พ่อมด TikTok สอนเกมโซเชียล ถ้าอยากประสบความสำเร็จ เอาอนาคตมาทำปัจจุบัน
ศิลา พีรวัฑฒึก หรือ“พ่อมดTikTok” ผู้มียอดติดตามกว่า5 ล้านคน สอนเกมโซเชียล“เอาอนาคตมาทำปัจจุบัน’ จะประสบความสำเร็จ” และควรใช้เอไอให้เป็น
ในวาระพิเศษของการครบรอบ50 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน เครือมติชนเปิดม่านเทศกาลวัฒนธรรมครั้งยิ่งใหญ่“Thai-Chinese Golden Fest 2025 เทศกาลร้อยเรื่องราวไทย-จีน” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่11-13 กรกฎาคม เวลา10.00-18.00 น. ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค(อาคารWest ชั้น2) พระโขนง กรุงเทพฯ
โดยในวันที่สองของกิจกรรมได้มีไฮไลต์ทอล์กสุดพิเศษ“TikTok Revolution : พลังครีเอเตอร์ที่เปลี่ยนโลกและวัฒนธรรมป๊อป” โดย ศิลา พีรวัฑฒึก หรือ“พ่อมดTikTok” ผู้มียอดติดตามกว่า5 ล้านคนในโซเชียลมีเดีย ที่จะมาพูดคุยถึงช่วงยุคที่โลกหมุนไวด้วยปลายนิ้ว และทุกการ“สไลด์ผ่าน” แอปพลิเคชั่นTikTok ไม่ใช่แค่ความบันเทิงอีกต่อไป
ศิลา กล่าวว่า ในยุคนี้เราต้องมี3 i คือinformation ต้องอัตเดตข้อมูลimpact ช็อตวิดีโอนั้นกระทบตัวเรา สังคม ธุรกิจมากแค่ไหนinspired ตนมาวันนี้อยากเล่าว่าตนเป็นเจ้าของช่องพ่อมดTikTok แต่พื้นฐานผมไม่ได้เป็นติ๊กต้อกเกอร์ ตนทำการตลาด มาร์เก็ตติ้งมาหลายปี ตนเป็นคนที่เปลี่ยนเฟชบุ๊กให้ทำเงินได้ก่อนที่เราจะมีTikTok ตนเป็นอาจารย์ ผู้สอน เป็นผู้บรรยายดังนั้นการที่ตนจะหยิบมือถือขึ้นมาถ่าย ไม่ยาก ไม่เขิน แต่สำหรับทุกคนจะเขินได้
อยากให้เลิกคิดว่าโซเซียลมีเดียมีไว้อวด แต่เปลี่ยนให้เป็นที่สอนลูกสอนหลาน เก็บไว้ให้เขาต่อไป เราคิดว่าอยากจะสอนอะไรดีๆก็ลงเอาไว้ แล้วถ้าสิ่งที่ลงไว้เป็นประโยชน์ต่อสังคม จะดีมาก
ตนเป็นเจ้าของโซเซียลมีเดียมีคนตาม5 ล้านคน คอนเท้นท์ของผมคือ เป็นช้อปเปอร์เท้นเมนต์ คือ ช้อปปิ้ง+เอนเตอร์เท้นเมนต จำไว้ว่าโลกยุคปัจจุบันต้องทำโฆษณาให้ไม่เป็นโฆษณา พูดง่ายๆ คือทำให้เป็นละครคุณธรรมReach is Rich การเข้าถึง คือความมั่งคั่งใครเข้าถึงได้มาก คนนั้นมีโอกาสรวยกว่า! แล้วยกตัวอย่างว่าให้เลือกระหว่างมีเงิน1 ล้านบาท กับมีคนฟอล1 ล้านเลือกอันไหน
แน่นอนว่าล้านฟอลทำเงินได้เยอะกว่า1 ล้านบาทแน่นอนเพราะการเข้าถึงคือเงินทอง ช่วงที่ผ่านมามีคนเข้าถึงโซเชียล61 ล้านครั้ง เกือบเท่าประชากรในประเทศไทย ถ้าคุณมาจ้างผมลงโฆษณาคนจะเข้าถึงด้วยยอดนี้ ดีกว่าป้ายบิลบอร์ดบนทางด่วนอีก
ตอนนี้ตนเป็นผู้สอนของTikTok ด้วย แปลว่าเราได้มาตรฐานที่TikTok การันตีใช้มือถืออย่างเดียวในการทำช่อง ตนตัดต่อผ่านCapCut เท่านั้น ก่อนจะซื้ออุปกรณ์อะไร ใช้สิ่งที่เรามีให้เต็มประสิทธิภาพก่อน ตนทำงานเริ่มจากการถ่ายคลิป คลิปละ400 – 500 บาทด้วยการรับจ้างจากฟาสเวิร์ก ความสามารถที่ปราศจากโอกาสเท่ากับศูนย์
โลกนี้ไม่ใช่แค่TikTok อีกแล้ว แต่มันคือ วิดีโอคอลลิตี้ ผมถูกสอนจากคนจีนมาตั้งแต่เริ่มต้นว่าต้องทำคลิปแบบมีคุณภาพ เขาสอนว่าโตวอินที่จีนเป็นแบบนั้น เอาอนาคตมาทำปัจจุบัน มันจะสำเร็จในปัจจุบัน คนไทย71 ล้าน มีซิมการ์ด91 ล้าน แปลว่าคนไทยมีมือถือมากกว่าคนละ1 เครื่องเราต้องมองไปในอนาคตว่าอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นแล้วดักรอไว้ก่อน
ตอนนี้มีตัวเลขออกมาว่าแอพที่คนไทยนิยมใช้ที่สุด คือTikTok ผมเชื่อว่าโลกตอนนี้คือวิดิโอ การที่เราจะทำคอนเท้นต์ให้สำเร็จต้องเข้าใจลูกค้า คนดู ช็อตวิดีโอคือเกมจับคู่ สิ่งที่คุณชอบ เวลาที่คุณเสิร์ตเขาจะรู้ว่าคุณกำลังต้องการอะไร ยุคที่ทุกแพลตฟอร์มใช้วิดีโอสั้นดึงเวลาคนดู วิดีโอแนวตั้งช่วยอะไรบ้าง1.เพิ่มการรับรู้ โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณาแพง2.สร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า3.เพิ่มช่องทางการขายโดยตรง4.สร้างตัวตนให้จดจำ5.เปิดโอกาสสู่รายได้ใหม่
นอกจากนี้ขณะนี้เรายังพบว่า50% ของผู้ใช้งานTikTok ดูคลิปยาวกว่า1 นาที คนที่ทำคลิปยาวมากกว่า1 นาทีมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นTikTok ไม่ใช่แอพไร้สาระอีกต่อไป1.คนดูคอนเทนต์มากกว่าแค่ความบันเทิง2.ต้องการคลิปคุณภาพมากขึ้นเพราะการแข่งขันของครีเอเตอร์ในTikTok ที่ผ่านมาเราเห็นสินค้าบริการผ่านสื่อหลัก ตอนนี้ทุกอย่างต้องผ่านออนไลน์ สมัยก่อนโดนบังคับดู ทั้งหมดที่พูดไปตอนต้นคือsocial media landscape ยุคปี1980 คือปริมาณความถี่,1990 คือ ดาราดังTV, 2010 คือAD & internet และยุค2020 คือcontent & infu kol koc
ศิลา เผยต่อว่า เหตุผลที่ทำให้คลิปสั้น หรือShort Video ได้รับความนิยมสูงสุด เนื่องจาก คนใช้โทรศัพท์ในการเสพสื่อมากขึ้น ประกอบกับการเติบโตของติ๊กต็อก ที่มาพร้อม ๆ กับพฤติกรรมในการเสพสื่อของคนเปลี่ยนไป คนเริ่มเสพติดการไถ หรือEndless Scrolling Harbit เริ่มมองหาคอนเทนต์ที่เข้าถึงง่าย สนุกโดยที่ไม่ต้องใช้สมาธิ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนมีโอกาสสร้างรายได้จากคบิปสั้นมากขึ้น ตลอดจนการแพร่กระจายของAI และอัลกอริทึมที่มีอิทธิพลมากในปัจจุบัน
โดยในวงการคอนเทนต์ มีบุคคลอยู่4 ระดับด้วยกัน คือ1. UGC (User Generated Content) หรือบุคคลทั่วไปที่ทำคอนเทนต์หลากหลายในชีวิตประจำวัน2. KOC (Key Opinion Consumer) ครีเอเตอร์ที่ทำคอนเทนต์เฉพาะกลุ่ม อาทิ ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับอาหาร หรือ การถ่ายรูป3. KOL (Key Opinion Leader) ครีเอเตอร์ที่ได้รับความน่าเชื่อถือ จนได้รับการจ้างงานจากแบรนด์ต่าง ๆ ในการทำคอนเทนต์ และในระดับที่ใหญ่สุด คือ4. Influencer ครีเอเตอร์ที่สามารถสร้างรายได้มหาศาลและมีอิทธิพลในโลกออนไลน์
ศิลา กล่าวอีกว่า ย้อนกลับไปเมื่อ30 ปีที่แล้ว ในการทำการตลาดะต้องเริ่มจากโรงงานที่อยากทำอะไรบางอย่าง และนำไปจัดจำหน่าย มีโฆษณา ค้าปลีก เพื่อให้มีลูกค้ามาสนใจ แต่ในปัจจุบันการทำการตลาดเปลี่ยนไปสู่แบบออนไลน์ ไม่สามารถใช้การตลาดแบบออฟไลน์ได้อีกต่อไปแล้ว สิ่งสำคัญคือ“อยากขายดี ต้องทำตัวเป็นกูรู อินฟลู ในสายงานนั้น ๆ อย่างเพิ่งใจร้อน หรือขายเร็วจนเกินไป”
ศิลาระบุว่า หากต้องการให้คอนเทนต์ที่เราทำประสบความสำเร็จ อันดับแรกที่ไม่ควรทำ คือ ทำคอนเทนต์มั่ว หรือสะเเปะสะปะ และทำคอนเทนต์ที่เฉพาะทาง ยกตัวอย่างเช่น ตนที่ทำคอนเทนต์เกี่ยวกับการสอนถ่ายรูปจากกล้องโทรศัพท์เท่านั้น จะไม่มีการยุ่งเกี่ยวกับกล้องใหญ่
สำหรับ ใครที่อยากเริ่มต้นผลิตคอนเทนต์ของตนเอง และทักษะที่ต้องมีหากต้องการประสบความสำเร็จ คือShort Video StoryTelling ปัญหาหลักที่ต้องแก้ไขคือ“ควรเรียนรู้ที่จะเล่าเรื่องอย่างกระชับ” หรือที่เรียกว่าSharb Short Hit to the Point บางคนมีเรื่องในใจที่อยากจะถ่ายทอดเยอะมากจนทำให้คลิปเยิ่นเย้อ ดังนั้น ใครที่สามารถพูดน้อยแต่ทำให้เข้าใจได้ อีกทั้งยังครบทุกประเด็นรับประกันความรุ่งเรืองแน่นอน
“ข้อดีของคนไทยคือ ความมีมารยาท แต่ความมีมารยาทนั้นไม่มีประโยชน์กับการทำคลิปบนติ๊กต็อก เราควรจะทำคลิปที่สามารถดึงดูดคนได้ตั้งแต่3 วินาทีแรก โดยตัดการอารัมภบทออกไปเพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมการเสพสื่อในปัจจุบันที่ไม่ต้องการดูคลิปที่นาน และมองหาคลิปที่กระชับ เข้าใจง่าย ยกตัวอย่างเช่น ช่องยูทูบท่องเที่ยวช่องหนึ่ง ที่มักจะเปิดคลิปที่สนามบินก่อนไปเที่ยวเสมอ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนจากเปิดคลิปที่สนามบินไปเปิดคลิปในสถานที่นั้น ๆ และพูดถึงเนื้อหาสำคัญอย่างรวบรัดเพื่อให้คนดูเข้าใจในทันทีว่าคลิปนี้เกี่ยวกับเรื่องอะไร ซึ่งนี่คือตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นความเปลี่ยนแปลงของการทำคลิป หลังจากติ๊กต็อกเป็นที่นิยม” ศิลากล่าว
อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ“เมื่อถ่ายคลิป ควรฝึกพากย์เสียงให้เป็น” ซึ่งเรื่องนี้หลายคนไม่ทำเพราะเขิน หรืออาย ส่วนใหญ่จะตัดเพลงใส่ และระบุข้อความให้คนอ่านแทนเสียงพากย์ ปัญหาคือคนดูไม่เข้าใจ เสี่ยงถูกปัดทิ้ง
ถัดมาPerforming (Live) หรือPersonal Branding หาเอกลักษณ์ให้กับช่องตนเอง และต้องกล้าที่จะออกกล้องเพื่อให้คนดูจำได้ และเมื่อคนดูจำได้ก็จะถูกพูดถึง เพราะฉะนั้นเวลาถ่ายคลิปควรทำสิ่งนั้นซ้ำ ๆ ให้เกิดเป็นภาพจำ
สุดท้ายAI Generated เราควรใช้เอไอให้เป็นและถูกทาง เพราะถ้าหากเก่งแต่ไม่ใช้เอไอ อาจจะเสี่ยงถูกคนที่ใช้เอไอแซง และโอกาสเติบโตช้าลงเรื่อย ๆ ซึ่งกลุ่มที่เก่งในการใช้เอไอนั้นน่าจับตาที่สุด เพราะมีทั้งทักษะ และรู้จักใช้เครื่องมือส่งผลให้ทำงานไวกว่า วิเคราะห์แม่นกว่า ขยายรายได้ได้เร็วกว่า
พร้อมทิ้งท้ายว่า ในโลกนี้ไม่มีอะไรยากมีแต่สิ่งที่ท้าทาย การทำคอนเทนต์เปรียบเสมือนการกินข้าว เรากินอาจจะคิดว่าอร่อย แต่อาจจะไม่อร่อยในสายตาคนอื่น ๆ ดังนั้นคลิปจะดี หรือไม่ดี จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อโพสต์ให้คนดูตัดสิน และที่สำคัญ“ต้องมีความต่อเนื่อง” อย่างน้อยเดือนละ15 คลิปเป็นอย่างต่ำ
“เวลาทำคลิปเราต้องคิดเสมอว่าคนดูจะได้อะไรจากเรา หรือสังคมจะได้อะไร ในเมื่อคุณมีสิทธิทำ คนดูก็มีสิทธิที่จะเลือกดูเช่นกัน เพราะฉะนั้นโปรดใช้โซเชียลให้เป็นประโยชน์” ศิลากล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้งาน“Thai-Chinese Golden Fest 2025 เทศกาลร้อยเรื่องราวไทย-จีน” จัดขึ้นระหว่างวันที่11-13 กรกฎาคม เวลา10.00-18.00 น. โดยภายในงานยังคงอันแน่นด้วยสาระความรู้ทั้งนิทรรศการ เวทีเสวนา และเวิร์กช้อปสุดเข้มข้นให้ทุกคนที่สนใจสามารถเข้าชมกันได้ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค(อาคารWest ชั้น2) พระโขนง กรุงเทพฯ
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : พ่อมด TikTok สอนเกมโซเชียล ถ้าอยากประสบความสำเร็จ เอาอนาคตมาทำปัจจุบัน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th