‘เสือปุ่น-สมุน’ ไร้ญาติประกัน ศาลอนุญาตฝากขัง ราชทัณฑ์คุมเข้าเรือนจำ
เมื่อวันที่ 19 ก.ค. พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน คุมตัว นายวรวัฒน์ เชื่อมแก้ว อายุ 43 ปี หรือ "เสือปุ่น" และนายบอล เหล่าบุญมา อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาคดีปล้นทรัพย์โดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการพาทรัพย์นั้นไป ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 340 วรรคแรก มาตรา 340 วรรคสอง และมาตรา 340 ตรี ไปฝากขังที่ศาลอาญา มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-30 ก.ค. 68
ตามคำร้องระบุว่า ผู้เสียหายมีอาชีพเป็นนักเทรดซื้อขายและแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ต่อมาวันที่ 30 พ.ค. 68 นายเฌอพัชญ์ (สงวนนามสกุล) อ้างตัวเป็นนายหน้าซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ติดต่อขอนัดเจอเพื่อซื้อขายเงินสกุลดิจิทัล USDT จากผู้เสียหาย โดยมีการนัดเจอเพื่อซื้อขายสำเร็จ 2 ครั้ง ยอดเงิน 200,000 บาท และ 300,000 บาท ต่อมาวันที่ 29 มิ.ย. 68 เวลาประมาณ 11.20 น. นายเฌอพัชญ์ ได้ติดต่อหาผู้เสียหายว่า จะมีคนนำเหรียญ USDT มาขายให้แก่ผู้เสียหายจำนวน 100,000 USDT คิดเป็นเงินจำนวน 3,400,000 บาท โดยนัดหมายกันที่ร้านกาแฟภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว ในวันที่ 30 มิ.ย. 68 เวลา 18.30 น. โดยให้เตรียมเงินสดจำนวน 3,400,000 บาท มาด้วย
กระทั่งวันที่ 30 มิ.ย. 68 ผู้เสียหายได้เดินทางมาที่ร้านกาแฟตามนัดหมายพร้อมกับ น้องชาย นำเงินสดจำนวน 2,500,000 บาท ไว้ในกระเป๋าสะพายสีดำ โดยให้เพื่อนของผู้เสียหายอีกคนหนึ่ง เตรียมเงินสดมาอีกจำนวน 900,000 บาท และรวมเก็บไว้ภายในกระเป๋าสะพายสีดำ เมื่อนายเฌอพัชญ์ มาพบกับผู้เสียหาย ระบุว่าคนที่ต้องการจะแลกเงินรออยู่ที่ลานจอดรถชั้น 1 พบรถยนต์ฮอนด้า รุ่น ซีวิคทะเบียน ขก 1116 นครสวรรค์ จอดอยู่ที่ช่องจอด H 19 ชั้น 1
นายเฌอพัชญ์ บอกให้ผู้เสียหายขึ้นไปนั่งในรถ เพราะคนที่จะซื้อขายเงินดิจิทัลนั่งอยู่ข้างคนขับ ทราบชื่อต่อมาว่า น.ส.นานา (สงวนนามสกุล) เมื่อผู้เสียหายและน้องชายเข้าไปนั่งในรถ ได้มีชาย 2 คน เข้ามาเปิดประตูด้านหลังทั้งฝั่งซ้ายและขวาเข้ามาในรถ ใช้มือกดหน้าผู้เสียหาย และใช้มีดขึ้นมาจี้ที่คอขู่จะแทง ค้นเจอเงินสดจำนวน 20,000 บาท และคืนให้ผู้เสียหายไป 4,000 บาท ก่อนที่ น.ส.นานา จะลงจากรถ ไปยังเพื่อนของผู้เสียหายที่ยืนรออยู่ด้านนอก บอกให้เดินไปยังรถคันเกิดเหตุ คนร้ายจึงนำเอากระเป๋าสะพายสีดำจากเพื่อนผู้เสียหาย ที่มีเงินสด 3,400,000 บาท ออกไป ก่อนคนร้ายทั้งหมดออกไปขึ้นรถทะเบียน กอ 7894 นนทบุรี ที่จอดห่างไปอีก 3 ช่อง หลบหนีไป
หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่สามารถจับกุม นายเฌอพัชญ์, น.ส.นานา, นายอนันต์ชัย (สงวนนามสกุล) และ นายนนทวัฒน์ (สงวนนามสกุล) ที่ร่วมกันก่อเหตุไว้ได้ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า การวางแผนปล้นครั้งนี้ มี นายวรวัฒน์ หรือ "เสือปุ่น" เป็นผู้วางแผน และมี นายบอล ผู้ที่เข้าไปประกบตัวผู้เสียหายภายในรถ เพื่อร่วมกันปล้นเงินของผู้เสียหาย
ต่อมาวันที่ 19 ก.ค.เวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายวรวัฒน์และนายบอล ได้ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ. 3873/2568, ที่ 3871/2568 ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ รอสอบสวนพยานอีก 5 ปาก รอผลการตรวจพิสูจน์ของกลาง รอผลการตรวจพิมพ์ลายนิ้วมือและประวัติการต้องโทษของผู้ต้องหาทั้งสอง และมีเหตุอันควรเชื่อว่า หากผู้ต้องหาทั้งสองได้รับการปล่อยชั่วคราวจะหลบหนีและก่อเหตุอันตรายหรือความเสียหาย เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง พนักงานสอบสวนจึงขอคัดค้านการประกันตัว
ศาลอนุญาตให้ฝากขัง และไม่มีใครยื่นประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ก่อนศาลอาญาได้ออกหมายขังให้เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์คุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป