"โรม" เย้ย "ทักษิณ" ใช้บารมีบั้นปลายชีวิต ประคอง "นายกฯอิ๊งค์-เพื่อไทย-ชินวัตร"
วันที่ 22 ก.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เตรียมเข้าร่วมดินเนอร์กับพรรคร่วมรัฐบาลวันนี้ ว่า คงไม่ดูแค่การดินเนอร์วันนี้ และสังคมไม่ได้รู้สึกว่า การที่น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯและรมว.วัฒนธรรม ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีไม่ได้แตกต่างอะไรเลยไม่ได้ทำให้สังคมอยู่ไม่ได้
จะมีน.ส.แพทองธารปฏิบัติหน้าที่เป็นนายก หรือไม่ ไม่ได้สร้างความแตกต่าง กลายเป็นว่าวันนี้นายทักษิณใช้จังหวะนี้ในการแสดงบทบาทนำของตัวเองมากขึ้น เรื่องดินเนอร์ทานข้าวก็เป็นดุลยพินิจของพรรคร่วมรัฐบาล แต่วันนี้หลายฉากที่เกิดขึ้นนายทักษิณแสดงบทบาทนำแล้วทำให้น.ส.แพทองธาร ถูกคิดถึงน้อยลง
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องจะเหมาะสมหรือไม่ก็ไปว่ากันในดุลยพินิจของแต่ละคน แต่วันนี้ตนคิดว่าเราควรจะมีนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ในเมื่อนายกรัฐมนตรีถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อก็คือปัญหาที่เกิดขึ้นต่าง ๆ มากมาย ควรจะได้รับการแก้ไขหรือไม่ ทั้งเรื่องคลิปเสียง ปัญหาชายแดนไทยกัมพูชา แม่น้ำกก มีความท้าทายอยู่ เราต้องยอมรับว่ามันไม่ได้รับการแก้ไข และต้องพูดกันว่าความชอบธรรมของนางสาวแพทองธาร และพรรคเพื่อไทยไม่มีเหลืออยู่แล้ว เหตุผลหนึ่งที่ทำให้นางสาวแพทองธารไม่ถูกคิดถึง ในฐานะนายกรัฐมนตรีอีกแล้ว เพราะขาดความชอบธรรมในการบริหารประเทศ
"ตอนนี้ต้องเอาผู้อาวุโสบั้นปลายชีวิต ที่ใช้บารมีสุดท้ายที่เคยสะสมมาตลอดเวลามาเผาเล่น โดยหวังว่าจะใช้บารมี ที่มีในช่วงสุดท้ายในการประคองพรรคเพื่อไทย ประคองตระกูลชินวัตร ประคองลูก วิธีคิดแบบนี้เป็นวิธีคิดที่ผิดประเทศของเราควรจะเดินหน้าได้เสียที และการจะเดินหน้าได้มันต้องหลุดพ้นจากการเมืองแบบนี้ได้แล้ว" นายรังสิมันต์ กล่าว
เมื่อถามว่ามองว่ารัฐบาลจะไปรอดถึงขั้นไหน นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนก็มีคำถามเหมือนกันเราอยู่ในจังหวะที่พรรคเพื่อไทยตั้งรัฐบาลง่อนแง่นมาก เป็นช่วงเวลาที่เราต้องยอมรับว่า ล่าสุดในสัปดาห์ที่แล้วในแง่ของเรื่ององค์ประชุมสภา พรรคร่วมรัฐบาลไม่สามารถประคองได้เลย พร้อมที่จะล่มตลอดเวลา ถ้าจังหวะไหนไม่เข้มแข็ง ไม่ได้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายแทบจะเป็นไปไม่ได้ ที่พรรคร่วมรัฐบาลจะมีความสามัคคีในการปกครองสภา ดังนั้นการผลักดันนโยบายต่าง ๆ ก็ยิ่งมีปัญหาต่อไป ไม่ใช่แค่นโยบายเรือธงที่ผลักดันไม่ได้ แม้แต่ในการเป็นรัฐบาลที่ดี ในแบบที่ควรจะเป็น ก็ไม่สามารถที่จะดำรงอยู่ได้