ผัวเมียตาบอดเผชิญหน้า! ฝ่ายชายแฉโดนนอกใจ-บังคับหย่า ฝ่ายหญิงเล่าอีกด้าน
กรณีหนุ่มพิการทางสายตา ร้องว่าถูกภรรยาซึ่งพิการทางสายตาเหมือนกัน แต่งงานมีลูกด้วย หลอกให้ไปอยู่บ้านภรรยาที่ชัยภูมิ แต่ไม่นาน ฝ่ายภรรยาบังคับให้เซ็นใบหย่า และไล่ออกจากบ้าน แฉยับว่าฝ่ายภรรยานอกใจ ขณะที่ฝ่ายหญิงออกมาเล่าความจริงอีกด้าน หนังคนละม้วน ยืนยันตนหมดรักแล้ว มีคนคุยฟีลแฟน แต่ไม่ได้นอกกาย ขณะที่ฝ่ายสามีนอกกายมีหญิงใหม่ ให้เลิกก็ขอมีอะไรกับผู้หญิงอีกรอบ จึงซื้อถุงยางให้ และอัดคลิปขณะสามีมีเพศสัมพันธ์กับฝ่ายหญิง เรื่องราวอีรุงตุงนัง
รายการ โหนกระแส วันที่ 22 ก.ค. ดำเนินรายการโดย“หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 สัมภาษณ์ ฟ้าใส ภรรยา อีกฝั่ง วันพระ หรือ โอ๊ต สามี มาพร้อม เฮียเปี๊ยก และ ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์
วันพระ น้องมองไม่เห็นตั้งแต่เมื่อไหร่?
วันพระ : 9 ขวบครับ ผมเล่นฟุตบอลโรงเรียน ฝนตกฟ้าผ่าลงมาตรงหน้า แสงเข้าตากะทันหัน รู้อีกทีอยู่รพ. ประมาณสองเดือนก็ค่อยๆ มืดลงเรื่อยๆ ตอนนี้ก็มองไม่เห็นเลย ตอนแรกก็เสียใจ แต่สังคมสงเคราะห์เข้าไปเจอ ส่งไปเรียนที่โรงเรียนตาบอดที่กรุงเทพฯ ก็สู้ชีวิตกลับขึ้นมาใหม่ได้ มีการแข่งกีฬาชิงแชมป์ประเทศ ก็ค่อยไปเป็นนักกีฬาประจำโรงเรียน แล้วเลื่อนมาเป็นทีมชาติ เป็นฟุตบอลคนตาบอด อีกอย่างก็โกลบอล กีฬาเฉพาะของคนตาบอด
ตอนนี้อายุเท่าไหร่?
วันพระ : ปีนี้อายุ 30 ครับ
ฟ้าใสมองไม่เห็นตั้งแต่กำเนิดมั้ย?
ฟ้าใส : ใช่ค่ะ
รู้จักฟ้าใสได้ไง?
วันพระ : รู้จักผ่านเพื่อนๆ น้องเขาคุยกับเพื่อนๆ ผมก็เริ่มจีบน้องเขาก่อน ทักแชตคุย น้องเขาเฟลกับผู้ชายมา ก็คุยกันไปคุยกันมา ก็ชอบพอกัน รู้จักทางเฟซบุ๊กผ่านเพื่อน เขาแนะนำกันมา ก็คุยๆ กัน
ฟ้าใส : ตอนแรกหนูคุยกับเพื่อนรุ่นน้องเขาก่อนค่ะ ทีนี้ผู้ชายคนนั้นเอาตรงๆ มันไม่เอาหนู มันเลยโบ้ยให้คนอื่นมั้งคะ (หัวเราะ)
เราชอบเขามั้ยตอนแรก?
ฟ้าใส : ตอนนั้นหนูเด็ก ใครมาจีบหนูก็ชอบหมดแหละค่ะ ตอนนี้อายุ 21 ค่ะ
คบหากันเจอกันยังไง?
วันพระ : ผมไปหาเขาที่บ้าน เมื่อก่อนทีมชาติมีรถตัวเอง ให้เขาขับไปหา ไปเจอแม่เขาก่อน ไปคุยกับผู้ใหญ่ แล้วก็ไปหาน้อง คุยกันเป็นความรู้สึก คนตาบอด เราก็คุยกันแบบจินตนาการเป็นหลัก
ฟ้าใสทำอะไรตอนนี้?
ฟ้าใส : ไม่ได้ทำอะไรค่ะ พักอยู่บ้านค่ะ ก่อนหน้านี้เปิดหมวกร้องเพลงค่ะ
เสียงเพราะมั้ย?
ฟ้าใส : เพราะอะไรถึงร้องใช่มั้ยคะ
วันพระ : เป็นนักร้องนำเลย
ฟ้าใส : ยังไม่อยากร้องตอนนี้ค่ะ
เรื่องราวเกิดอะไรขึ้นที่มีปัญหากัน?
วันพระ : เอาจริงๆ ก่อนจดทะเบียนกัน ก่อนหน้านี้น้องฟ้าใสไปคุยกับผู้ชาย ตอนอยู่กันไม่จดทะเบียนก่อนมีลูกด้วย คบกันอยู่กินกันฉันสามีภรรยาปีนึง แต่ยังไม่ได้จดทะเบียน เขามาอยู่กับผมที่อุดรฯ เขาแอบคุยกับผู้ชาย ผมจับได้ ผมได้ยิน และดูแชตเขา มีข้อความเสียงมันอ่านให้ผมฟังได้
เขาพิมพ์คุยเหรอ?
วันพระ : พิมพ์คุยกัน และโทรคุยกัน เซ็กส์โฟนใส่กัน
น้องวันใสเบะปากใส่แล้วนะ ไปกล่าวหาเขาหรือเปล่า?
วันพระ : ไม่ได้กล่าวหา น้องเขาก็ยอมรับกับผม ผมซ้อมบอลอยู่หน้าบ้าน จังหวะอยู่ตรงหน้าต่างพอดี ก็ได้ยิน ก็เปิดประตูเข้ามาหาเขาเลย ผู้ชายคนนั้นมีลูกมีเมียแล้วเหมือนกัน มองไม่เห็นเหมือนกัน ตอนเกิดประเด็นนี้ น้องเขาขอเลิกกับผม อยากกลับบ้าน ผมก็ขอแม่กลับไปด้วย ไปเคลียร์ใจกันที่บ้านเขา
ตอนนั้นคุณให้อภัย?
วันพระ : ใช่ครับ รักกันก็ให้อภัย แต่จากนั้นมีครั้งที่สอง เป็นคลับเฮ้าส์ วงการตาบอดหลายคนเล่นกัน น้องเขาปลื้มผู้ชายคนนึงแล้วไปบอกรักผู้ชายคนนั้นบนคลับเฮ้าส์
รู้ได้ไง?
วันพระ : ผมอยู่ด้วย ผมบอกว่าถ้ารักพี่เขาก็สารภาพรักพี่เขาตรงๆ เลย จะได้ไม่ค้างคาใจ
คุณอยู่ในห้องคลับเฮ้าส์ด้วย?
วันพระ : อยู่ครับ ผมจับได้ว่าน้องเขาปลื้มผู้ชายคนนี้แต่พี่คนนั้นเขาปฏิเสธ เขาคิดแค่พี่น้อง ก็จบไป ทีนี้น้องมีลูกกับผม ผมก็เฟลจากเรื่องนี้ มีน้องผู้หญิงคนนึงคุยกันแบบเพื่อน ติดต่อร่วมงานดนตรี เขาก็คุยกันดีๆ กับแฟนผมที่มีคนอื่น เคยดีก็ไม่ดีไปแล้ว ผมก็ไปชอบน้องเขา จังหวะนั้นฟ้าใสมีลูก ก่อนเขาไปคลอดลูกอยู่บ้าน ผมก็คุยกับน้องผู้หญิงที่ฟ้าใสบอกว่าผมมีอะไรด้วยนี่แหละเป็นน้องในวงดนตรี ผมเป็นหัวหน้าวงดนตรี ฟ้าใสก็ร้องเพลงอยู่กับวงนี้
ตัวเขาเองขอเลิกกับคุณ?
วันพระ : น้องเขาอยากมีอิสระในตัวเอง เขาก็ขอหย่า ก่อนหน้านี้มีเรื่องผู้หญิง ที่ผมไปคบหาผู้หญิงคนนึงแล้วเขาจับได้ เขาเสียใจ น่าจะหมดรักผมตั้งแต่ตอนนั้น เขาทนอยู่กับผมมาปีนึง พอมาถึงช่วงนี้ผมไม่รู่ว่าน้องมีใครใหม่มั้ย แต่เขาอยากหย่าอย่างเดียว อยากหย่าไปจากผม แต่ผมมารู้ว่าช่วงเดือนเม.ย. น้องไปคุยกับผู้ชายอีกคน แต่ไม่รู้ผู้ชายคนนั้นแนะนำให้หย่าหรือเปล่า เขาขอหย่าครั้งแรก เดือนพ.ย. ก่อนจับได้เรื่องนี้ผมมีผู้หญิงเข้ามา ตอนนั้นผมก็สองจิตสองใจว่าจะเลือกใครดี
ทำไมไม่เลิกฟ้าใสไปก่อนแล้วไปคบกับคนอื่น>?
วันพระ : มันเหมือนการเอาคืนกัน เอาชนะกัน เหมือนมึงทำกูได้ กูก็ทำมึงได้ประมาณนี้
ฟ้าใส : เพื่อ!
วันพระ : ก็ไม่รู้ เขาขอเลิกหลังจดทะเบียนแล้ว ตอนน้องเขาจับได้ น้องเขากลับมารักผมแล้ว เพราะมีลูกด้วยกันแล้ว แต่ตอนนั้นเนื่องจากผมห่างจากน้องเขาตอนไปคลอดลูก อาจเป็นตัวผมเอง ไปมีอะไรกับคนอื่นไง
วันพระตอบไม่เหมือนตอนแรกที่ให้ข่าว จากข่าวที่อยู่ในมือ วันพระบอกว่ารู้จักน้องฟ้าใส ผ่านโซเชียลมีเดีย แต่งงานมีลูกด้วยกัน ตอนแรกรักกันอยู่ดีๆ ต่อมาคุณจับได้ว่าเมียคุยกับผู้ชายคนอื่น มีการทะเลาะกันจนเมียขอเลิก คุณคิดสั้นจะไปฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ คุณบอกว่าทะเลาะกับเมียหนักมากจนเมียขอหย่าที่อุดรฯ ติดที่ไม่มีญาติเป็นพยาน เลยไม่สามารถไปหย่ากันได้ ก็พากันมาอยู่บ้านฝ่ายหญิงที่ชัยภูมิ ตกลงจะหย่ากัน แต่ขอดูแลลูกร่วมกัน?
วันพระ : พ่อแม่ญาติเขาก็บอกว่าหย่าแล้วแต่เคยอยู่กันแบบไหนก็อยู่เหมือนเดิมแหละ ช่วยเหลือกันไปเหมือนเดิม ผมก็เลยเซ็นยินยอมทำให้ แต่พอเซ็นให้แล้ว เขาไล่ผมตั้งแต่วันนั้นเลย ไม่เหมือนที่ตกลงกันไว้
เหมือนหย่าให้ แต่คุณต้องไปอยู่บ้านของเขา?
วันพระ : ครับ ผมไม่รู้หรอกว่าน้องเขาจะไม่รักหรืออะไร แต่ตกลงจะอยู่ด้วยกัน แต่มันไม่ได้เป็นแบบที่ตกลงหลังหย่าไปแล้ว ผู้ใหญ่เขาไม่อยากให้เลิก เพราะมีลูกด้วยกัน ตัวผมเองก็ไม่อยากเลิกกับบ้องเขา ก็บอกว่าถ้าจะหย่า พี่อยู่ที่นี่กับหนู ไม่รับก็ไม่เป็นไร อยากให้ลูกโตมารับรู้ก่อนว่าพ่อมี่คือใคร ผมก็เป็นลูกกำพร้าพ่อกำพร้าแม่
พอหย่าเสร็จ เขาให้คุณออกเลย คุณไม่โอเคตรงนี้เลยไปร้องกับเฮียเปี๊ยก?
วันพระ : เอกสารหลังการหย่าผมไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง ผมเพิ่งมารู้เมื่อวานนี้ สลักหลังว่าทุกอย่างให้น้องดูแลหมดเลย รวมถึงลูก แต่อย่างอื่นไม่มี ผมต้องส่งเสียลูกยังไง ผมมีสิทธ์กับลูกแบบไหนบ้าง ที่ผมไปมีอะไรกับหญิงอื่นก่อนจดทะเบียน หลังจดทะเบียนไม่มีครับ ผมให้คำมั่นสัญญาว่าผมจะอยู่กับฟ้าใสคนเดียว ถ้าน้องมีหลักฐานก็ให้ไปฟ้องผมได้เลย ผมยืนยันว่าผมอยู่กับเขาแค่คนเดียว
ฝั่งฟ้าใส?
เฮียเปี๊ยก : จุดประสงค์ที่หย่าคืออะไร
ฟ้าใส : หมดรักแล้วค่ะ น่าเบื่อ อะไรไม่รู้ บงการชีวิต เป็นเจ้าชีวิตหนูทุกอย่าง จะทำอะไรก็ต้องอยู่ในโอวาท หนูจะไปเล่นกับเพื่อน ก็ส่งข้อความมาหาว่าทำอะไร จะกลับตอนไหน เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ วันๆ หนูต้องมานั่งคิดว่าวันนี้กูจะโดนมันด่าอะไรอีกนะ มันจะหาเรื่องอะไรอีก ก็เลยขอเลิก อาจเป็นเหตุผลธรรมดาฟังไม่ขึ้น แต่สำหรับหนู หนูไม่โอเคแบบนี้
เฮียเปี๊ยก : เขาหึงหรือเปล่า หนูไปคุยกับผู้ชายเขาเลยระแวง
ฟ้าใส : หนูทำอะไรอย่างที่เขาว่าก็จริง แต่หนูไม่ได้เอามานอนด้วยเหมือนที่เขาทำนี่คะ คิดดูแล้วกันว่าใครร้ายแรงกว่ากัน
หนูเองก็มีคุยกับคนอื่นเหมือนกัน คุยกันลักษณะไหน?
ฟ้าใส : ฟีลแฟนค่ะ
ตอนนั้นมีผัวอยู่ แต่ก็มีโอกาสคุยฟีลแฟน เพราะอะไรถึงไปคุยฟีลแฟน?
ฟ้าใส : หนูไม่โอเคกับเขาแล้วไงคะ ก็เลยไปคุยกับคนอื่น
ก่อนจดทะเบียน ก่อนท้อง เขาบอกคุณคุยกับผู้ชายคนอื่นจริงมั้ย?
ฟ้าใส : จริงค่ะ เพราะเขาเป็นแบบนี้แหละ นิดๆ หน่อยๆ ก็ด่า ปรึกษาอะไรไม่ได้ ค่าใช้จ่ายในบ้านมา ก็บอกว่าทำไมมึงไมไปทำงาน เขาก็โยนให้หนูหมด ค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟมา ก็บอกว่าก็ขี้เกียจแบบนี้ไงล่ะ ถึงได้ติดค่าบ้านค่าไฟเขา เขาโยนมาให้หนู
เฮียเปี๊ยก : ปกติต้องช่วยกันทำงานหรือเปล่า
ฟ้าใส : ช่วยกันค่ะ
วันพระ : คุยโทรศัพท์อยู่บ้านกับผู้ชายก็ไม่ใช่ จะให้ผมไปทำงานคนเดียว
ฟ้าใส : เนี่ย เป็นแบบนี้แหละค่ะ มึงจะหยุดอยู่บ้านคุยกับผู้ชายใช่มั้ย
เลิกกันเพราะอะไร?
ฟ้าใส : เขามีคนอื่นก็ส่วนนึง แล้วก็บงการชีวิต หมดรักแล้วค่ะ มีแค่นี้จริงๆ
จับได้ไงว่าเขามีคนอื่น?
ฟ้าใส : เห็นแชต หนูกลับบ้านไปตอนนั้น ไม่รู้เอะใจอะไร เข้าระบบเฟซเขา เขาเคยให้รหัสหนู ก็เลยเห็น เขาตั้งชื่อเล่นกันในแมสเซนเจอร์ที่รักนั่นนี่
เข้าเฟซยังไง?
ฟ้าใส : โทรศัพท์มีโปรแกรมอ่านหน้าจอ เราก็ทำได้ มีพิมพ์บอกว่าให้คุยกับฟ้าใสทางแมสเซนเจอร์ แต่ให้คุยกับหนูทางไลน์ นี่ผู้หญิงที่เขาคบบอกเขามาแบบนี้
ผู้หญิงสมรู้ร่วมคิดด้วย?
ฟ้าใส : อยู่แล้วค่ะ ตอนนั้นหนูทำอะไรไม่ได้เลย อยู่คนละที่ จะมาหาเขาก็มาไม่ได้
เรามองไม่เห็น แต่เวลาเข้าไป เรารู้ได้ไงเขาคุยอะไรกัน?
ฟ้าใส : โปรแกรมอ่านหน้าจอ หน้าจอแสดงผลอะไรมันก็อ่านให้ฟัง
ตอนพักเบรกไป วันพระบอกว่าทำไมต้องให้เขาใส่แว่นตา เขารู้สึกเขาเหมือนคนปกติทั่วไป พอใส่แว่นเขารู้สึกแตกต่างกับคนอื่น ก็ขอโทษน้องด้วย พี่ไม่ทราบจริงๆ วันพระเคยให้รหัสเขา?
วันพระ : ผมเปิดเผยทุกอย่าง อะไรที่ผมทำผิด เขาก็รู้ ผมไม่เคยปิดบังเขาเลยแม้แต่เรื่องเดียว อาจโกหกบางเรื่อง แต่สุดท้ายก็ยอมรับอยู่ดี
ฟ้าใสจับได้ว่าเขามีกิ๊ก เขาพามาที่บ้าน?
ฟ้าใส : พามาค่ะ
วันพระ : เป็นบ้านที่อยู่กันหลายๆ คน
ฟ้าใส : ตอนเขาพามาบ้านหลังนั้นหนูอยู่กันสองคนค่ะ
จับได้แล้วทำยังไง?
ฟ้าใส : ทำอะไรไม่ได้เลยค่ะ หนูจะไปหาเขาก็ไม่ได้ ทำได้แค่อยู่เฉยๆ
สุดท้ายตัดสินใจขอเลิกเพราะเรื่องนี้ หรือมีคนอื่นด้วย?
ฟ้าใส : เรื่องมีคนอื่นพักไว้ก่อนเถอะค่ะตอนนี้หนูไม่มีใครแล้ว ตอนที่เลิกมี แต่แค่คุยเฉยๆ ไม่ได้เอามานอนด้วยเหมือนเขา
วันพระ : ก็เล่นเซ็กส์โฟน ก็เหมือนหยามกันแหละครับ
คุณบอกให้เขาเลิกผู้หญิงคนนั้น เขาว่าไง?
ฟ้าใส : ก็ได้ แต่ขอมีอะไรกับน้องมันก่อนได้มั้ย
ขอมีอะไรอีกครั้งเหรอ?
ฟ้าใส : ใช่ค่ะ
วันพระไม่ได้มีครั้งเดียว?
วันพระ : มีหลายครั้ง ไม่ใช่ (หัวเราะ) ผมไปคุยกับน้องเขา บอกว่าจะจบความสัมพันธ์ครั้งนี้ เพราะพี่เลือกครอบครัวของพี่ จากนั้นผมก็เลยไปจดทะเบียน
ฟ้าใส : คุยเฉยๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องมีอะไรกันเลย
วันพระ : มันเหมือนท้าทายกันด้วย มึงทำเลย เดี๋ยวกูซื้อถุงยางให้
คุณบอกเขามั้ยว่าจะเลิกกับผู้หญิงคนนั้นแล้ว แต่ขอมีอะไรก่อน 1 ครั้ง?
วันพระ : เรื่องมีอะไร คือเป็นประโยคที่ว่าพี่จะไปคุยกับน้องเขา แต่พี่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถ้ามีอะไรขึ้นขออีกครั้งได้มั้ย ประมาณนี้
ได้ด้วยเหรอวะ?
ฟ้าใส : นั่นสิคะ จบเฉยๆ ก็ได้นี่คะ หนูก็เชื่อด้วยนะคะ แล้วก็ยอม
วันพระ : เขาถ่ายคลิปไว้ด้วย
คลิปอะไร?
ฟ้าใส : คลิปที่เขามีอะไรกันค่ะ
วันพระ : ผมรู้ว่าที่ยอมน้องเขาต้องมีอะไรสักอย่าง เหมือนท้ากันแล้ว เอาเลยครั้งเดียวแล้วจบ เขาซื้อถุงยางให้ ผมก็ทำเลย ทำเฉยๆ ไม่ได้อะไร ทำให้เห็นแล้วหยุดทำ เขาก็อยู่ในห้องด้วย
ไพศาล : ฟังๆ ท้าทายอะไรกัน มีลูกด้วยกัน ถึงเราพิการ ตาบอด แต่ใจเราต้องไม่บอด ฝ่ายหญิงนอกใจ ฝ่ายชายนอกกาย มันเริ่มจากความไม่ซื่อสัตย์ แล้วจะมาจบด้วยการจดทะเบียนสมรสไม่โอเคเลย ตอนแรกที่ฟังเหมือนเป็นเรื่องน่าตกใจที่ขอไปซ้ำ แต่พอยิ่งฟังลึก ยิ่งรับไม่ได้ ไอ้นี่ท้า ถุงยาง ถ่ายคลิปมีอะไรกัน มันเกินขอบเขตศีลธรรมเลยนะ มันแย่
ตกลงจะเอาไงกัน?
ฟ้าใส : หนูว่าไม่ใช่การท้า หนูบอกว่าก็ได้ แต่ขอให้จบจริงๆ
แล้วถ่ายคลิปทำไม?
ฟ้าใส : ใช่ค่ะ เผื่อมีอะไรอีกค่ะ
ทีนี้จะเอายังไง?
เฮียเปี๊ยก : สิ่งที่โอ๊ตเป็นห่วงที่สุดคือเขาห่วงว่า ณ วันนี้เขาออกจากบ้านผู้หญิงมาแล้ว จะไม่ได้กลับไปเจอลูก วันนี้ฟ้าใสบอกว่าก็มาสิ ฉันไม่ได้ห้าม ไม่ได้สลักหลังให้สละสิทธิ์ความเป็นพ่อ คุณมาได้ทุกเมื่อ เขาห่วงว่าวันนี้คุณรับปากแต่ถ้าวันนึงคุณมีสามีใหม่ แล้วสามีใหม่ไม่แฮปปี้กับการให้ผัวเก่าไปเยี่ยมลูก เขาห่วงตรงนี้ ว่าจะไม่ได้กลับไปหาลูกอีกแล้ว
เอ๋ ไพศาล?
ไพศาล : ตอนก่อนจดทะเบียน ทรัพย์สินบ้านหลังนั้นเป็นสินส่วนตัว หรือสินสมรส เป็นบ้านหนู ไม่ได้ทำมาหากินกับเขา ใช่มั้ย
ฟ้าใส : ใช่ค่ะ
ไพศาล : ไม่ใช่สินสมรส เวลาสมัครใจยินยอมหย่า ตามกฎหมายแพ่ง ถ้าเป็นผู้เปราะบางผู้พิการไปหย่าที่อำเภอ สมมติมีข้อตกลง มีเงื่อนไข นายทะเบียนต้องอ่านให้ฟัง เป็นข้อปฏิบัติเลย หรือต้องมีพยานอย่างน้อย 2 คน ฝ่ายเขาฝ่ายเรา ไปฟังว่าตกลงใครมีอำนาจปกครองบุตร ใครมีอำนาจจัดการทรัพย์สิน ที่เฮียเปี๊ยกถาม บ้านเขาไม่ได้อยู่มีสิทธิ์ด้วยเหรอ บ้านไม่ใช่สินสมรส เขามีสิทธิ์ไม่ให้อยู่ ถึงแม้ตกลงกันไว้ แต่อีกมุม ถ้าเป็นสินสมรส ไม่ได้ตกลงกันไว้ อ้างว่านายอำเภอไม่ได้อ่านให้ตอนยินยอมหย่า สามารถร้องเรียนนายทะเบียนได้ว่าไม่ได้อ่าน ถ้าจริงนะ ไปขอดูกล้องวงจรปิด ดูพยานต่างๆ เรื่องลูก ถ้าทางนี้เขาบอกในสลักหลังหย่า อำนาจปกครองบุตรอยู่ที่ผู้หญิง เขาไม่ได้ตัดสิทธิ์การพบปะเยี่ยมเด็ก ศาลให้ประโยชน์เด็กสูงสุด ยังไงไปเยี่ยมได้ ถ้าเขากีดกัน ยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชน ฝ่ายอดีตภรรยายื่นเลย ขอถอนอำนาจปกครองหรืออะไร แต่อีกประเด็นถึงแม้หย่ากันแล้ว จะตกลงไม่ตกลงกัน เราเป็นพ่อ หรือฝ่ายไหนดูแลอุปการะบุตร มีหน้าที่ส่งเสียค่าอุปการะเลี้ยงดูด้วย สามารถยื่นคำร้องต่อศาลให้ส่งเสียให้ศาลกำหนดได้
ตอนน้องไปถ่ายเขา น้องเห็นเป้าหมายเลยเหรอ?
ฟ้าใส : ซูมมั่วๆ เลยค่ะ ถ่ายไปเรื่อยๆ ได้ยินเสียงทุกอย่างค่ะ
จากนั้นถึงไปแปลในโทรศัพท์อีกที มันเป็นแบบนี้ วันนี้ฟ้าใสเอาอะไรมา?
ฟ้าใส : เอกสารค่ะ หนูกลัวมากเลย (ร้องไห้)
ร้องไห้ทำไม?
ไพศาล : เขากลัวการหย่าเป็นโมฆะ เพราะสองฝ่ายยืนยันว่านายทะเบียนไม่ได้อ่านให้ฟัง เขากลัวการเพิกถอน
ร้องไห้เพราะอะไร?
ฟ้าใส : ไม่อยากกลับไปแล้ว (ร้องไห้)
คุณจะเอาเขากลับไปอีกเหรอ?
วันพระ : ใจน้องเขามีคนใหม่แล้ว จะเอาเขากลับไปได้เหรอครับ หลังจากจดทะเบียน น้องเขายังมีคนใหม่อีก เม.ย.ที่ผ่านมาก็มีคนใหม่ เขาอยากหย่าเพราะมีคนใหม่
ใช่มั้ย?
ฟ้าใส : แค่คุยเฉยๆ ก็มีแหละค่ะ
วันพระ : พูดผ่านสื่อเลยก็ได้ ผมอยากพบลูกผม อยากอยู่กับลูก อยากให้ลูกรู้ก่อนว่าพ่อคือใคร เราเหมือนสัญญาปากเปล่าว่าให้อยู่แหละ แต่หลอกพี่ไปหย่า ตอนแรกก็โกรธจะทำให้โมฆะดีมั้ย แต่คิดไปคิดมา มาถึงขั้นนี้แล้ว น้องเขาก็ไม่อยากอยู่แล้ว น้องเขาให้คำมั่นว่าผมไปหาลูกได้ มันเป็นบ้านพ่อแม่เขา พ่อแม่เขาก็ต้อนรับอยู่แหละ บอกว่ามาได้เสมอถ้ามีเงิน ถ้าผมไม่มีเงินล่ะ
ฟ้าใส : ยิ่งมาทำให้เป็นเรื่องใหญ่แบบนี้ พ่อแม่หนูก็ไม่โอเคค่ะ
จะบอกว่าพ่อแม่เขาจะเอาแต่เงิน?
วันพระ : ไม่ได้ว่าอย่างนั้น ครอบครัวเราก็ยากจน ไปก็จะไปเป็นภาระเขา แต่ผมไม่เคยให้ครอบครัวเข้าต้องเป็นภาระกับเงินเรื่องผมเลยนะ ผมหาด้วยตัวผมเอง กินไรก็ด้วยตัวเอง
ไพศาล : ให้คำมั่นสองฝ่ายในรายการ วันถ้าฟ้าใสให้คำมั่นวันพระมาเยี่ยมได้โดยไม่ต้องมีเงิน การหย่าจะไม่ทำให้เป็นโมฆะ เราให้คำมั่นมั้ย
ฟ้าใส : หนูให้คำมั่นได้ แต่ให้หยุดราวีหนู หยุดคุกคามค่ะ เขาคุกคามทุกทาง ไม่อยากให้เขายุ่งอะไรอีกแล้ว ตอนนี้หนูไม่กล้าออกไปใช้ชีวิตข้างนอกเลยค่ะ หนูกลัวเขาตาม
คุณตามเขาเหรอ?
วันพระ : ก็เป็นห่วง ตามไปดู
ไม่ต้องห่วงได้มั้ยล่ะ เขามีผัวใหม่ก็เรื่องของเขา?
วันพระ : ตอนนี้ก็ไม่ตามแล้ว แต่เรามีหนี้ ว่าผมไปเติมเกม ใครจะไปเติมเกมเป็นหลักแสนหลักล้าน
ฟ้าใส : หนูก็งงอยู่ว่ามาถึงขั้นนี้ได้ไง
วันพระ : บอกแล้วว่าเราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่ก็ควรติดต่อกันได้
ฟ้าใส : ถ้าจะติดต่อลูกก็ติดต่อผ่านแม่หนูก็ได้
วันพระ : แม่เขาไม่รับน่ะสิ
ฟ้าใส : ติดต่อน้องชายหนูก็ได้
วันพระ โทรไปหาเขา เขาบอกไม่อยากคุยกับคุณ ถ้าอยากเจอลูก โทรหาแม่หรือน้องชายเขา?
วันพระ : ได้ครับ
อันนี้จบนะ ถ้าเขาโทรหาฟ้าใส?
ฟ้าใส : ไม่คุย ไม่อะไรทั้งนั้น
เรื่องหนี้สินยังไง?
วันพระ : ช่วงโควิด เรายืมเงินมาใช้จ่าย ยืมหลัก 4-5 หมื่น แต่มันเป็นหนี้นอกระบบ เลยเป็นหลักล้านได้ มันเป็นดอกลอย เอามาใช้จ่ายร่วมกัน เป็นหนี้หลายๆ ก้อน ทีแรกเราตกลงจะช่วยกันจ่าย
อันนี้เอาไง?
ฟ้าใส : หนูไม่รู้ ถ้าหนูบอกว่าจะใช้ แต่ก็ไม่รู้จะหาไหวมั้ย ก็เลยยังไม่กล้าบอก
วันพระ : มันเยอะมากจริงๆ ผมหาคนเดียวก็คงไม่ไหว
ไพศาล : หนี้ที่ยืมมา ก่อนสมรสหรือหลังสมรส
วันพระ : มีทั้งก่อนและหลัง
ไพศาล : ก่อนเป็นหนี้ส่วนบุคคล หลังเป็นหนี้ร่วม มันก็ต้องรับผิดชอบร่วมกัน
วันพระ : ผมก็ไม่มีงาน มีแต่เปิดหมวก
เฮียเปี๊ยก : สำคัญเรื่องบุตร ที่โอ๊ตเขาเป็นห่วง สถาบันครอบครัวก็ไม่อยากให้เด็กขาดความอบอุ่นหรือกำพร้า เราเองในหน้าที่พ่อก็ส่งเสียเลี้ยงดู แม้ไม่ได้ไปหา ได้เงินก็โอนไปเป็นค่าแพมเพิส ค่าโน่นค่านี่ เด็กก็ต้องโตขึ้นเรื่อยๆ
คุณไม่ไปตามราวีเขานะ?
วันพระ : ครับ ตามแค่เรื่องนี้แหละ จะเอายังไง
ฟ้าใส : สบายใจนิดนึง กลัวจนไม่กล้าออกไปใช้ชีวิตข้างนอกแล้วค่ะ
เล่นเกมอะไร?
วันพระ : เกมตาบอด ต่อสู้ผจญภัย มันเป็นเกมจีน พูดให้เราฟังซ้ายขวา คู่ต่อสู้อยู่ข้างหน้า เราใช้สกิลใช้อะไรไป แต่น้องบอกเอาเงินไปเติมเกมนี่ไม่ใช่แล้ว เติม แต่เกมนี้ขายไอเท็มได้ด้วย ผมเติมไปก็ขายคืนมาให้เขาใช้
เฮียเปี๊ยก : เรื่องโควตาลอตเตอรี่ ที่เราไปเอาเครดิตเขามา แล้วจ่ายยังไม่ครบ
วันพระ : ถ้าจ่ายครบอีก 3,500 จะได้ขายใหม่ครับ
ตกลงไม่กลับไปคบกันแล้ว?
ฟ้าใส : หนูไม่ไปแน่ค่ะ
แต่เขาจะรอนะ?
ฟ้าใส : ช่างเขาเถอะค่ะ แต่หนูไม่เอาแน่ๆ
ไพศาล : ไม่มีอาหารหมานะ
วันพระ : น้องเขาจะไปอยู่แล้ว มันยาก เริ่มต้นชีวิตใหม่
ถ้าคิดอย่างนี้ได้ ก็ไม่ต้องมาหรอกวันนี้ พี่ก็ทำเรื่องพระต่อ?
วันพระ : ผมก็เศร้า ที่บอกว่าจะไปโดดน้ำฆ่าตัวตายเป็นเรื่องจริง มันห้ามตัวเองไม่ได้ ตอนนี้ก็ยังเศร้าแต่ก็ต้องใช้เวลา ไม่มีงาน ไม่มีที่อยู่ คนเราก็เครียดเป็นธรรมดา