มผู้เลี้ยงกุ้งภาคกลาง ได้แก่ จ.นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และใกล้เคียง ที่ประกอบฟาร์ม ตั้งอยู่ใน ต.ดอนใหญ่ อ.บางแพ จ.ราชบุรี เพื่อเตรียมพัฒนายกระดับกุ้งก้ามกรามของสมาชิกให้มีคุณภาพได้มาตรฐานยิ่งขึ้น หลังจากเมื่อช่วงวันที่ 12 กรกฎาคมที่ผ่านมา ทางนายกสมาคมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย และ คณะได้เดินทางไปร่วมงานพูดคุยกับสมาคมสัตว์น้ำที่ประเทศจีน โดยได้มีการพูดคุยเรื่องการเพาะเลี้ยงกุ้งกรามกลุ่มสมาชิกสมาคมฯ ที่ได้รับมาตรฐาน GI เป็นกุ้งที่มีคุณภาพดี มีเอกลักษณ์เฉพาะ การเลี้ยงมีระบบที่ดี จึงทำให้คุณภาพดีได้มาตรฐาน ทำให้ทางประเทศจีนเกิดความสนใจและได้ตอบตกลงที่จะสั่งซื้อกุ้งก้ามกรามเป็นครั้งแรกจากประเทศไทย
โดย นายประกอบ กล่าวว่า ทางสมาคมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทย ได้มีการประสานงานโดยตรงกับทางสมาคมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำประเทศจีน ซึ่งได้มีสนใจและความยินดีที่จะสั่งซื้อกุ้งก้ามกรามจำนวน 4 ตู้คอนเทนเนอร์ ตู้ละ 12 ตัน รวม 48 ตัน จากประเทศไทย ถือเป็นครั้งแรกของการส่งออกไปประเทศจีนได้เป็นผลสำเร็จ โดยเป็นกุ้งก้ามกรามในนามสมาชิกที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำไทยในกลุ่มสมาชิกที่มีอยู่ในพื้นที่ภาคกลาง ได้แก่ ราชบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ส่วนกุ้งก้ามกราม GI จะมีแค่จังหวัดราชบุรี เพียงจังหวัดเดียวที่ได้รับมาตรฐานนี้ ทางสมาคมจึงได้จัดประชุมสมาชิก เพื่อหาแนวทางปรับปรุงแก้ไขปัญหา และพัฒนากุ้งก้ามกรามให้มีคุณภาพดียิ่งขึ้น ซึ่งภายหลังได้มีการเจรจาพูดคุยแล้วทางสมาคมฯ เตรียมที่จะมีการเซ็นสัญญาการค้ากับประเทศจีนเร็ว ๆ นี้ และกำหนดส่งออกกุ้งก้ามกรามให้ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 เดือน หลังจากมีการเซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อยแล้ว
สำหรับการเลี้ยงกุ้งที่ อ.บางแพ จ.ราชบุรี มีการเลี้ยงกุ้งอยู่กว่า 20,000 ไร่ พื้นที่ อ.บางแพ มีสภาพพื้นที่เป็นท้องกระทะ มีแร่ธาตุสะสมในพื้นดินอยู่นานแล้ว เนื่องจากก่อนหน้าที่จะมีการเลี้ยงกุ้งเป็นป่าปรือ มีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจาก อ.นครไชยศรี จ.นครปฐม มีการเลี้ยงกุ้งมาก่อน แต่มีการพัฒนาเรื่องสุกร ส่วนน้ำเริ่มไม่สะอาด เกษตรกรจึงได้ขยายเข้ามาในพื้นที่ อ.บางแพ ที่อยู่ติดเขตรอยต่อกัน ปรากฎว่าเดิมเคยเลี้ยงที่ อ.นครไชยศรี และนำกุ้งมาเปรียบเทียบกับที่ อ.บางแพ พบกุ้งโตเร็ว สีสวย รสชาติดี เลยทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดมาก จน ณ วันนี้ได้จดทะเบียนกุ้งก้ามกรามเป็นสินค้า GI เรียบร้อยแล้ว โดยมีเอกลักษณ์สีสวย ไม่มีกลิ่นคาว รสชาติดี เนื้อแน่น ที่นี่จะมีการเลี้ยงทั้งกุ้งกรามกราม กุ้งขาว ปลาหลายชนิด
ซึ่งกุ้งกรามถือเป็นกุ้งที่มีความต้องการของตลาดมายาวนาน มีการปรับปรุงพัฒนาระบบการเลี้ยงที่ได้มาตรฐาน อนาคตเตรียมพัฒนาคุณภาพเพื่อที่จะไต่อันดับเป็นเบอร์ 1 ของโลกภายใน 5 ปี ข้างหน้านี้อีกด้วย