“ใหม่ – เต๋อ” เผยเบื้องหลังทริปฝรั่งเศสสุดหวาน เคาะฤกษ์งานแต่งปลายปีนี้
"ใหม่ ดาวิกา - เต๋อ ฉันทวิชช์" เผยเบื้องหลังทริปไปดูโชว์ที่ฝรั่งเศสสุดหวาน ฤกษ์งานแต่งขออุบรอเซอร์ไพร์ส ปลายปีนี้แน่นอน
เรียกได้ว่าเป็นคู่รักหวานฉ่ำสำหรับ "ใหม่ ดาวิกา - เต๋อ ฉันทวิชช์" ที่เพิ่งมีโมเมนต์ทริปฝรั่งเศสให้แฟนคลับชมไปหมาด ๆ งานนี้ได้เจอทั้งคู่ที่งาน Thailand Gala Premiere ภาพยนตร์เรื่อง “Marvel Studios' The Fantastic Four: First Steps เดอะ แฟนแทสติก 4: จุดเริ่มต้นปฐมบทใหม่” จึงได้พูดคุยกันว่า
ทริปฝรั่งเศสล่าสุดไปทำอะไร?
ใหม่ : "ไปดูโชว์วันนึง มีว่างอีก 2 วันเลยชวน "พี่เต๋อ" ไปเที่ยวด้วย 2 วัน ไปดูโชว์วันเดียว ไม่ได้ไปกับใคร ไม่มีช่างหน้า ช่างผม ขึ้นเครื่องปุ๊ปล้างหน้าเหลือแค่ตา ตื่นขึ้นมาลงรองพื้นใหม่ มัดผมเอง ใส่หมวกไปดูโชว์ เครื่องแลนด์ 7 เช้า 10 โมงโชว์เริ่ม
บนรถ "พี่เต๋อ" ช่วยใส่ชุดให้ ช่วยกันรูดซิป มีกันแค่ 2 คนไปดูโชว์ ตอนเย็นเช็คอินที่พักมีทีมที่เมืองนอกช่วย หลังจากนั้นก็เที่ยว"
เป็นครั้งแรกไหมที่ได้เป็นผู้ช่วย?
ใหม่ : "ตอนแรกจะให้เป็นช่างผม"
เต๋อ : "เครียดเลยนะ เป็นช่างผม เหงื่อแตกเลย"
ใหม่ : "โชว์เช้าไม่มีคนรวบผมให้ ช่างผมบินไปก็เป็นแสน เลยบอก "พี่เต๋อ" เรียนรวบผมให้หน่อย"
เต๋อ : "ผมตัวเองยังไม่ค่อนจะทำเลย ไปเรียนไม่ทัน"
ใหม่ : "โชคดีที่ชุดนั้นมีหมวก แต่ช่างผมก็ช่วยลงจากไทยให้ ต้องนอนแบบเจ้าหญิง ใจอยากดูโชว์ แต่มันไม่มีเวลาทำผมเลย แลนด์ฝรั่งเศส 07.10น. สนามบินไกลที่โชวชั่วโมงครึ่ง เลยไม่มีเวลา"
หลังจากนี้ "เต๋อ" ต้องไปเรียนแล้วไหม?
ใหม่ : "คิดอยู่ ต้องรีดผ้า"
เต๋อ : "ทำได้ ขอเวลาเรียนรู้นิดนึง ใน 3 อย่าง แต่งหน้า ทำผม เสื้อผ้า ไว้ใจอะไรมากที่สุด"
ใหม่ : "เอาจริงไม่ไว้ใจอะไรเลย"
เต๋อ : "เขามีคำตอบอยู่แล้ว"
ใหม่ : "แต่ว่ามันต้องทำให้ได้"
เต๋อ : "ได้"
ใหม่ : "สิ่งที่ทำได้ดีที่สุดคือ "พี่เต๋อ" เคยเป็นเบื้องหลัง ไปดูโชว์ก็เป็นตากล้องให้ "
เต๋อ : "เป็นตากล้องคอยถ่าย สักพักเขาก็แนะนำว่า This is my boyfriend ตนก็ อ๋อ"
ใหม่ : "เจอหลายคนมากมา congratulations for your engagements ตนก็ yes, my husband here too แล้วก็ชี้ไปที่ "พี่เต๋อ"
เต๋อ : "ตนก็กำลังถ่าย"
ใหม่ : "ใช่ แล้วทุกคนจะโอ้ว congratulations"
ต้องเทรน "เต๋อ" เพิ่มไหมเพื่องานหน้า?
ใหม่ : "เก่งอยู่แล้ว คนเดียวทำได้ทุกอย่าง"
เต๋อ : "ทำได้ทุกอย่างแต่ว่า ต้องทำ"
ใหม่ : "ทำได้ทุกอย่างแหล่ะ"
"เต๋อ" เห็น "ใหม่" ดองหน้า ดองผม รู้สึกยังไง?
เต๋อ : "ครั้งแรก"
ใหม่ : "เพราะตนไม่เคยดองตาเลย เพราะเป็นกุ้งยิงบ่อย การดองตาเป็นเรื่องใหญ่มาก วันนั้นคำนวนแล้วก็เลยดอง"
"เต๋อ" รับได้ใช่ไหม?
เต๋อ : "รักเขามากกว่าเดิมอีก"
ใหม่ : "ชอบของดอง"
เต๋อ : "ชอบกิมจิ ชอบของมักดอง รับได้ทุกอย่าง รักมาก"
กลัวแหวนหายไหม?
ใหม่ : "หาทางออกได้แล้ว เวลาจับมือก็กำไว้ให้เขารู้สึกว่าแหวนอยู่ในมือเขา ว่าจะไม่ใส่แล้ว"
เต๋อ : "อ่ะ เรียนแต่งหน้า เรียนทำผม เสื้อผ้า หาแหวนใหม่ 4 เรื่องแล้ววันนี้"
อัปเดตเรื่องงานแต่ง ได้ฤกษ์หรือยัง?
ใหม่ : “ได้วันแล้ว ปีนี้ค่ะ“
เต๋อ : ”แต่ยังไม่บอก เก็บไว้เซอร์ไพรส์ ยังไงก็ต้องเป็นช่วงปลายปีแหละ อุบไว้หน่อย ถามว่าถือเคล็ดหรือเปล่าถึงยังบอกไม่ได้ "
ใหม่ : "ความจริงก็คืออยากแกล้งนั่นแหละ อยากเซอร์ไพรส์"
เต๋อ : "อุบไว้ก่อนดีกว่า มีแพลนไว้ค่อนข้างชัดเจน 70%-90% ไม่ใช่เดือนหน้าอยู่แล้ว จะบอกอีกที"
พอได้ฤกษ์มาแล้วตื่นเต้นไหม?
ใหม่ : “เป็นสิ่งที่ฝันเอาไว้มันจะเป็นรูปเป็นร่างแล้ว หมายถึงว่าเราเห็นในสิ่งที่เราอยากได้ แล้วมันก็บียอนด์ในสิ่งที่เราอยากได้ไปอีก มันคือความฝันที่เกินจากที่เราเคยฝัน มีรายละเอียด จนรู้สึกว่าเป็นโชคดีจังเลย แล้วสิทธิ์ในการตัดสินใจทุกอย่าง "พี่เต๋อ" ยกให้เลย”
เต๋อ : “มองว่าแต่งงานเป็นวันสำคัญมากๆ ของเจ้าสาว เขาจะมีความต้องการของเขา 100%”
ใหม่ : "เวลาประชุมก็ตนคนเดียว ประชุมซูม คนจัดไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ"
เต๋อ : "แต่งานไม่รู้อยู่ไหน"
ถามล่วงหน้าไปถึงเรื่องแพลนมีลูกเลยได้ไหม?
เต๋อ : “เรื่องลูกนี่เป็นสิ่งหนึ่งที่เดี๋ยวเราค่อยตัดสินใจกันอีกที จริงๆ มันเปลี่ยนไปเรื่อยตามช่วงเวลา บางช่วงก็อยากมีลูก บางช่วงก็รู้สึกว่าจะเหนื่อยหรือเปล่า ฝอยากทำงานอยากไปเที่ยวกันหรือเปล่า แต่ ณ ช่วงนี้เราเอาเรื่องแต่งงานให้ผ่านพ้นไปก่อน”
ใหม่ : “ที่คุยล่าสุดคือเดี๋ยวรอให้ซีรีส์ ClaireBell ออนแอร์ช่วงเดือนพฤศจิกายนก่อน หลังจากนั้นก็มาดูกันอีกทีว่าเราต้องทำงานเยอะขนาดไหน ถ้ามันไม่เยอะจนเกินไป ยังพอมีเวลาก็ค่อยมาว่ากันในเรื่องชีวิตส่วนตัว แต่ถ้าถึงตอนนั้นซีรีส์บูม หรือประสบความสำเร็จมากๆ ก็ไม่อยากหยุดเรื่องงานเลย อยากทำต่อเรื่อง 2 เรื่อง 3 ไปเลย“
จริงๆ ใจทั้งคู่อยากมีลูกไหม?
เต๋อ : “ใจผมก่อนหน้านี้คืออยากมี แต่ก็จะมีบางช่วงที่แบบไม่มีก็ได้ ณ ตอนนี้ก็คือยังไงก็ได้ แต่อย่างที่บอกแหละว่าต้องดูเรื่องของงานด้วย”
ใหม่ : ”ยังไงก็ได้เลย แต่ขอให้เรารวยกันก่อน แต่คำถามนี้ก็ทำให้ฉุกคิดเหมือนกันเนอะเพราะไม่เคยคุยกันจริงจังว่าจะยังไงดี”
ถามถึงเรื่องที่ล่าสุดมีเด็กออกจากสังกัด?
ใหม่ : “ต้องบอกว่าตั้งแต่เปิดค่ายมาก็มีเด็กที่มาพูดคุยและออกจากค่ายหลายคนแล้วด้วยค่ะ ไม่ใช่แค่ "น้องคิส" คนเดียว ส่วนใหญ่แล้วการเซ็นเด็กเข้าค่ายของเรา อย่างแรกเลยคือเราไม่อยากดองเด็ก อยากให้เขาเข้ามาอยู่ในค่ายและเราแพลนให้เขาว่าเขาจะได้ทำโปรเจ็กต์นี้โปรเจ็กต์นั้นนะ แต่ถ้าเด็กอยู่แล้ว แล้วเรารู้สึกว่าเราไม่สามารถทำให้เขาร่ำรวยขึ้น หรือพัฒนาศักยภาพได้เต็มร้อย หรือทิศทางของเขากับเราไม่ตรงกัน ดังนั้นเราจากกันแบบดีๆ ดีกว่า เพราะว่าตอนนี้เด็กที่เหลืออยู่ในค่ายทุกคนมีโปรเจ็กต์หมดแล้ว ฉะนั้นถ้ารับเข้ามาอีกเราก็อยากจะเมกชัวร์ว่าทำให้น้องคนนั้นมีงาน ซึ่งเด็กๆ ที่ออกไปไม่ได้มีโปรเจ็กต์อะไรที่ค้างกับเราอยู่“
เต๋อ : ”บางคนเขาก็มีแพสชั่นแบบว่าหลังจากที่เข้ามาอยู่ในค่ายแล้วเริ่มค่อยๆ รู้จักตัวเอง ค้นพบว่าแพสชั่นของเขาเป็นอย่างอื่น เช่นบางคนชอบร้องเพลง อยากเป็นศิลปิน ซึ่งเราสองคนทำในส่วนนี้ไม่เป็น และไม่มีแนวทางที่จะซัพพอร์ตเขาได้ด้วย ส่วนใหญ่เกิดจากการคุยกันหมดเลยมันก็เลยจบกันด้วยดี“
ใหม่ : ”จบกันด้วยดี ไม่มีเก็บค่าสัญญา ปกติในสัญญาจะมีค่าสัญญาอยู่แล้ว ถ้าฉีกสัญญาแล้วจบกันด้วยดีก็ไม่มีปัญหาอะไร เราก็จะให้ไปเลยโดยที่ไม่มีเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เราลงทุนไปแล้วเราก็จะไม่มีเก็บคืน อย่างที่บอกเลยว่าถ้าอยู่ด้วยกันแล้วมันไม่ส่งเสริมกัน เราก็ให้น้องไปมีชีวิตที่ดีขึ้นดีกว่า
ใจหายไหมเหมือนเราก็ดูแลกันมา?
ใหม่ : ”แล้วแต่เคสค่ะ บางเคสเราก็ไม่ได้ทำอะไรให้เยอะมาก แยกกันตอนนี้ก็ยังทัน แต่ถ้าอยู่กันไปแบบ 5-6 ปี แล้วแยกกันตอนนั้นอาจจะใจหาย แต่นี่อยู่แป๊บเดียวเองเนอะ เราก็ยังไม่ได้ใจหายมาก เงินที่เราลงทุนไปมันก็ยังไม่ได้แพงขนาดนั้น เด็กที่เซ็นกับค่ายเราจะเซ็นสัญญา 5 ปี แต่อย่างน้องคิสก็อยู่ด้วยกันมาประมาณเกือบปีค่ะ แต่ก็ฝากทุกคนสนับสนุนน้องด้วยไม่ว่าเส้นทางในการทำงานของน้องต่อไปจะเป็นยังไง“
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook : https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews