สื่อนอกตีข่าวไทยประท้วงไล่นายกฯ จากปมคลิปเสียง ฮุน เซน
สื่อทั่วโลกพากันติดตามรายงานข่าว การชุมนุมประท้วงใหญ่โดยกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วานนี้ (28 มิถุนายน) เพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ลาออก โดยมีชนวนเหตุจากคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์กับสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา
สำนักข่าว AP รายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่ ไม่พอใจต่อเนื้อหาการสนทนาที่เกี่ยวข้องกับความคิดเห็นของแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 และความพยายามของเธอในการทำให้ฮุนเซน พอใจ เพื่อคลี่คลายปัญหาตึงเครียดในพื้นที่ชายแดน
AP ยังรายงานว่า ผู้จัดการชุมนุมครั้งนี้หลายคน มาจากกลุ่มเสื้อเหลือง ซึ่งเคยชุมนุมต่อต้านอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร มายาวนาน และยังเคยชุมนุมขับไล่รัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวของทักษิณ ก่อนที่จะเกิดการรัฐประหารในปี 2557 ด้วย
ขณะที่ Reuters รายงานว่า การชุมนุมประท้วงครั้งนี้ เป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่พรรคเพื่อไทยเข้าครองอำนาจรัฐบาล ภายหลังการเลือกตั้งในปี 2566
โดยกลุ่มผู้ชุมนุม ยืนหยัดประท้วงท่ามกลางฝนที่ตกหนัก เพื่อต่อต้านนายกรัฐมนตรีแพทองธาร วัย 38 ปี ซึ่งกำลังพยายามดิ้นรนเพื่อฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซาและรักษาพันธมิตรทางการเมืองที่เปราะบางเอาไว้ ก่อนที่จะสู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะมีขึ้นในเดือนกรกฎาคม
Reuters ชี้ว่ากระแสขับไล่แพทองธาร โดยฝ่ายชาตินิยม เกิดขึ้นหลังจากมีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนา ที่แสดงให้เห็นว่าเธอวิพากษ์วิจารณ์ผู้บัญชาการกองทัพและก้มหัวให้กับฮุนเซน
ซึ่ง Reuters ระบุว่า การวิพากษ์วิจารณ์กองทัพในที่สาธารณะถือเป็นการล้ำเส้น ในประเทศไทยที่กองทัพมีอิทธิพลอย่างมาก
ฮุนเซนจุดกระแสชาตินิยม ต้านไทยรุกราน
ทั้งนี้ การชุมนุมประท้วงในไทย มีขึ้นในวันเดียวกับที่มีการจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 74 ปีของการก่อตั้งพรรค CPP (Cambodian People’s Party) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของฮุนเซน และนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต บุตรชาย
โดยฮุนเซน ได้กล่าวต่อผู้สนับสนุนว่าเขา “จะปกป้องดินแดนของประเทศจากผู้รุกรานต่างชาติ” และประณามเหตุปะทะระหว่างทหารไทยและกัมพูชา ซึ่งเขาเรียกว่าเป็น “การโจมตีของกองทัพไทย” ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม และกล่าวอ้างว่า การปะทะกันดังกล่าว เกิดขึ้นภายในดินแดนของกัมพูชา และเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชาอย่างร้ายแรง แม้ว่ากัมพูชาจะมีความปรารถนาดีในการพยายามแก้ไขปัญหาชายแดนก็ตาม
“กัมพูชาที่น่าสงสารนี้ต้องทนทุกข์ทรมานจากการรุกรานจากต่างชาติ สงคราม และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ถูกปิดล้อม โดดเดี่ยว และถูกดูหมิ่นในอดีต แต่ตอนนี้กัมพูชายืนหยัดได้อย่างเท่าเทียมกับประเทศอื่นๆ เราต้องการสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนามากที่สุด เราไม่มีการเมืองและไม่มีจุดยืนที่ไม่เป็นมิตรกับประเทศใดๆ”
อ้างอิง:
- https://www.reuters.com/world/asia-pacific/thai-protesters-call-prime-minister-paetongtarns-resignation-2025-06-28/
- https://apnews.com/article/thailand-paetongtarn-phone-cambodia-hun-sen-protest-4623304524a4e3243249ed376065f87d
- https://www.aljazeera.com/news/2025/6/28/thailand-protesters-demand-pms-resignation-over-leaked-call-with-hun-sen