อัปเดต! สถานการณ์น้ำเขื่อนเจ้าพระยา ปรับระบายน้ำเพิ่มรับ"พายุวิภา"
(22ก.ค.68) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคกลาง ซึ่งพบว่าน้ำเหนือที่ไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดที่จุดวัดน้ำ C2 หน้าค่ายจิรประวัติ อ.เมืองนครสวรรค์ วัดได้ 1,268ลบ.ม./วิ ส่วนระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาทรงตัวขึ้นต่อเนื่อง วัดได้ 15.47ม.รทก.(เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง)
ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำขึ้นแบบขั้นบันได จาก 800ลบ.ม./วิ ขึ้นไปที่ 900ลบ.ม./วิ และอาจจะพิจารณาปรับเพิ่มเป็น1,000ลบ.ม.ในวันนี้เพื่อสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำเหนือเขื่อน รองรับมวลน้ำเหนือที่กำลังไหลบ่าลงสู่ภาคกลาง รวมทั้งฝนที่จะตกหนักจากอิทธิพลของพายุวิภา ระหว่างวันนี้ 23ก.ค.-24ก.ค.68 ตามประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยา ทั้งนี้เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ริมตลิ่งเหนือเขื่อน ในขณะที่ระดับน้ำท้ายเขื่อนล่าสุดยกตัวขึ้นอีก 50ซ.ม.ในรอบ24ชม.วัดได้ 10.75ม.รทก.
ทั้งนี้กรมชลประทานยังย้ำเตือน 11 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ อุทัยธานี , ชัยนาท , สิงห์บุรี , อ่างทอง , สุพรรณบุรี , พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี , ปทุมธานี , นนทบุรี , สมุทรปราการ และกรุงเทพมหานคร ให้เฝ้าระวังและเตรียมรับมือสถานการณ์อิทธิพลจากพายุวิภา โดยทางกรมชลประทานจะมีการปรับการระบายน้ำแบบขั้นบันได ขึ้นไปได้ถึงอัตรา 1,200ลบ.ม.ภายในสัปดาห์นี้
ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำท้ายเขื่อน ใน คลองโผงเผง อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง คลองบางบาล อ.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ระดับน้ำจะสูงขึ้นอีก 20 - 30 ซม. ใน 24 ชม.ข้างหน้า
ข่าวเวิร์คพอยท์23