'ไลน์แมน วงใน' รีแคปปี 2025 คนไทยมีพฤติกรรม 'เลือกกิน' มากขึ้น มุ่งเมนูราคาจับต้องได้
‘ไลน์แมน วงใน’ รีแคปปี 2025 คนไทยมีพฤติกรรม ‘เลือกกิน’ มากขึ้น มุ่งเมนูราคาจับต้องได้
เดินทางมาถึงเดือนสุดท้ายแล้ว ครั้งนี้LINE MAN Wongnai ขอรีแคปธุรกิจร้านอาหารในไทยปลายปี 2025 หลังผ่านครึ่งปีแรกที่ซบเซาหนัก จากกำลังซื้อที่อ่อนแรง ต้นทุนอาหารสูง ทำให้ยอดขายร้านอาหารตกลงอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลล่าสุดจากยอดขายหน้าร้าน และแพลตฟอร์ม LINE MAN สะท้อนว่า “คนละครึ่งพลัส” ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและอัดฉีดร้านเล็กให้โตได้จริง โดยเฉพาะจังหวัดเมืองรองมียอดขายเติบโตพุ่งขึ้นเป็นประวัติการณ์ สวนทางกับย่านเศรษฐกิจในกรุงเทพฯ ที่ยังไม่ฟื้นเต็มตัว ตลาดร้านอาหารพลิกกลับมาบวกใน Q4 หลังจมดิ่งใน Q2
‘ยอด ชินสุภัคกุล’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE MAN Wongnai เปิดเผยว่า “ครึ่งปีแรก 2025 ถือเป็นช่วงต่ำสุดของธุรกิจร้านอาหาร โดยยอดขายต่อร้านหดตัวหนักถึง -14% ใน Q2 แต่หลังจากเข้าสู่ครึ่งปีหลัง ตลาดเริ่มกลับมาเป็นบวก โดย Q3 โต +1% และ Q4 (ข้อมูลเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน) กลับมาโต +5% สะท้อนการกลับมาของกำลังซื้อในวงกว้าง หลังแรงส่งของโครงการคนละครึ่ง พลัส”
แม้จำนวนร้านเปิดใหม่เพิ่มขึ้น 3% ในครึ่งปีหลัง 2025 แต่อัตราร้านที่ปิดตัวลงยังอยู่ที่ 50% ถือว่าคงตัวจากครึ่งปีแรก แปลว่าธุรกิจร้านอาหารยังแข่งขันหนักและได้รับผลกระทบหนักจากต้นทุนที่สูงคนละครึ่งพลัส เร่งตลาด ส่งกำลังซื้อพุ่ง-ร้านเล็กโตเกือบ 6 เท่า มาตรการรัฐช่วยปลดล็อกกำลังซื้อในวงกว้าง และ LINE MAN ในฐานะแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่เบอร์ 1 คนละครึ่ง ที่เชื่อมผู้คนกับร้านอาหารได้รวดเร็ว ทำให้เงินสะพัดสู่ฐานรากตั้งแต่ร้านเล็กจนถึงไรเดอร์ โดยมีตัวเลขที่น่าสนใจจากโครงการคนละครึ่งพลัส ดังนี้
ซึ่ง 65% ของร้านที่เข้าโครงการเลือกขายบน LINE MAN และทำยอดขายคนละครึ่งพลัส คิดเป็น 63% มากที่สุดในตลาด, เกิดยอดออเดอร์คนละครึ่งรวมกว่า 8 ล้านออเดอร์ ภายใน 3 สัปดาห์, ยอดขายร้านค้าทั่วประเทศ เติบโตเฉลี่ย 4.2 เท่า และเติบโตสูงสุดมากกว่า 10 เท่า สูงกว่าโครงการคนละครึ่งในรอบที่ผ่านมา, คนละครึ่งพลัส ช่วยขยายฐานผู้ใช้และกระตุ้นกำลังซื้ออย่างชัดเจน ร้านค้าได้ลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น +22% ความถี่ในการสั่งบ่อยขึ้น +30% และมูลค่าต่อบิลโต +15%, ที่น่าสนใจที่สุดคือคนละครึ่งพลัสช่วยให้ “ร้านเล็ก” ที่นับรายได้น้อยกว่า 10,000 บาทต่อเดือน เติบโตได้จริง
มียอดขายพุ่งถึง 5.9 เท่า เมื่อเทียบกับยอดขายช่วงก่อนโครงการ ส่วนร้านขนาดกลาง เติบโต 2 เท่า ถือเป็นการอัดฉีดของรัฐที่ทำให้เม็ดเงินไหลสู่ร้านรายย่อยอย่างชัดเจน ฝั่งไรเดอร์เองก็ได้อานิสงส์จากโครงการ มีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้น 15-25% ตามปริมาณออเดอร์ต่อวันที่สูงขึ้น
โดยเมนูที่มียอดสั่งสูงสุดผ่านแคมเปญคนละครึ่งพลัสบน LINE MAN 5 อันดับแรก ได้แก่ ชาไทย, ตำปูปลาร้า, ชาเขียวนม, โกโก้ และตำป่า และคนละครึ่งยังทำให้เกิด เมนู “จัดหนัก” ที่มียอดบิลสูงที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ แซลมอน, ทุเรียนหมอนทองแกะเนื้อ, กุ้งเผา, ปูไข่นึ่ง และหมูหัน มูลค่าบิลสูงสุดแตะ 1,700 บาท แสดงว่าผู้บริโภคมองโปรโมชั่นจากรัฐเป็นโอกาสลองของแพง
นอกจากนี้ ร้านอาหารต่างจังหวัดฟื้นแรง จากอานิสงส์คนละครึ่งพลัส สวนทางกรุงเทพฯ ที่ยังไม่ฟื้นเต็มตัว ในช่วง Q4 ภาพรวมตลาดร้านอาหารในต่างจังหวัดฟื้นตัวแรงกว่ากรุงเทพฯ โดยยอดขายต่อร้านต่างจังหวัดโตเฉลี่ย +7% ขณะที่กรุงเทพฯโตเพียง +2% ด้านเมืองท่องเที่ยวหลักอย่างเชียงใหม่ พัทยา และภูเก็ต เริ่มฟื้นตามการกลับมาของนักท่องเที่ยว
ผลจากคนละครึ่งพลัส ดันยอดขายร้านต่างจังหวัดโตสูง จังหวัดที่ทำผลงานโดดเด่น มียอดขายร้านเติบโตสูงที่สุด เมื่อเทียบกับยอดขายช่วงก่อนโครงการ ได้แก่ จันทบุรี, หนองบัวลำภู, อุตรดิตถ์, อุดรธานี และเชียงราย แม้ตลาดภาพรวมจะเริ่มฟื้นช่วงสิ้นปี แต่กรุงเทพฯ ยังเป็นพื้นที่ที่ฟื้นตัวช้าที่สุด โดย “โซนฮอตสปอต” หลายย่านยังมียอดขายติดลบ ได้แก่ ย่านธุรกิจสุขุมวิท-สีลม-สาทร ที่มียอดขายต่อร้าน -19% ใน Q2 และแม้ดีขึ้นในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน แต่ยังติดลบเล็กน้อยที่ -1% เมื่อเทียบกับปีก่อน ย่านบรรทัดทอง ชะลอตัวหนักที่สุด ติดลบถึง -35% ใน Q2 และยังติดลบ -21% ในช่วงปลายปี สะท้อนว่าร้านอาหารในย่านยอดนิยมของเมืองหลวงยังต้องเผชิญการแข่งขันและต้นทุนสูงต่อเนื่อง ร้านในห้าง เริ่มเห็นสัญญาณบวก ยอดขายช่วง Q2 ลดลง -21% แต่ดีดตัวขึ้นมาที่ +1% ในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน เป็นกลุ่มเดียวในกรุงเทพฯ ที่พลิกกลับมาบวกได้ในช่วงปลายปี
ข้อมูลจาก LINE MAN Wongnai ชี้ว่า คนไทย “เลือกกินคุ้มค่า” มากขึ้น กลุ่มเมนูยอดบิลต่ำกว่า 500 บาท ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจน้อยกว่า ยอดขายต่อร้านลดลงเพียง -12% ใน Q2 ก่อนจะกลับมาโต +5% ในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน แต่ในทางตรงกันข้าม เมนูที่ยอดบิลสูงกว่า 500 บาท ถูกกดดันหนักกว่าในช่วงกลางปี -14% ใน Q2 และเริ่มฟื้นปลายปีเป็น +4% แต่ยังโตน้อยกว่าเมนูราคาถูก แสดงให้เห็นว่ากำลังซื้อระดับกลางยัง “รัดเข็มขัด” ต่อเนื่อง ขณะที่ผู้บริโภคหันมานิยมเมนูราคาจับต้องได้มากขึ้นในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ตึงตัว
สถานการณ์ร้านอาหารปี 2025 แม้ตลาดจะกลับมาเริ่มดีขึ้น แต่พฤติกรรมคนไทย “เลือกกิน” มากขึ้น มุ่งเมนูราคาจับต้องได้ และเพิ่มการใช้จ่ายเฉพาะช่วงที่มีแรงกระตุ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ปี 2026 เป็นปีที่ต้องจับตา เพราะเมื่อแรงกระตุ้นจากรัฐหมดลง ตลาดจะรักษาโมเมนตัมได้หรือไม่
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ‘ไลน์แมน วงใน’ รีแคปปี 2025 คนไทยมีพฤติกรรม ‘เลือกกิน’ มากขึ้น มุ่งเมนูราคาจับต้องได้
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th