ผบช.ไซเบอร์ เผยยังไม่มีข้อมูล 7 นักการเมือง ใกล้ชิด รบ. เอี่ยวพนันออนไลน์
"พล.ต.ท.ไตรรงค์" เผยยังไม่มีข้อมูล กรณี "วิโรจน์" อ้างข้อมูล 7 นักการเมือง ใกล้ชิดรัฐบาลเอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ฟอกเงินในกัมพูชา ย้ำถ้ามีหลักฐานชัดพร้อมดำเนินการตามกฎหมาย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. 68 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เผยถึงกรณีที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน ที่โพสต์ข้อความมี 7 นักการเมืองใกล้ชิดรัฐบาลไปเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ การฟอกเงินในประเทศกัมพูชา ว่าในกรณีดังกล่าวหากตำรวจไซเบอร์ มีหลักฐานที่ชัดเจนทางเจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายทุกอย่าง
ซึ่งการที่เจ้าหน้าที่จะมีข้อมูลในส่วนตรงนี้ แบ่งได้ออกเป็น 2 ประเภท คือ 1. รู้จากการสืบสวนสอบสวนหรือได้ข้อมูลจากสายข่าวที่ไม่ประสงค์ออกนามหรือออกนาม 2. การที่มีหลักฐานที่นำเข้าไปประกอบในสำนวนก่อนส่งอัยการนั้น จะต้องมีหลักฐานที่มีข้อเท็จจริง ดังนั้นรายชื่อที่นายวิโรจน์ พูดว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์รู้แล้วว่าเป็นใคร แต่ก็ยังไม่ทราบว่าพูดถึงบุคคลใด และไม่รู้ว่ามีนักการเมืองท่านใดเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีคดี สจ.กอล์ฟ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ที่อยู่ประเทศกัมพูชา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เองก็ต้องมีข้อมูลอยู่แล้ว เพราะเป็นคนดำเนินคดี
เมื่อถามว่าส่วนกรณีที่ สมเด็จ ฮุนเซน ผู้รับผิดชอบสูงสุดในการส่งกำลังบำรุง (logistics) ถึงแนวหน้า เผยว่าประเทศไทยเป็นแหล่งสแกมเซ็นเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในการสร้างปัญหา ผบช.ไซเบอร์ กล่าวว่า จากสถิติของสากลโลก ตรงกับข้อมูลสถิติของประเทศว่า แหล่งสแกมเซ็นเตอร์ 80% อยู่ที่ประเทศกัมพูชา และอีก 20% อยู่ที่ประเทศเมียนมา รวมไปถึงสถิติการร้องเรียนที่ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายจำนวนมาก ซึ่งการที่สมเด็จ ฮุนเซนออกมาเผยแพร่แบบนี้ จะต้องเข้าไปดูว่าเราก็สามารถดำเนินคดีอะไรได้บ้าง เนื่องจากเป็นการกล่าวหาและให้ข้อมูลเท็จผ่านทางโซเชียล
ส่วนมาตรการที่ทางรัฐบาลไทยได้ดำเนินการในทุกวิถีทางทั้งตัดไฟ อินเทอร์เน็ต และน้ำมันนั้น ทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้รับผลกระทบประมาณ 30% นั้น ทำให้ใช้ปรับวิธีการถ่ายโอนเงินจากระบบออนไลน์กลับมาใช้รูปแบบเดิม โดยใช้บัญชีม้ากดเงินในประเทศไทยก่อนนำส่งไปยังคนกลางและส่งไปให้ตัวการใหญ่ของแก๊งจีนเทา
เนื่องจากมาตรการของไทยที่ปรับมารับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้นสร้างความลำบากให้กับพวกนี้เป็นอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงมาตรการในครั้งนี้ เห็นผลได้อย่างชัดเจน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมขบวนการเหล่านี้ได้มากขึ้น ทำให้สามารถนำทรัพย์สินกลับมาคืนสู่ประชาชนได้ไม่มากก็น้อย
เมื่อถามต่ออีกว่า ในกรณีตึก 18 ชั้น และ 25 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ผบช.ไซเบอร์ กล่าวว่า ตอนนี้มีความคืบหน้าไปมาก ซึ่งทางตำรวจไซเบอร์ได้พยายามรวบรวมข้อมูลหลักฐานทั้งหมดเท่าที่ทำได้ และบูรณาการร่วมกับจเรตำรวจแห่งชาติ ในการกำชับให้ตำรวจในพื้นที่ช่วยเป็นหูเป็นตา จนรู้ว่าแก๊งสแกมเซ็นเตอร์มีอยู่รอบประเทศเราและอยู่ตรงไหนบ้าง ตำรวจไซเบอร์ก็พยายามเจาะข้อมูลต่างๆ เพื่อสืบทราบหาบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมไปถึงทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath