Lamborghini Temerario ซูเพอร์คาร์ค่ายระทิงดุรุ่นล่าสุด 920 แรงม้า ราคาเริ่มต้นที่ 23,760,000 บาท !
Renazzo Motor ผู้จำหน่ายรถยนต์ Lamborghini (ลัมโบร์กินี) อย่างเป็นทางการรายเดียวในประเทศไทย เผยโฉม Temerario (เทเมราริโอ) ซูเพอร์คาร์พลัก-อิน ไฮบริดรุ่นล่าสุดจากแบรนด์ “กระทิงดุ” สัญชาติอิตาลี สุดยอดยนตรกรรมหนึ่งเดียวที่มาพร้อมขุมพลังไฮบริด V8 ทวินเทอร์โบใหม่ล่าสุด ผสานการทำงานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว มอบสมรรถนะการเร่งรอบเครื่องยนต์ได้สูงสุดถึง 10,000 รตน.
Temerario โดดเด่นอย่างเหนือชั้นในฐานะยนตรกรรมรุ่นที่สองในกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูง (High Performance Electrified Vehicle: HPEV) ของ Lamborghini ต่อยอดความสำเร็จจากรุ่นแห่งประวัติศาสตร์อย่าง Revuelto (เรเวลโต) ซึ่งมาพร้อมเครื่องยนต์ V12 แบบไร้ระบบอัดอากาศ ผสานกับชุดเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ และมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ในขณะที่ Temerario ได้เปิดศักราชใหม่ด้วยขุมพลังพลัก-อินไฮบริด V8 ทวินเทอร์โบสุดล้ำสมัย ถือเป็นการเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฮบริดของ Lamborghini อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากการเปิดตัว Urus SE (อูรุส เอสอี) ซูเปอร์เอสยูวี พลัก-อิน ไฮบริด รุ่นแรกของแบรนด์เมื่อปีที่ผ่านมา
ขุมพลังไฟฟ้าที่ปลุกสัมผัสการขับขี่เหนือระดับ
Lamborghini Temerario มาพร้อมขุมพลังใหม่ล่าสุด ด้วยเครื่องยนต์ V8 ทวินเทอร์โบ ขนาด 4.0 ลิตร ที่สามารถเร่งรอบเครื่องยนต์ได้สูงสุดถึง 10,000 รตน. ซึ่งนับเป็นรอบเครื่องยนต์สูงสุดสำหรับรถซูเพอร์คาร์ที่ผลิตออกจำหน่ายจริง ให้กำลังสูงสุด 800 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 730 นิวทันเมตร/74.5 กก.ม. ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว โดยติดตั้งที่เพลาหน้า 2 ตัว และในชุดเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 8 จังหวะ อีก 1 ตัว มอบกำลังรวมสูงสุดถึง 920 แรงม้า พร้อมแรงบิดที่ตอบสนองทันที การยึดเกาะถนนที่เหนือกว่า และประสบการณ์การขับขี่ที่ไร้คู่แข่ง ที่ยังคงไว้ซึ่งดีเอนเอของ Lamborghini อย่างชัดเจน
สมรรถนะอันโดดเด่นนี้เกิดขึ้นจากการผสานเทคโนโลยีไฮบริดอย่างเต็มรูปแบบ โดย Temerario สามารถทำอัตราเร่งจาก 0–100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 2.7 วินาที และจาก 0–200 กม./ชม. ภายใน 7.4 วินาที ความเร็วสูงสุดที่ 343 กม./ชม. ขณะเดียวกัน มอเตอร์ไฟฟ้าบนเพลาหน้ายังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขับเคลื่อน และทำให้ Temerario สามารถขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100 % ได้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมีส่วนช่วยลดการปล่อยไอเสีย ได้สูงสุดถึง 50 % เมื่อเทียบกับรุ่น Huracán (อูรากัน)
ดีไซจ์นที่เสริมสมรรถนะเหนือระดับ
Lamborghini Temerario ได้รับการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์เพื่อให้บรรลุประสิทธิภาพการขับขี่สูงสุด โดยมุ่งเน้น 3 เป้าหมายหลัก ได้แก่ เสถียรภาพที่ระดับความเร็วสูง การระบายความร้อนที่ดีขึ้น และประสิทธิภาพการเบรกขั้นสูงสุด ทุกองค์ประกอบได้รับการรังสรรค์ขึ้นอย่างแม่นยำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลเวียนของอากาศ อาทิ ดวงไฟ DRL ทรง 6 เหลี่ยมด้านหน้าที่มาพร้อมแผงปรับทางลม และช่องรับลม ไปจนถึงอุปกรณ์สร้างการหมุนเวียนของลมใต้ท้องรถ ล้วนส่งผลให้แรงกดด้านท้ายเพิ่มขึ้นถึง 103 % เมื่อเทียบกับรถรุ่น Huracán EVO (อูรากัน อีโว) และสามารถเพิ่มได้สูงสุดถึง 158 % เมื่อติดตั้งชุดวัสดุ Alleggerita Pack อีกทั้ง ช่องกลางหลังคาที่เชื่อมต่อกับสปอยเลอร์หลังยังช่วยเสริมประสิทธิภาพการไหลของอากาศ ในขณะที่ขอบฝากระโปรงเครื่องยนต์ด้านข้างที่มีดีไซจ์นโค้งมนช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น นอกจากนี้ แนวคิดใหม่ในการระบายความร้อนระบบเบรคยังเข้ามาช่วยยกระดับสมรรถนะโดยรวม ด้วยการระบายความร้อนที่คาลิเพอร์เพิ่มขึ้นถึง 50 % และระบายความร้อนจานเบรกได้ดีขึ้นถึง 20 % เมื่อเทียบกับรุ่น Huracán EVO แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียดเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดอย่างแท้จริง
ห้องโดยสารภายใน ‘Feel like a pilot’
การออกแบบห้องโดยสารภายในของ Temerario สะท้อนแนวคิด ‘Feel like a pilot’ (ความรู้สึกเสมือนเป็นนักบิน) ของ Lamborghiniได้อย่างชัดเจน ผ่านตำแหน่งเบาะนั่งที่ต่ำ แดชบอร์ดดีไซจ์นเพรียวบาง และพวงมาลัยที่เอียงในองศาที่สมบูรณ์แบบ ทำให้ผู้ขับขี่เข้าถึงสไตล์การขับขี่ได้อย่างเต็มที่ เบาะนั่งสปอร์ทปรับไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่มอบความสบายสูงสุด หรือสามารถเลือกเบาะนั่งแบบคาร์บอนไฟเบอร์ที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ และปรับแต่งได้หลากหลาย ทั้งระบบทำความร้อน การระบายอากาศ และสีสันที่แตกต่างกัน
ภายในห้องโดยสารสะท้อนดีไซจ์นภายนอกอันโดดเด่น โดยผสมผสานประสบการณ์ดิจิทอลเข้ากับประสาทสัมผัสได้อย่างลงตัว โดย Lamborghini เลือกใช้วัสดุคุณภาพสูงสุด อาทิ คาร์บอนไฟเบอร์ หนัง และไมโครไฟเบอร์ Dinamica® Corsatex Suede ทั่วทั้งห้องโดยสาร พร้อมกันนี้ องค์ประกอบการตกแต่งภายใน เช่น คอนโซลกลาง ช่องระบายอากาศ แผงประตู แดชบอร์ด พวงมาลัย และคอพวงมาลัย ยังมีให้เลือกใช้วัสดุคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบาเป็นออพชันเสริมอีกด้วย
นอกจากนี้ ห้องโดยสารของ Temerario ยังสะท้อนประสบการณ์ดิจิทอลที่ล้ำสมัยที่สุดของ Lamborghini ด้วยการจัดวางจอแสดงผล 3 หน้าจอ ได้แก่ แดชบอร์ดดิจิทอลขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอสัมผัสกลางขนาด 8.4 นิ้ว และหน้าจอสำหรับผู้โดยสารขนาด 9.1 นิ้ว ที่แสดงข้อมูลรถแบบเรียลไทม์ พร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ และฟังค์ชันเสริมประสบการณ์ร่วมขับเสมือนเป็นผู้ช่วยนักบิน ผู้ขับสามารถเข้าถึงกล้องติดรถ ธีมอินเทอร์เฟศที่เปลี่ยนตามโหมดการขับขี่ และฟังค์ชันขั้นสูงอย่าง Telemetry 2.0 ได้อย่างสะดวกรวดเร็วผ่านทั้งแดชบอร์ดโฉมใหม่ และบริเวณเบาะที่นั่ง ตามปรัชญา “Feel like a pilot” อย่างแท้จริง ช่องระบายอากาศทรง 6 เหลี่ยมอันเป็นเอกลักษณ์ และคอนโซลกลางช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด พวงมาลัยติดตั้งปุ่มควบคุมโหมดการขับ ฟังค์ชันยกตัวรถ ปุ่ม “Race Start” ไฟเลี้ยว และ Launch Control เพื่อมอบสมาธิสูงสุดในทุกการขับขี่
สุดยอดประสบการณ์การขับขี่ที่ควบคุมได้ดั่งใจ
Lamborghini Temerario มอบประสบการณ์การขับขี่ที่หลากหลายถึง 13 รูปแบบ ตอบโจทย์ทั้งการใช้งานในชีวิตประจำวัน และความเร้าใจบนสนามแข่ง ด้วยความสามารถรอบด้านของซูเพอร์สปอร์ทคาร์คันนี้ ผู้ขับสามารถเลือกโหมดการขับขี่แบบไดนามิคผ่านระบบ ANIMA (Adaptive Network Intelligent Management) ของlamborghiniได้ 5 โหมดหลัก ได้แก่ Città, Strada, Sport, Corsa และ Corsa Plus แต่ละโหมดจะปรับการส่งกำลัง ระบบช่วงล่าง อากาศพลศาสตร์ และประสิทธิภาพของระบบไฮบริดให้เหมาะสมกับทุกสภาพการขับขี่ ตั้งแต่การขับขี่ในเมืองไปจนถึงการเร่งเต็มพิกัดบนสนามแข่ง
นอกจากนี้ ยังมีโหมดจัดการพลังงานไฮบริดอีก 3 โหมด ได้แก่ Recharge, Hybrid และ Performance ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และการชาร์จไฟจากแรงเบรค เสริมด้วยโหมดใหม่ล่าสุดอย่าง Drift Mode ที่สามารถควบคุมและปรับแรงบิดได้ 3 ระดับ ช่วยให้การควบคุมการหักเลี้ยวแบบโอเวอร์สเตียร์เป็นไปได้อย่างแม่นยำ มอบประสบการณ์ที่ทั้งเร้าใจและควบคุมได้อย่างมั่นใจ
การปรับแต่งที่ไร้ขีดจำกัด
Temerario เปิดตัวด้วยสองสีพิเศษใหม่ ได้แก่ สีฟ้า Blu Marinus และสีเขียว Verde Mercurius พร้อมมอบอิสระให้ลูกค้าปรับแต่งรถเพื่อสะท้อนตัวตนได้อย่างไม่รู้จบผ่านโปรแกรม Ad Personam ของ Lamborghini ที่นำเสนอสีตัวถังกว่า 400 เฉด รวมถึงลวดลายพิเศษ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมล้อแมกรุ่นใหม่ถึง 3 ดีไซจ์น และวัสดุที่แตกต่างกัน พร้อมออปชันคาร์บอนไฟเบอร์สำหรับตกแต่งทั้งภายในและภายนอกหลากหลายชิ้นส่วน ไม่ว่าจะต้องการสื่อถึงความสปอร์ต ความหรูหรา หรือทั้งสองอย่างในแบบเฉพาะตัว ทุกการคัสตอม คือ ภาพสะท้อนบุคลิกและไลฟ์สไตล์ของเจ้าของอย่างแท้จริง
ยางรถ
ในฐานะพันธมิตรอันยาวนานของ Lamborghini ผู้ผลิตยางรถยนต์แต่เพียงผู้เดียวสำหรับ Temerario นั่นคือ Bridgestone ได้พัฒนาไลน์อัพยางครบวงจรเพื่อดึงสมรรถนะสูงสุดของซูเพอร์คาร์คันนี้ ทั้งใน และนอกสนามแข่งตลอดทั้งปี พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้ขับขี่ ทาง Bridgestone จึงเลือกใช้ยางสมรรถนะสูงระดับไอคอนจากตระกูล Potenza โดยนำเสนอยางรุ่น Potenza Sport และ Potenza Race ที่ออกแบบขึ้นเฉพาะสำหรับ Temerario เพื่อการขับขี่บนถนนและในสนามแข่งขัน ยาง Potenza Sport รุ่นพิเศษนี้มาพร้อมลายดอกยางที่ออกแบบมาเพื่อเสริมประสิทธิภาพการควบคุมบนถนนแห้ง การยึดเกาะบนถนนเปียก และสมรรถนะในความเร็วสูง ยกระดับความเร้าใจในการขับขี่สไตล์สปอร์ทให้ถึงขีดสุด
ขุมพลัง
เครื่องยนต์: แบบ V8 Bi-Turbo ความจุ 4.0 ลิตร
ความจุ: 3,995 ซีซี
กระบอกสูบ และช่วงชัก: 90 มม. x 78.5 มม.
อัตราส่วนกำลังอัด: 1:9.3
เครื่องยนต์ กำลังสูงสุด: 800 แรงม้า ที่ 9,000-9,750 รตน.
เครื่องยนต์ แรงบิดสูงสุด: 730 นิวทันเมตร/74.5 กก.ม. ที่ 4,000-7,000 รตน.
กำลังสูงสุดทั้งระบบ (เครื่องยนต์+มอเตอร์ไฟฟ้า): 920 แรงม้า
ระบบระบายความร้อน: ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมระบายความร้อนระบบไฮบริด
ชุดควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์: หน่วยประมวลผลกลางโดยบริษัท Bosch
อ่างน้ำมันเครื่องยนต์: แบบแห้ง
ระบบส่งกำลัง
ระบบส่งกำลัง: อัตโนมัติ
ระบบเกียร์: แบบ 8 จังหวะ
ชุดคลัทช์: คลัทช์ไฟฟ้าคู่
ระบบไฟฟ้า
ชุดแบทเตอรี: ลิเธียม-ไอออน บรรจุแยกเป็นชุดเซลล์
ชุดสร้างกระแสไฟฟ้า: มอเตอร์ไฟฟ้า
มอเตอร์ไฟฟ้า: ติดตั้งด้านหน้า (กำลังสูงสุด 220 กิโลวัตต์/295 แรงม้า ที่ 3,500 รตน.)
สมรรถนะ
ความเร็วสูงสุด: 343 กม./ชม.
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.: 2.7 วินาที
ระยะเบรคที่ 100-0 กม./ชม.: 32 ม.
ตัวถัง และโครงสร้างของตัวรถ
โครงสร้างตัวถัง: ใช้วัสดุอลูมิเนียม
ตัวถัง: ใช้วัสดุอลูมิเนียม
ยาง
ยางคู่หน้า: Bridgestone Potenza Sport 255/35 ZR20
ยางคู่หลัง: Bridgestone Potenza Sport 325/30 ZR21
ขนาดล้อแมกคู่หน้า: 20 นิ้ว x 9J
ขนาดล้อแมกคู่หลัง: 21 นิ้ว x 11.5J
ระบบเบรค
ชุดเบรค: แบบ คาร์บอนเซรามิค พลัส (Carbon Ceramic Brakes Plus) คาลิเพอร์เบรควัสดุอลูมิเนียมแบบ Monoblock 10 จุดยึด ด้านหน้า และ 4 จุดยึด ด้านหลัง
ขนาดจานเบรคคู่หน้า: 410x38 มม.
ขนาดจานเบรคคู่หลัง: 390x32 มม.
มิติตัวถัง
ระยะฐานล้อ: 2,658 มม.
ความยาว: 4,706 มม.
ความกว้าง (ไม่รวมกระจกมองข้าง): 1,996 มม.
ความกว้าง (รวมกระจกมองข้าง): 2,246 มม.
ความสูง: 1,201 มม.
น้ำหนักโดยรวม: 1,690 กก.
อัตราส่วนน้ำหนักต่อแรงม้า: 1.84 กก./แรงม้า
ร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษจากซูเพอร์คาร์รุ่นใหม่ล่าสุดได้ที่ Lamborghini กรุงเทพฯ โชว์รูม และศูนย์บริการครบวงจรขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิค ถนนวิภาวดีรังสิต สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2512-5111