ไม้โตเร็ว 5 ปีก็ขาย vs ไม้โตช้า 30 ปีราคาแพง - เลือกแบบไหนดี ? | เงินทองของจริง
26 ดูไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ หมายถึง ไม้ยืนต้นทุกชนิดที่สามารถนำมาสร้างมูลค่าหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ รวมทั้งให้ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมแก่ผู้ปลูก ทั้งในแง่ของผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและผลดีต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในยุคที่โลกให้ความสำคัญกับ ความยั่งยืน และ คาร์บอนเครดิต มูลค่าของเนื้อไม้มีค่าทางเศรษฐกิจจะแปรผันไปตามชนิด ขนาด คุณภาพ และความต้องการของตลาด โดยทั่วไปไม้ที่โตเร็วจะมีมูลค่าต่ำกว่าไม้ที่โตปานกลางและโตช้า การจำแนกประเภทไม้มีค่าทางเศรษฐกิจตามรอบการเจริญเติบโต 1. ไม้โตเร็ว (รอบตัดฟัน 5-15 ปี) - ตัวอย่าง ยูคาลิปตัส สะเดา ขี้เหล็ก โกงกาง รวมถึงไผ่ชนิดต่างๆ - ลักษณะ หากไม่ตัดมาใช้ประโยชน์ คุณภาพเนื้อไม้จะต่ำลง - การใช้งาน อุตสาหกรรมเยื่อไผ่ ไม้เพื่อพลังงาน ไม้แบบสำหรับก่อสร้าง - มูลค่า ค่อนข้างต่ำ 2. ไม้โตปานกลาง (รอบตัดฟัน 15-20 ปี) มูลค่าของเนื้อไม้จะเพิ่มขึ้นเมื่อต้นไม้ขนาดใหญ่ขึ้น แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มมูลค่าเนื้อไม้ไม่สูงมากนัก - ตัวอย่าง: ประดู่ ยางนา สะตอ - ข้อจำกัด: เนื้อไม้ใช้กบไสตกแต่งยาก ใช้ประโยชน์ได้ค่อนข้างจำกัด กลุ่มมูลค่าเนื้อไม้สูง - ตัวอย่าง: ไม้สัก - ลักษณะ: ไม้ที่มีความสวยงาม แข็งแรงทนทาน เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ 3. ไม้โตช้า (รอบตัดฟัน 20-30 ปี) - ตัวอย่าง: พะยูง ชิงชัน มะค่าโมง เต็ง จันทน์หอม - ลักษณะ: เนื้อไม้มีความสวยงาม มูลค่าเพิ่มสูงเมื่อต้นไม้มีขนาดใหญ่ขึ้น - การใช้งาน: อุตสาหกรรมก่อสร้างและเฟอร์นิเจอร์ชั้นสูง - ข้อดี: เหมาะกับการปลูกเพื่ออนุรักษ์ เพราะมีอายุยืนนาน การสร้างรายได้จากต้นไม้โดยไม่ต้องตัด: คาร์บอนเครดิต สำหรับผู้ที่รู้สึกผูกพันกับต้นไม้ที่ปลูกมาเป็นสิบๆ ปี สามารถสร้างรายได้ผ่านการขายคาร์บอนเครดิตได้ โดยไม่ต้องตัดต้นไม้ทิ้ง เงื่อนไขของคาร์บอนเครดิต ตามที่องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกระบุ: 1. มีพื้นที่ปลูกต้นไม้ประเภทไม้ยืนต้นตั้งแต่ 10 ไร่ขึ้นไป 2. มีเอกสารสิทธิ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 3. มีความรู้ในการประเมินการกักเก็บคาร์บอนและจัดทำเอกสารข้อเสนอโครงการ 4. มีเงินในการจ้างผู้ประเมินภายนอกมาตรวจสอบความใช้ได้ และทวนสอบข้อมูลก๊าซเรือนกระจก ไม้ที่สามารถขายคาร์บอนเครดิตได้ มีต้นไม้ 58 ชนิดที่สามารถขายคาร์บอนเครดิตได้ เช่น ตะเคียนทอง ตะเคียนหิน ไม้สกุลยาง สะเดา ไม้สัก พะยูง ชิงชัน ประดู่ มะค่าโมง เต็ง จำปี ไผ่ทุกชนิด และอื่น ๆ การใช้ไม้เป็นหลักประกัน รัฐบาลได้กำหนดให้ไม้ยืนต้นที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจหลายชนิดสามารถใช้เป็นทรัพย์สินเพื่อเป็นหลักค้ำประกันทางธุรกิจได้ โดยสามารถนำมาค้ำประกันการกู้ยืมเงินหรือขอสินเชื่อได้ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการศึกษาเพื่อพัฒนาเกณฑ์การประเมินมูลค่าต้นไม้ที่เป็นมาตรฐานและได้รับการยอมรับ ใครเหมาะสมกับการปลูกไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ ? หากคุณกำลังพิจารณาการลงทุนในไม้มีค่าทางเศรษฐกิจ ควรประเมินตัวเองตามเกณฑ์ดังนี้: ด้านทรัพยากร 1. มีที่ดินเป็นของตัวเองและมีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน 2. มีเงินสดที่จำเป็นสำหรับการลงทุนในระยะแรก 3. มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอในการดำเนินชีวิต ด้านความพร้อม 4. มีความตั้งใจจริงในการปลูกต้นไม้และพร้อมดูแลบำรุงรักษาต้นไม้ 5. มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ ที่เหมาะสมต่อการเติบโตของต้นไม้แต่ละชนิด 6. มีความพร้อมและความสามารถในการจัดการตลาดเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ต้นไม้ ด้านวิสัยทัศน์ 7. กำหนดเป้าหมาย วัตถุประสงค์ในการปลูกพร้อมทั้งวางแผนการดูแลรักษาและการจัดการต้นไม้อย่างชัดเจน 8. ต้องการสร้างความยั่งยืนให้กับทรัพยากรและระบบนิเวศจากภาคการเกษตร การลงทุนกับไม้มีค่าทางเศรษฐกิจเป็นการลงทุนระยะยาวที่ต้องใช้เวลา ความอดทนและความรู้ความเข้าใจ แต่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีทั้งในแง่เศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการขายเนื้อไม้ การขายคาร์บอนเครดิต หรือการใช้เป็นหลักประกัน ผู้ที่สนใจต้องเข้าใจข้อมูล ขั้นตอน และกระบวนการปลูกทั้งหมดให้ถูกต้อง เพื่อพัฒนาให้ไม้มีค่าทางเศรษฐกิจสร้างความยั่งยืนให้กับสังคมไทยต่อไป พบกับ โค้ชหนุ่ม และ ทิน โชคกมลกิจ ได้ใน เงินทองของจริง ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30-8.40 น. ทางช่อง 7HD กด 35 และช่องทางออนไลน์ TERO Digital ติดตาม CH7HD News และ TERO Digital ได้ที่ : https://linktr.ee/ch7hdnews_tero #เงินทองของจริง #TERODigital #CH7HDNews
เล่นอัตโนมัติ