รมว.เกษตรฯ ลุย 3 มาตรการเร่งด่วน ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ เกษตรกร
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2568 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยที่กระทรวงเกษตรฯ ถึงมาตรการเร่งด่วน 3 ข้อ เพื่อช่วยเหลือและยกระดับเกษตรกรไทย ซึ่งครอบคลุม 3 เป้าหมายสำคัญ ได้แก่ ลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และเสริมความเข้มแข็งให้เกษตรกร
มาตรการแรก คือ การลดต้นทุน เพิ่มรายได้ โดยจัดหาพันธุ์ดี สนับสนุนพันธุ์พืช ประมง และปศุสัตว์คุณภาพที่ตลาดต้องการ ไม่เน้นความหลากหลาย แต่เน้นคุณภาพที่เกษตรกรสามารถผลิตและขายได้ในราคาที่ดี พร้อมส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตร โดยกระทรวงเกษตรฯ จะกำกับดูแลในมิติของการแปรรูปขั้นต้น รวมถึงการบรรจุภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตร และบริหารจัดการด้านการตลาดสินค้าเกษตร โดยจะดูแลทั้งระบบตั้งแต่ข้อมูลการผลิต การส่งเสริมการผลิต การแปรรูป และการตลาด พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกษตรกรหาตลาดได้ด้วยตนเอง ขณะเดียวกันองค์การตลาดเพื่อเกษตรกรจะต้องปรับตัวเป็นตลาดรองรับผลผลิต
นายอรรถกร กล่าวว่า ที่ผ่านมาไทยมีการใช้พันธุ์พืชคุณภาพดี แต่เป็นพันธุ์ที่คุณภาพดีเมื่อ 30 ปี มาถึงวันนี้เกษตรกรยังต้องใช้พันธุ์ดีในอดีต มาถึงวันนี้ยังจะสนับสนุนให้เกษตรกรยังต้องใช้พันธุ์เดิมๆ อีกหรือ พันธุ์ถ้าเพาะขยายพันธุ์ไม่ทัน ให้ไปนำเข้า ถ้านำเข้าไม่ได้ กรมที่ดูแลพันธุ์ก็ต้องไปแก้กฏระเบียบเพื่อให้เกษตรกรมีพันธุ์พืชที่ทันสมัยใช้ เพื่อสามารถแข็งขันได้กับคู่แข็ง เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนเมล็ดพันธุ์ และผลผลิตต่อไร่ที่ต้องสามารถแข่งขันได้
มาตรการที่สอง คือ การเสริมความแข็งแกร่งให้เกษตรกรสามารถแข่งขันได้ ด้วยการสร้างโอกาสในการขยายระยะเวลาการชำระหนี้ของเกษตรกร และสร้างวินัยทางการเงินเพื่อบรรเทาภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น ควบคู่กับการสร้างโอกาสให้เกษตรกรมีเงินลงทุนทำการเกษตร รวมถึงสนับสนุนให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น
มาตรการที่สาม คือ การปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัยให้เป็นปัจจุบัน เพื่อลดขั้นตอนและกระบวนการที่เป็นอุปสรรค พร้อมป้องกันสินค้าเกษตรที่ทะลักเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทบทวนและปรับปรุงกฎหมายที่ใช้อยู่ พร้อมทั้งกำหนดแนวทางแก้ไขและไทม์ไลน์ที่ชัดเจนเพื่อผลักดันให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม
นายอรรถกร กล่าวเพิ่มเติมว่า นโยบายทั้งหมดนี้เป็นการสานต่อนโยบายเดิมของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อให้เกษตรกรลดต้นทุน มีรายได้ และมีเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งยืนยันว่าจะมีการติดตามความก้าวหน้าในทุกนโยบายอย่างต่อเนื่อง โดยต้องอาศัยความร่วมมืออย่างแข็งขันของทุกภาคส่วน และขอขอบคุณครอบครัวกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สำหรับความร่วมมือในการขับเคลื่อนภารกิจสำคัญนี้ต่อไป