"บิ๊กหลวง" หารือเลขาฯ ปปส.จีน เดินหน้ากดดันพื้นที่ว้า ส่งตัวพ่อค้ายารายใหญ่ให้ไทยดำเนินคดี
“บิ๊กหลวง” พบ เลขา ปปส.จีน กดดันว้า ให้ส่งพ่อค้ายาเสพติดรายสำคัญให้ไทย มาดำเนินคดีเพื่อตัดวงจรเครือข่ายยาเสพติด
วันพุธที่ 30 กรกฎาคม 2568 พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส.นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมทวิภาคีไทย - จีน เรื่อง ความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ครั้งที่ 20 ณ เมืองฮาร์บิน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมีนายเว่ย เสี่ยวจุน เลขาธิการบริหาร สำนักงานคณะกรรมธิการควบคุมยาเสพติดแห่งชาติจีน (National Narcotics Control Commission: NNCC) เป็นประธานการประชุมและหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายจีน
โดยในห้วงก่อนการประชุม คณะผู้แทนไทยได้เข้าเยี่ยมคารวะและหารือข้อราชการกับนายหลี่ อี ผู้บัญชาการตำรวจมณฑลเฮย์หลงเจียง และรองผู้ว่าราชการมณฑลเฮย์หลงเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยฝ่ายจีนได้กล่าวต้อนรับและชื่นชมความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดระหว่างไทย - จีน ที่มีมาอย่างแน่นแฟ้นและมีผลเป็นรูปธรรม ส่วนฝ่ายไทยได้กล่าวว่าปัญหายาเสพติดต้องไม่มีพรมแดน ซึ่งฝ่ายไทยและจีนต่างให้ความร่วมมือในการปราบปรามยาเสพติด จนจับกุมผู้ต้องหาหลบหนีคดียาเสพติดได้หลายราย
สำหรับการประชุมทวิภาคีไทย - จีนฯ ในครั้งนี้ เลขาธิการ ป.ป.ส. ได้กล่าวขอบคุณสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่มีบทบาทสำคัญต่อความมั่นคงของภูมิภาค และเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิดกับไทยมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะด้านความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมกับกล่าวย้ำว่า “ยาบ้า” ยังคงเป็นปัญหาหลักของการแพร่ระบาดยาเสพติดในประเทศไทย และรัฐบาลไทยจึงได้ประกาศให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็น “วาระแห่งชาติเร่งด่วน” พร้อมผลักดันแผนปฏิบัติการ “Seal Stop Safe” ซึ่งมุ่งเน้นการดำเนินการที่ครอบคลุมทุกด้าน ส่งผลให้สามารถตรวจยึดยาเสพติดเพิ่มขึ้นถึง 20 เท่า ส่วนในระดับสากลประเทศไทยยังคงมีบทบาทเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง โดยในการประชุมคณะกรรมาธิการว่าด้วยยาเสพติดแห่งสหประชาชาติ หรือ CND สมัยที่ 68 ณ กรุงเวียนนา เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไทยได้เสนอ “ร่างข้อมติว่าด้วยการส่งเสริมการศึกษาวิจัยการรักษาและดูแลความผิดปกติจากการใช้สารกระตุ้น” ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิกสูงสุด รวมถึงสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะยกระดับความร่วมมือ ดังนี้
1. ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศในการกดดันพื้นที่แหล่งผลิตในสามเหลี่ยมทองคำ
2. ส่งเสริมความร่วมมือทางการข่าว และการสืบสวนขยายผลร่วมกัน เพื่อสกัดกั้นการลักลอบค้ายาเสพติด ซึ่งมีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการลักลอบค้ายาเสพติดทางทะเล
3. ส่งเสริมความร่วมมือในการควบคุมสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารเคมี
ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุม โดยฝ่ายจีนมีรูปแบบการดำเนินงานที่เข้มงวดผ่านการออกมาตรการควบคุมทางกฎหมาย โดยห้ามส่งออกไปยังประเทศที่มีความเสี่ยงในการนำไปใช้ในทางที่ผิด ได้แก่ ลาว เมียนมา และอัฟกานิสถาน ซึ่งไทยยินดีที่จะนำไปปรับใช้ในการควบคุมการรั่วไหลของสารเคมีไม่ให้เข้าไปในแหล่งผลิต
ยาเสพติด
4. สนับสนุนในการเจรจาระหว่างประเทศ อันนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาหลบหนีไปยังพื้นที่ว้าตามที่ฝ่ายไทยร้องขอ เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติด รวมถึงการจัดการกับแหล่งผลิตยาเสพติดในพื้นที่ดังกล่าว
5. พัฒนากลไกความร่วมมือสามฝ่ายระหว่างไทย จีน และเมียนมา ในการจัดการต่อเป้าหมายบุคคลหรือแหล่งผลิตยาเสพติด รวมทั้งการประสานความร่วมมือระหว่างไทย จีน และสหรัฐอเมริกาเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการข่าว ตลอดจนสกัดกั้นการลักลอบค้ายาเสพติดและเคมีภัณฑ์
นอกจากนี้ ฝ่ายไทยได้ส่งมอบตัวอย่างยาเสพติด จำนวน 39 ตัวอย่าง ให้แก่ฝ่ายจีน เพื่อใช้ในการทดลองและศึกษาผลกระทบของยาเสพติดรูปแบบใหม่
ทั้งนี้ ฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมทวิภาคีไทย จีน ครั้งที่ 21 ในปี พ.ศ. 2569 ณ ประเทศไทย