แรงมาก! "ฮุน เซน" ลั่น ไม่ได้ติดหนี้บุญคุณประเทศไทย แต่ประเทศไทยต่างหากที่ติดหนี้บุญคุณผม
แรงมาก! "ฮุน เซน" ลั่น ไม่ได้ติดหนี้บุญคุณประเทศไทย แต่ประเทศไทยต่างหากที่ติดหนี้บุญคุณผม โดยเฉพาะ ครอบครัว "ชินวัตร" พร้อมขู่แฉข้อมูลลับ–ดูหมิ่นเบื้องสูง หากยังเล่นเกมการเมืองใส่กัมพูชา
วันที่ 27 มิ.ย. 2568 สมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ระบุว่า ตนไม่ได้ติดหนี้บุญคุณประเทศไทยแม้แต่น้อย ในทางกลับกัน ประเทศไทยต่างหากที่เป็นฝ่ายติดหนี้เขา จากกรณีที่เขาเคยให้ที่พักพิงแก่ครอบครัวทักษิณ หลังพวกเขาหลบหนีออกจากประเทศภายหลังการรัฐประหารที่ปลดพวกเขาออกจากอำนาจ
“คุณต้องเข้าใจว่ากัมพูชาไม่ได้โง่ เรารู้เรื่องการเมืองของคุณดี พรุ่งนี้ผมจะอธิบายทุกอย่าง แม้แต่ตอนที่คุณวางแผนปลดอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย คุณยังมาบอกผมเอง ถ้าคุณทรยศประชาชนของตัวเองได้ แล้วจะไม่กล้าทรยศผมหรือ? แน่นอน คุณต้องกล้าอยู่แล้ว” สมเด็จเตโชกล่าวเน้น
“ผมเตือนคุณแล้ว ถ้าคุณปลดเขา ระวังไว้ให้ดี เขาอาจหันมาเล่นงานคุณ คอยดูผลที่จะตามมาให้ดี” สมเด็จฮุนเซนกล่าวอีกว่า “ถ้าคุณทำอะไรโดยไม่คิด ผมพร้อมเปิดเผยทุกอย่างที่คุณเคยบอกผม รวมถึงคำดูหมิ่นสถาบันกษัตริย์ของคุณเอง”
เขายังกล่าวอีกว่า “และสำหรับลูกสาวของคุณ ดูแลให้ดี คุณมีลูกเป็นนายกฯ ผมก็มีเหมือนกัน แต่จงอย่าเข้าใจผิดว่าฮุน เซนคือคนอื่น ผมไม่ติดหนี้ใครในประเทศไทย เรื่องของรัฐก็ส่วนรัฐ แต่ในฐานะส่วนตัว ผมไม่ติดหนี้ใครเลย ตรงกันข้าม กลุ่มของคุณต่างหากที่ติดหนี้ผม ผมไม่ผูกพันด้วยบุญคุณ แต่ผมต้องการความสัมพันธ์ที่เท่าเทียม เคารพซึ่งกันและกัน ไม่มีการรุกราน ไม่มีการแทรกแซง เท่านั้นพอ”
ในขณะเดียวกัน สมเด็จเตโชยังประกาศว่า เมื่อคำแถลงของเขาถูกเผยแพร่ออกไป เขาจะรอดูปฏิกิริยาของกรุงเทพฯ หากจำเป็น เขาพร้อมจะใช้เวลาสี่ถึงห้าชั่วโมงเปิดเผยข้อมูลละเอียดอ่อนเกี่ยวกับนายกรัฐมนตรีไทย รวมถึงถ้อยคำที่ดูหมิ่นสถาบันกษัตริย์ไทย
เขายังเปิดเผยอีกว่า ครอบครัวทักษิณเคยพักอาศัยอยู่ในบ้านของเขาหลังเหตุการณ์รัฐประหารในปี 2549 และ 2557 และได้มีการพูดคุยส่วนตัวกันหลายเรื่อง
มีรายงานว่า อดีตนายกรัฐมนตรีไทย ทักษิณ ชินวัตร และยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เคยพำนักอยู่ที่บ้านของสมเด็จฮุน เซน ภายหลังการรัฐประหารที่โค่นอำนาจทั้งสองลงในปี 2549 และ 2557 ตามลำดับ
(อ้างอิง: Fresh News, Khmer Times)