เงินฉุกเฉินกับเงินลงทุน ต่างกันอย่างไร และทำไมต้องแยกให้ชัด ? | เงินทองของจริง
8 ดูหลายคนเริ่มต้นเก็บเงินด้วยความหวังว่าจะเอาเงินไปต่อยอดให้เติบโต แต่พอถึงเวลาที่จำเป็นกลับต้องขายหุ้นหรือถอนกองทุนแบบขาดทุน เพราะไม่มีเงินสดในมือ ปัญหานี้เกิดจากการไม่แยกแยะ เงินฉุกเฉิน กับ เงินลงทุน อย่างชัดเจน เงินฉุกเฉิน: เกราะป้องกันชีวิต เงินฉุกเฉิน เปรียบเสมือนเกราะป้องกันในวันที่ชีวิตต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นการตกงาน เจ็บป่วย หรือเหตุการณ์เร่งด่วนที่ต้องใช้เงิน โดยเงินก้อนนี้จะช่วยให้คุณสามารถรับมือกับปัญหาได้โดยไม่กระทบต่อค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันหรือเงินเก็บเพื่ออนาคต ควรเก็บเงินฉุกเฉินเท่าไหร่ ? สำหรับพนักงานประจำ ควรมีเงินสำรองฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 3-6 เท่าของรายจ่ายต่อเดือน เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถใช้ชีวิตได้ในช่วงที่ไม่มีรายได้เข้ามา สำหรับฟรีแลนซ์หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระ ควรสำรองเงินไว้อย่างน้อย 6-12 เท่าของรายจ่ายต่อเดือน เพราะรายได้อาจไม่แน่นอน วิธีการเก็บเงินฉุกเฉิน - เก็บไว้ในที่ที่เข้าถึงง่าย เช่น บัญชีออมทรัพย์ที่ไม่มีค่าธรรมเนียมในการเบิกถอน - เลี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง เพราะอาจทำให้เงินหายไปในเวลาที่ต้องการใช้ - ตรวจสอบและปรับยอดเงินฉุกเฉินให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ประโยชน์ของเงินฉุกเฉิน - ช่วยลดความเครียดเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน - ช่วยป้องกันการก่อหนี้ที่ไม่จำเป็น - ช่วยให้การเงินของคุณมีเสถียรภาพมากขึ้น เงินลงทุน: สร้างความมั่งคั่งระยะยาว เงินลงทุน คือเงินที่เก็บไว้เพื่อนำไปลงทุนให้งอกเงยมากขึ้น เช่น เปิดร้าน ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ โดยควรเก็บแยกจากบัญชีเงินเดือน อาจมีเป็นบัญชีเพื่อการลงทุนเป็นบัญชีเพื่อสร้างความมั่งคั่งในระยะยาว วิธีการเก็บเงินลงทุน - เริ่มจากการหาความรู้เรื่องทางเลือกการลงทุนต่างๆ - ทยอยออมเงินวันละนิดวันละหน่อย - เมื่อมีเงินเป็นกอบเป็นกำ ค่อยถอนไปลงทุนในทางเลือกที่มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก - ลงทุนภายใต้ระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ ความแตกต่างระหว่างการออมกับการลงทุน วัตถุประสงค์ - การลงทุน: ทำเพื่อต่อยอดทรัพย์สินที่มีอยู่ให้งอกเงยขึ้น - การออม: เพื่อเก็บเงินไว้ใช้จ่ายในอนาคต ความเสี่ยงและผลตอบแทน - การลงทุน: มีความเสี่ยงหลายระดับ หากเป็นการลงทุนที่ได้ผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงก็สูงตามไปด้วย - การออม: ความเสี่ยงต่ำมาก ไม่ต้องกังวลเรื่องการสูญเสียเงินต้น แต่ก็ได้ผลตอบแทนน้อยเช่นกัน จุดแข็ง การลงทุน - มีโอกาสทำกำไรได้สูง - ลดหย่อนภาษีได้ - มีสิทธิ์ในการจัดการทรัพย์สินด้วยตัวเอง - เหมาะกับผู้ที่มีทุนทรัพย์และศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดี การออม - มีสภาพคล่องสูง - เงินต้นปลอดภัย - ไม่ต้องเฝ้าระวังสภาวะตลาด - เหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย กลยุทธ์การออมและลงทุนที่เหมาะสม การผสมผสานระหว่างการออมและการลงทุนเป็นกลยุทธ์ที่ดีที่สุด 1. เริ่มจากการสร้างเงินสำรองฉุกเฉิน ในบัญชีที่มีสภาพคล่องสูง เช่น บัญชีออมทรัพย์ 2. ออมเงินระยะสั้น ในบัญชีเงินฝากประจำ 1-3 ปี 3. ลงทุนเพื่อเป้าหมายระยะยาว 3-5 ปี ในหุ้นหรือกองทุนรวม 4. จัดสรรการลงทุนตามอายุ โดยลดสัดส่วนความเสี่ยงเมื่ออายุมากขึ้น การผสมผสานระหว่างการออมและการลงทุนจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายทางการเงินได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เริ่มออมเงินวันนี้ด้วยวิธีที่เหมาะกับตัวเอง และเมื่อมีเงินออมพร้อมแล้ว ลองก้าวไปสู่การลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสให้เงินเติบโตมากขึ้น อย่าลืมว่า การแยกเงินฉุกเฉินกับเงินลงทุนให้ชัดเจนเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางการเงินในระยะยาว พบกับ โค้ชหนุ่ม และ ทิน โชคกมลกิจ ได้ใน เงินทองของจริง ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-8.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero #เงินทองของจริง #TERODigital #CH7HDNews
เล่นอัตโนมัติ