ขยี้ซ้ำ! โผล่อีกหลักฐานเด็ดอดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ สวมวิกอิงสีกา
กรณีที่นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า พระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสและเจ้าคณะจังหวัด ตั้งแต่วันที่ 18 ก.ค. 68 เป็นต้นไป ต่อมาเมื่อเวลา 23.49 น.ของวันที่ 19 ก.ค. 68 พระธรรมวชิรธีรคุณ ได้ลาสิกขาที่พระอุโบสถวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง โดยมี พระครูนิภาธรรมประสิทธิ์ รองเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ เป็นประธานในพิธีลาสิกขา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เปิดแชตลับ “ทิดสฤษดิ์” อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ บ่งชี้สัมพันธ์เศรษฐินีใหญ่ปากน้ำโพ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 20 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลพยานหลักฐานตามที่มีผู้ร้องเรียนจน อดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ หรือ ทิดสฤษดิ์ กับเศรษฐินีสาวใหญ่ จนต้องสึกพ้นจากความเป็นพระไปแล้วนั้น
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ค้นพบหลักฐานเพิ่มอีกเป็นแชตข้อความสนทนาระหว่าง ทิดสฤษดิ์ กับ เศรษฐินี คนดังกล่าว ที่เชื่อว่าคบหาอยู่กินฉันสามีภรรยา มานานกว่า 15 ปี เนื้อหาใจความของแชตมีการระบุข้อความบ่งบอกถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง เช่น เรื่องการขอจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันรถฮอนด้า แอคคอร์ด ให้กับเศรษฐินีคนดังกล่าวด้วยความใจป้ำสายเปย์
จากข้อมูลของการสืบสวนพบว่า อดีตเจ้าคณะ อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการก่อสร้างพุทธอุทยาน ซึ่งดำเนินการมากว่า 10 ปี แต่ยังไม่แล้วเสร็จ กระทั่ง หลวงพ่อพัฒน์ อดีตเจ้าอาวาสวัดห้วยด้วน เกจิดังนครสวรรค์ เข้ามาช่วยบริหารจัดการต่อในช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ จนสามารถดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จได้ในที่สุด
ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบข้อมูลทรัพย์สินส่วนตัวของเศรษฐินีคนดังเมืองนครสวรรค์พบว่า มีบ้านหลังใหญ่ในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ 2 หลัง รถเก๋งฮอนด้า รุ่นแอคคอร์ด ไฮบริด สีขาว 1 คัน รถยนต์โตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว 1 คัน รถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ วีโก้ สีดำ 1 คัน สร้อยคอทองคำ สร้อยเพชร และ แหวนเพชร อีกหลายรายการ รวมไปถึงที่ดินในพื้นที่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย อีก 1 แปลง ซึ่งปัจจุบันทราบว่า ที่ดินผืนดังกล่าวมีการยกให้กับหมอดูชื่อดังรายหนึ่งที่ จ.ลำพูน อย่างไรก็ตามสำหรับรายการทรัพย์สินของเศรษฐินีดังกล่าวนี้ ยังเป็นเพียงแค่ข้อมูลที่เจ้าหน้าที่ได้รับในเบื้องต้น ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบอย่างละเอียด
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า แม้พยานหลักฐานที่ผู้ร้องเรียนส่งมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะไม่มีคลิปหรือภาพลับ ในลักษณะร่วมหลับนอนด้วยกัน แต่ก็มีบางภาพที่บ่งชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ที่บ่งผิดวินัยสงฆ์ข้อร้ายแรง อาทิ ภาพหน้าจอโทรศัพท์มือถือขณะที่อดีตเจ้าคณะกำลังวิดีโอคอลพูดคุยเศรษฐินีคนดังกล่าวในข่วงเวลากลางคืน รวมถึงภาพถ่ายคู่กันภายในห้อง ที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง ซึ่งมีด้วยกันหลายภาพ โดยภาพดังกล่าว เผยให้เห็นอดีตเจ้าคณะแต่งกายชุดฆราวาส สวมเสื้อคอปก ลายขวางสีเทาคาดชมพู และสวมใส่วิกผมอำพรางศีรษะให้เหมือนคนทั่วไป
นอกจากนี้ยังมีบางภาพที่ถูกบันทึกไว้ในขณะที่อดีตเจ้าคณะถอดเสื้อ สวมเพียงแค่วิกผม ส่วนตัวเศรษฐินีนั้น กำลังยืนกอดคอ โดยที่ตัวฝ่ายชายนั้นสวมใส่เพียงเสื้อกล้ามสีขาว ซึ่งภาพเหล่านี้ถูกถ่ายหรือบันทึกไว้ในอดีต ตั้งแต่ที่ทั้งคู่ยังมีอายุไม่มากนัก นอกจากนี้ยังมีภาพแชตลับนัดพบเจอกันของทั้งสองอีกด้วย ซึ่งภาพหลักฐานทั้งหมดอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นภาพจริงหรือว่าเป็นภาพตัดต่อ
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับมูลเหตุสำคัญที่นำมาสู่การเปิดโปงเรื่องฉาวนี้นั้น เนื่องจากในช่วง 1-2 ปี หลังมานี้ เศรษฐินีคนดังกล่าวเริ่มจับได้ว่าอดีตเจ้าคณะไปติดพันสีการายใหม่ ทำให้เศรษฐินีรายนี้ไม่พอใจ มักแสดงท่าทีออกอาการหึงหวงอย่างออกหน้าออกตา รวมถึงนำเรื่องราวไปบอกเล่าให้กับผู้อื่นฟังด้วย จนทำให้คนรอบข้าง หรือชาวบ้านในพื้นที่เริ่มรับรู้ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของทั้งสอง จนกระทั่งนำมาสู่การร้องเรียนขอให้ทางตำรวจ บก.ปปป. และศูนย์ทะนุบำรุงพุทธศาสนา บช.ก.เข้ามาตรวจสอบดังกล่าว