ฝันสลาย!สาวสอบคัดเลือกหน่วยงานราชการได้ที่1 สุดงงก่อนวันทำงานถูกยกเลิก
เมื่อวันที่ 4 ก.ค. นางสุพร อายุ 54 ปี แม่ค้าขายกะหรี่ปั๊บ ใน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ร้องเรียนขอความเป็นธรรมและช่วยเหลือ น้องเมย์ อายุ 22 ปี บุตรสาวที่มีอาการเครียดและคิดสั้นจนต้องคอยปลอบใจและดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่กล้าให้อยู่บ้านคนเดียวจึงพามาอยู่ที่ร้านขายกะหรี่ปั๊บ เนื่องจากเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ ก่อนจบได้เข้าฝึกงานที่หน่วยงานราชการแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช 2 เดือน
นางสุพร เปิดเผยว่า สาเหตุที่ลูกสาวตนมีอาการเครียด ซึมเศร้า คิดสั้นนั้นเนื่องจากครอบครัวตนมีฐานะยากจน หาเช้ากินค่ำ เปิดแผงลอยขายกะหรี่ปั๊บริมถนน ส่วนสามีขายไข่ปิ้ง ข้างปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ย่านถนนพัฒนาการคูขวาง มีรายได้พอกินพอใช้ไปวัน ๆ และพยายามส่งเสีย น้องเมย์ อย่างยากลำบากจนจบปริญญาตรี โดยหลังฝึกงานจบ หน่วยงานราชการดังกล่าว ได้ประกาศสอบคัดเลือกเป็นพนักงาน บุตรสาวจึงตัดสินใจสมัครสอบและดำเนินการสอบคัดเลือกเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. 2568 ประกาศผลสอบทางเว็บไซต์ วันที่ 20 มิ.ย.2568 โดยประกาศรายชื่อผู้สอบผ่าน 5 คน บุตรสาวตนเป็นผู้สอบได้ในลำดับที่ 1 ทางหน่วยงานราชการดังกล่าวได้แจ้งให้บุตรสาวตนไปรายงานตัวและทำสัญญาจ้างในวันศุกร์ที่ 27 มิ.ย. 2568 เวลา 09.00 น. พร้อมทั้งวางเงินสดประกันสัญญาจ้างร้อยละ 5 ของเงินค่าจ้าง เดือนละ 14,000 บาท เป็นเงิน 2,111 บาท
นางสุพร เผยอีกว่า ตนและสามี พร้อมบุตรสาว ดีใจเป็นอย่างมากจะมีรายได้มาช่วยเหลือครอบครัวเพิ่ม ในวันที่ทราบข่าวว่าสอบได้ลำดับที่ 1 ครอบครัวไม่มีเงินวางประกันสัญญาจ้าง แต่ก็วิ่งหยิบยืมเพื่อนบ้านจนสามารถไปรายงานตัวและทำสัญญาจ้างตามระเบียบที่กำหนดครบถ้วน มีกำหนดเข้าเริ่มทำงานวันที่ 1 ก.ค.2568 ที่ผ่านมา ซึ่งบุตรสาวก็ได้เดินทางไปดูสถานที่ทำงาน จัดเตรียมโต๊ะทำงานเป็นที่เรียบร้อย แต่ในวันที่ 30 มิ.ย.2568 ก่อนวันเริ่มงาน 1 วันเหมือนฝันสลายเพราะทางหัวหน้าได้แจ้งให้บุตรสาวตนไปเซ็นยกเลิกสัญญาจ้าง โดยอ้างว่าทางสำนักงานใหญ่ระบุว่า “จบสาขาที่ไม่ตรงกับความกับต้องการ”
นางสุพร เผยว่า บุตรสาวตนเสียใจเป็นอย่างมาก ร้องห่มร้องไห้ และจำใจเดินทางไปเซ็นยกเลิกสัญญาจ้างด้วยน้ำตานองใบหน้าเป็นที่น่าเวทนาสงสารแก่เจ้าหน้าที่ในสำนักงาน หลังจากวันนั้นบุตรสาวตนมีอาการเครียด ซึมเศร้า และบ่นจะคิดสั้น สร้างความวิตกกังวลให้ตนและสามีเป็นอย่างมาก เมื่อสามีออกไปขายไข่ปิ้ง ตนออกมาขายกะหรี่ปั๊บ ก็ต้องนำบุตรสาวออกมาอยู่ด้วย ไม่กล้าทิ้งไว้คนเดียวกลัวว่าบุตรสาวจะคิดมาก เครียด ซึมเศร้าอาจจะคิดสั้นได้ อย่างไรก็ตามแม้จะเซ็นยกเลิกการจ้างงานแล้วแต่ทางหน่วยงานราชการดังกล่าวยังไม่คืนเงินค่าประกันสัญญา 2,111 บาทให้บุตรสาวแต่อย่างใด
ขณะที่ น้องเมย์ ซึ่งอยู่ในสภาพเครียด ซึมเศร้า ร้องห่มร้องไห้จนตาแดงบวมอย่างเห็นได้ชัด กล่าวว่า ตั้งใจเรียนมากๆ เพราะทราบดีว่าครอบครัวลำบาก ฐานะยากจน เมื่อสอบเข้าทำงานได้ลำดับที่ 1 และผ่านการรายงานตัว ทำสัญญาจ้าง จ่ายค่าประกันสัญญาจ้างเรียบร้อย ตนยอมรับว่าตื่นเต้นและดีใจมากๆ ที่จะได้ทำงาน เตรียมพร้อมในการทำงานอย่างเต็มที่ พ่อและแม่ไปหยิบยืมเงินเพื่อนบ้านให้ตนไปทำสัญญาจ้างและวางเงินประกันสัญญาจ้างพร้อมจัดซื้อเสื้อผ้า รองเท้าและอื่นๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าทำงาน แต่ในที่สุดฝันสลายเมื่อได้รับแจ้งให้ไปเซ็นยกเลิกสัญญาจ้างอย่างกะทันหัน ไม่มีปี่มีขลุ่ย
น้องเมย์ กล่าวอีกว่า เสียใจร้องห่มร้องไห้หนักมาก มันคิดไม่ออกบอกไม่ถูกจริงๆ ยอมรับว่าคิดสั้นแต่พ่อแม่ก็พยายามดูแลปลอบใจ ให้กำลังใจและพาออกมาที่ร้านขายกะหรี่ปั๊บด้วย โดยตนทราบว่าเขาได้มีการเรียกคนที่สอบได้ลำดับที่ 2 มาทำสัญญาจ้างและเริ่มเข้าทำงานเป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2568 ที่ผ่านมา ซึ่งคิดไม่ออกบอกไม่ถูกว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นในหน่วยงานราชการได้อย่างไรและส่งผลกระทบกับชีวิตตนและครอบครัวเป็นอย่างมาก