DSI จับกุมแก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ ตั้งบริษัทปลอม 29 แห่งหลอกโอนค่าสินค้า
วันนี้ ( 3ก.ค.2568) ศูนย์สืบสวนสะกดรอยและการข่าว ได้จับกุม นางสาวกนกอร (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 3036/2568 ลงวันที่ 26 พ.ค. 2568 คดีพิเศษที่ 118/2566 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชนและความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนด้วยการแสดงตนเป็นคนอื่น ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน
และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณถนนในพีซีพี ต.ตะกั่วป่า จ.พังงา ซึ่งเจ้าพนักงานชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาและสิทธิตามประมวลกฎหมาย วิธีพิจารณาความอาญา และรวมถึงแจ้งว่าต้องบันทึกภาพและเสียงอย่างต่อเนื่องในขณะจับกุมและควบคุมตัวจนกระทั่งส่งมอบตัวให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 ผู้ต้องหารับทราบแล้ว จึงนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษผู้รับผิดชอบดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โดย คดีดังกล่าวเป็นคดีพิเศษที่ 118/2566 ของกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรณี แก๊งสแกมเมอร์ข้ามชาติ สร้างเว็บไซต์หลอกหลวงให้ซื้อสินค้า/บริการที่ไม่มีอยู่จริงกว่า 2,000 เว็บ มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท โดยน.ส.กนกอร เป็นผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้เป็นรายที่ 12 จากจำนวน 24 ราย มีพฤติการณ์เป็นสมาชิกเครือข่ายแก๊งสแกมเมอร์แคเมอรูน ที่ทำหน้าที่จัดตั้งบริษัทปลอม จำนวน 29 บริษัท ร่วมกับนายอนุชาติ และน.ส.จันทรัตน์ ที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้
โดยน.ส.กนกอร ใช้ชื่อตนเองจดทะเบียนเข้ามาเป็นกรรมการในบริษัทปลอม 2 บริษัท ทั้งนี้ บริษัทปลอมจำนวน 8 ใน 29 บริษัท แก๊งสแกมเมอร์ได้นำไปใช้หลอกลวงให้ผู้เสียหายทำการโอนเงินมายังบัญชีธนาคารที่คนร้ายได้เปิดบัญชีไว้ โดยมีการแจ้งความร้องทุกข์ในพื้นที่ต่าง ๆ กว่า 8 คดี ในพื้นที่สถานีตำรวจนครบาลดอนเมือง สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ สถานีตำรวจนครบาลคลองตัน กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สถานีตำรวจภูธรบางแก้ว สถานีตำรวจภูธรเกาะพงัน สถานีตำรวจภูธรฉลอง สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย
โดยเฉพาะสถานีตำรวจนครบาลโชคชัย ที่มีการใช้ชื่อบริษัท ชิน ไทย สแครบ (ทีเอช) จำกัด ไปหลอกหลวงให้บริษัท ยู แอนด์ ไอ โลจิสติกส์-เจเอสซี จำกัด (นิติบุคคลสัญชาติเวียดนาม) ให้โอนเงินค่าระวางเรือ จำนวน 1,071,700 บาท มายังบัญชีธนาคารของบริษัท จากนั้นนางสาวกนกอรฯ ได้เป็นผู้ถอนเงินสดที่ธนาคารทันทีแล้วส่งต่อไปยังพวกของตน
อ่านข่าว:
ฝากขังผู้ต้องหาปล้นเงิน 3.4 ล้าน ตร.จ่อเรียกผู้เสียหายแจงที่มาเงิน
“บิ๊กเต่า” เร่งตรวจเส้นทางเงินเจ้าอาวาสวัดม่วง - ลูกศิษย์วัดเข้าให้ข้อมูล