“คลิปฮุน เซน” พลิกกระดานการเมือง “ลุงตู่” คือคำตอบสุดท้าย?
การเมืองไทยใน พ.ศ. 2568 เข้าสู่ยุคที่ไม่อาจวิเคราะห์ได้ด้วยตรรกะเดิมอีกต่อไป โดยเฉพาะหลังเกิดกรณี“คลิปเสียงเจรจาลับ” ระหว่างน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา และประธานวุฒิสภากัมพูชา กลายเป็นชนวนเขย่าบัลลังก์รัฐบาลเพื่อไทยอย่างรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งหลังการเลือกตั้ง
แม้น.ส.แพทองธารจะยืนยันความบริสุทธิ์ใจ แต่ความเสียหายทางการเมืองได้ลุกลามเกินจุดควบคุม เสียงเรียกร้องให้ลาออก ยุบสภา หรือกระทั่งตั้งรัฐบาลแห่งชาติดังขึ้นเรื่อย ๆ ท่ามกลางบรรยากาศทางการเมืองที่ไร้เสถียรภาพ จึงมีคำถามตามมาว่า ใครคือผู้มีศักยภาพ “เข้ามาแทน” หากน.ส.แพทองธารต้องหลีกทางออกไป
และชื่อของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งอย่างน่าจับตา
สถานการณ์รัฐบาล: วิกฤตเกินจะประคอง?
เสียงสะท้อนจากหลายฝ่ายชัดเจนว่า “รัฐบาลเพื่อไทย” ภายใต้การนำของน.ส.แพทองธารกำลังสูญเสียความเชื่อมั่นอย่างหนักทั้งจากประชาชน กลุ่มทุนบางกลุ่ม และแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาลเอง สถานการณ์ที่คุมยากยิ่งขึ้นเมื่อมีรายงานข่าวว่า ส.ว. จำนวนหนึ่งกำลังรวบรวมรายชื่อเพื่อยื่น ถอดถอนนายกรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 วรรคสอง และมาตรา 164 ประกอบมาตรา 170
ด้านประชาชนก็กำลังเคลื่อนไหวอย่างกว้างขวางผ่านโซเชียลมีเดีย และมีการนัดชุมนุมบนท้องถนน หลังรัฐบาลยังเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้อง ถึงน.ส.แพทองธารจะพยายามแถลงโต้ว่า “ไม่ได้ทำให้ประเทศเสียอะไร” แต่ภาพที่สะท้อนในสายตาสังคมคือ “การสื่อสารล้มเหลว-ศูนย์กลางอำนาจสั่นคลอน”
หากสถานการณ์ลากยาวโดยไม่มีทางออกที่สง่างาม การ ลาออกของนายกรัฐมนตรี จึงกลายเป็นทางเลือกที่หลีกเลี่ยง
รื้อฟื้นความสัมพันธ์ฮุนเซน-ประยุทธ์
ในขณะที่กระแสโจมตีน.ส.แพทองธารยังโหมกระหน่ำ โลกออนไลน์ได้รื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่าง สมเด็จฮุน เซน กับ พล.อ.ประยุทธ์ ว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีในฐานะผู้นำประเทศเพื่อนบ้าน
ย้อนดูอดีตช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ยังเป็นนายกรัฐมนตรี เคยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากสมเด็จฮุน เซน หลายครั้ง ทั้งในเวทีประชุมอาเซียน การเยือนอย่างเป็นทางการ และการเจรจาระดับทวิภาคี โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลสมเด็จฮุน เซนเผชิญแรงกดดันจากโลกตะวันตก
กระทั่งในวันที่ พล.อ.ประยุทธ์ล้างมือจากการเมืองหลังเลือกตั้งปี 2566 สมเด็จฮุน เซน ยังคงแสดงทัศนะถึงพลเอกประยุทธ์ในเชิงบวก และมีการตอกย้ำอีกครั้งหลังเกิดเหตุการณ์ปล่อยคลิปเสียงสมเด็จฮุน เซน คุยโทรศัพท์กับนายกฯแพทองธาร
พลังเงียบเริ่มขยับ
หลังการเกษียณจากการเมืองอย่างเป็นทางการ พล.อ.ประยุทธ์ได้กลายเป็นบุคคลที่สังคมเชื่อว่า “หมดบทบาท” แต่หากสังเกตให้ดีจะพบว่า อดีตแกนนำ คสช. และกลุ่ม ส.ว. ที่เคยสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ยังคงเคลื่อนไหวอย่างมีระบบ โดยเฉพาะในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานว่าอดีต ส.ว. และอดีตที่ปรึกษาคณะรัฐมนตรีของบิ๊กตู่ ได้เริ่มออกมาให้สัมภาษณ์แสดงความไม่เห็นด้วยกับหลายๆ การดำเนินการของรัฐบาลเพื่อไทย
ด้านพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่เดิมเป็นฐานอำนาจของพล.อ.ประยุทธ์ก็ยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ แม้จะไม่โดดเด่น แต่ก็ได้รับแรงสนับสนุนจากบางกลุ่มทุนและภาคธุรกิจที่มองว่า “เพื่อไทยไม่สามารถบริหารความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
ในขณะที่เครือข่ายทหารเก่า อดีตข้าราชการ และผู้นำชุมชนท้องถิ่นก็เริ่มกลับมาเคลื่อนไหวบนโลกออนไลน์ เพื่อสนับสนุนการ “คืนสนาม” ของ พล.อ.ประยุทธ์
พล.อ.ประยุทธ์จะกลับมาได้อย่างไร?
แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จะประกาศ “ล้างมือทางการเมือง” แต่ยังคงมีสถานะเป็น แคนดิเดต นายกฯจากพรรครวมไทยสร้างชาติ
สมมุติฐานสำคัญคือ หากน.ส.แพทองธารลาออกหรือถูกปลดจากตำแหน่ง แล้วเกิดรัฐบาลใหม่ขึ้นมาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ โดยไม่ยุบสภาในทันที พล.อ.ประยุทธ์ อาจถูกเสนอชื่อโดยกลุ่ม ส.ว. และ ส.ส. ฝ่ายขวา-อนุรักษ์นิยมจากพรรครวมไทยสร้างชาติ, ภูมิใจไทย, พลังประชารัฐ และบางส่วนในเพื่อไทยที่เริ่มแตกแถว
ถึงจะมีเสียงต่อต้านจากฝ่ายก้าวหน้า แต่ในสถานการณ์ “บ้านเมืองวุ่นวาย-ไร้ผู้นำที่เป็นที่ยอมรับ” การเสนอชื่อผู้นำที่มีประสบการณ์อย่างพล.อ.ประยุทธ์ก็อาจได้รับการสนับสนุนอย่างน่าประหลาดใจ
ข้อได้เปรียบของพล.อ.ประยุทธ์
1. ประสบการณ์สูง – แม้เคยถูกวิจารณ์เรื่องเผด็จการและไม่ฟังเสียงประชาชน แต่พล.อ.ประยุทธ์มีประสบการณ์บริหารประเทศยาวนานกว่า 9 ปี มีเครือข่ายทั้งราชการ, ทหาร, ตำรวจ, กลุ่มทุน และกลุ่มประเทศอาเซียนรองรับ
2. มีภาพลักษณ์คนกลางในสถานการณ์ใหม่ – ยิ่งพรรคการเมืองแตกแยกมากเท่าไร คนที่ “เหมือนไม่อยู่ในขั้วไหน” ยิ่งมีคะแนนนิยมสูงขึ้น แม้จะเป็นคนที่สังคมเคยเบื่อในอดีต
3. แรงหนุนจากต่างประเทศบางกลุ่ม – โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่ต้องการรัฐบาลไทยที่ “ไม่พลิกเกมแรง” เพื่อรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค
4. ภาพของผู้นำที่กล้าเด็ดขาด – ท่ามกลางความล้มเหลวของการบริหารของน.ส.แพทองธาร ภาพของพล.อ.ประยุทธ์ดู “น่าไว้ใจ” มากกว่า
อุปสรรคและแรงต้านที่ไม่อาจมองข้าม
กระนั้น ถึงจะมีแรงสนับสนุน แต่การคืนสู่ตำแหน่งนายกฯ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังมีโอกาสเผชิญแรงต้านอย่างหนักจากคนจำนวนหนึ่งที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มประชาธิปไตย และพรรคประชาชน รวมถึงบางส่วนจากเครือข่ายภาคประชาชน และองค์กรสิทธิมนุษยชน
ประวัติการบริหารงานที่ผ่านมาอาจถูกขุดคุ้ยซ้ำ ตลอดจนระบบรัฐสภาอาจไม่ยอมรับง่าย ๆ หากไม่มี “วิกฤตระดับชาติ” เป็นเงื่อนไขกำกับ
จากคลิปเสียงสู่ยุทธการคืนสนาม
คลิปเสียงสนทนา “แพทองธาร-ฮุน เซน”ไม่เพียงเขย่ารัฐบาลเพื่อไทย แต่ยังเปิดฉาก เกมเปลี่ยนขั้วที่รุนแรงที่สุดในรอบหลายปี และอาจผลักดันให้พล.อ.ประยุทธ์ กลับมานำประเทศอีกครั้ง
คำถามคือ… “เมื่อฮุน เซนเบือนหน้าหนีจากทักษิณ-แพทองธาร แล้วหันกลับมาแสดงความชื่นชมพล.อ.ประยุทธ์ บทบาททางการเมืองไทยจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน?”
ถ้าเกมนี้เดินตามหมากที่หลายฝ่ายกำลังปูทางไว้ ชื่อของ พล.อ.ประยุทธ์ อาจไม่ใช่แค่ “อดีตนายกฯ” อีกต่อไป แต่จะเป็น “ตัวจริงในเกมสุดท้าย” ของการช่วงชิงอำนาจแห่งรัฐ
#ฮุนเซนแพทองธาร #ประยุทธ์คืนสนาม #คลิปเสียงฮุนเซน #รัฐพันลึก #วิเคราะห์การเมือง #บัลลังก์การเมือง #รัฐบาลเฉพาะกิจ #ข่าวการเมืองไทย