สรุปวิสัยทัศน์ของแซม อัลแมน เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ AI และเป้าหมายสำคัญ AGI
แซม อัลท์แมน (Sam Altman) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ OpenAI ได้นำเสนอภาพวิสัยทัศน์อนาคตเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ AI เอาไว้อย่างน่าสนใจ โดยเขาไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของเทคโนโลยี แต่เป็นการปฏิวัติวิธีที่มนุษย์ทำงาน สร้างสรรค์ และมีปฏิสัมพันธ์กับโลกรอบตัว
บทสัมภาษณ์เกิดขึ้นบนเวทีที่จัดขึ้นโดย Y Combinator โครงการบ่มเพาะและกองทุนเพื่อการลงทุนในสตาร์ทอัพ (Startup Accelerator & Venture Capital) ที่มีชื่อเสียงและทรงอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา
โดยเขาได้นำเสนอภาพอนาคตที่ชัดเจนและน่าทึ่ง ซึ่งขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป (Artificial General Intelligence หรือ AGI) จากบทสัมภาษณ์ล่าสุดของเขา อาจทำให้เราสามารถสรุปแก่นความคิดที่กำลังจะกำหนดทิศทางของสังคมในทศวรรษหน้าได้
จุดเริ่มต้นที่ "บ้าคลั่ง" และเป้าหมายสูงสุด AGI
เมื่อสิบปีก่อน การก่อตั้ง OpenAI โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง AGI นั้นเป็นแนวคิดที่คนส่วนใหญ่มองว่า "บ้าคลั่ง" Altman ยอมรับว่า "99% ของโลกคิดว่าเราบ้า" แต่ใน 1% ที่เหลือ คือกลุ่มคนที่มีความสามารถและมองเห็นความเป็นไปได้ พวกเขามารวมตัวกันที่ OpenAI เพราะไม่มีที่อื่นให้ไป
ในช่วงแรก การสร้างสิ่งที่ซับซ้อนอย่าง ChatGPT ยังดูเหมือนเป็น "นิยายวิทยาศาสตร์" ทีมงานเริ่มต้นจาก "แปดคนในห้อง" โดยไม่มีแผนผลิตภัณฑ์หรือรายได้ที่ชัดเจน แต่ด้วยพลังของการเลือกทำในสิ่งที่คนอื่นไม่ทำ (The power of "doing what others don't do") OpenAI สามารถดึงดูดบุคลากรชั้นนำและสร้างแรงผลักดันจากภารกิจที่ยิ่งใหญ่ได้
สำหรับ AGI (Artificial General Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป เป็นเป้าหมายสูงสุดของการวิจัยพัฒนา AI แตกต่างจากปัญญาประดิษฐ์ AI ที่เราใช้งานอยู่ในปัจจุบัน โดย AGI จะมีความฉลาดเหมือนมนุษย์คนหนึ่งที่มีสติปัญญา, ความคิดสร้างสรรค์, และความสามารถในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้ด้วยตัวเองอย่างไม่มีขีดจำกัด
ปัจจุบัน บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ทั่วโลก เช่น OpenAI, Google DeepMind และ xAI กำลังทุ่มเททรัพยากรจำนวนมหาศาลเพื่อวิจัยและพัฒนา AGI ให้เกิดขึ้นจริง โดยเชื่อว่าหากทำสำเร็จ จะเป็นการปฏิวัติวงการเทคโนโลยีและเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของมนุษยชาติไปอย่างสิ้นเชิง
แซม อัลท์แมน (Sam Altman) ชี้ว่าการตัดสินใจที่ดูเหมือน "การโยนเหรียญ" เช่นการก่อตั้ง OpenAI เป็นสิ่งที่ควร "เอนเอียงเข้าหา" เมื่อเกิดความไม่แน่ใจ เพราะนั่นคือจุดกำเนิดของนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่
วิวัฒนาการของ AI และอนาคตที่ไร้รอยต่อ
แซม อัลท์แมน (Sam Altman) เชื่อว่าศักยภาพของโมเดล AI ในปัจจุบันยังถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ได้ไม่เต็มที่ "ผลิตภัณฑ์ที่ผู้คนคิดจะสร้างนั้นต่ำกว่าความสามารถของแบบจำลองมาก" เขายังต้องการที่จะเห็นปัญญาประดิษฐ์ AI ผสานเข้ากับชีวิตประจำวันอย่างสมบูรณ์ และได้ฉายภาพอนาคตของ AI ไว้หลายมิติ
1. ความทรงจำเป็นหัวใจสำคัญ คุณสมบัติ "ความทรงจำ" ใน ChatGPT คือ ก้าวแรกในการสร้าง AI ให้เป็นเหมือน "ตัวตนอัจฉริยะ" ที่รู้จักคุณ, เชื่อมต่อกับข้อมูลทุกอย่างของคุณ, และคอยช่วยเหลือล่วงหน้าอยู่เสมอ โดยตัวตนอัจฉริยะนี้จะทำงานอยู่เบื้องหลังตลอดเวลาเพื่อคาดการณ์และให้ความช่วยเหลือที่ตรงใจคุณอย่างแท้จริง
2. AI ในฐานะระบบปฏิบัติการ (OS) ผู้คนจะเริ่มใช้ปัญญาประดิษฐ์ AI เป็นศูนย์กลางที่เชื่อมโยงทุกข้อมูลและทุกมิติของชีวิต คล้ายกับระบบปฏิบัติการส่วนบุคคล
3. อนาคต คือ "โมเดลเดียวที่รวมกัน" ซึ่งสามารถให้เหตุผล สร้างวิดีโอแบบเรียลไทม์ เขียนโค้ด และสร้างแอปพลิเคชันเฉพาะบุคคลได้ สิ่งนี้จะให้ความรู้สึกเหมือนเป็น "ส่วนต่อประสานคอมพิวเตอร์รูปแบบใหม่" คล้ายกับปัญญาประดิษฐ์ในภาพยนตร์เรื่อง "Her"
ปฏิวัติโลกกายภาพปัญญาประดิษฐ์ AI หุ่นยนต์ และเศรษฐกิจใหม่
วิสัยทัศน์ของแซม อัลท์แมน (Sam Altman) ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในโลกดิจิทัล เขามองไกลไปถึงการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพครั้งใหญ่ผ่านหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ โดยวาดภาพว่าในอนาคต เมื่อผู้ใช้สมัครสมาชิก ChatGPT ระดับสูงสุด อาจจะได้รับ "หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ฟรี" หนึ่งตัว ซึ่งจะสามารถ "ทำงานจริงในโลกแห่งความเป็นจริง" ได้ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า
เขายังตั้งคำถามถึงการพลิกโฉมห่วงโซ่อุปทานหุ่นยนต์ทั้งหมด "ถ้าคุณสร้างหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ล้านตัว… พวกมันสามารถบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด … และสร้างหุ่นยนต์ใหม่ได้หรือไม่?"
แนวคิดนี้จะนำไปสู่การนำอุตสาหกรรมการผลิตที่ซับซ้อนกลับมายังประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา สร้างความเป็นไปได้ใหม่ทางเศรษฐกิจที่ไม่เคยมีมาก่อน
ยุคทองของผู้ประกอบการ และคำแนะนำสำหรับสตาร์ทอัพในยุค AI
แซม อัลท์แมน (Sam Altman) ประกาศอย่างชัดเจนว่า "นี่คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในประวัติศาสตร์เทคโนโลยี เพื่อเริ่มต้นบริษัท" เพราะการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ได้เปิดโอกาสมหาศาล เขาได้ให้คำแนะนำที่สำคัญแก่สตาร์ทอัพว่า
1. ค้นหา "สิ่งที่หนึ่งเดียว" (The one thing) บริษัทที่ประสบความสำเร็จมักจะไม่ได้ทำในสิ่งที่คนอื่นทำ แต่เลือกที่จะแตกต่าง ซึ่งทำให้พวกเขามีเวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์
2. สร้างการป้องกันด้วยผลิตภัณฑ์ที่ไม่เหมือนใคร ในช่วงแรก OpenAI ก็ไม่มีกลยุทธ์การป้องกันที่ชัดเจน นอกจากการมีผลิตภัณฑ์เดียวในตลาด จนกระทั่งสามารถสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและคุณสมบัติเฉพาะตัวอย่าง "ความทรงจำ" ขึ้นมาได้
ขอบเขตใหม่ของปัญญาประดิษฐ์ AI เพื่อวิทยาศาสตร์และพลังงาน
สิ่งที่แซม อัลท์แมน (Sam Altman) ตื่นเต้นที่สุดเป็นการส่วนตัวคือการใช้ AI เพื่อการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ เขาเชื่อว่า "การค้นพบวิทยาศาสตร์ใหม่" คือ รากฐานที่แท้จริงของการเติบโตทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ เขายังตระหนักถึงความสัมพันธ์ที่แยกไม่ออกระหว่าง AI และพลังงาน จากที่เคยคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกัน ตอนนี้เขามองว่า พลังงานคือ "ตัวจำกัดพื้นฐาน" ของสติปัญญา ที่มนุษย์สามารถสร้างขึ้นได้ ความหลงใหลใน "ความอุดมสมบูรณ์ของพลังงาน" จึงกลายเป็นอีกหนึ่งเสาหลักในวิสัยทัศน์ของเขา
บทสรุปสู่ยุคแห่งความอุดมสมบูรณ์
วิสัยทัศน์ของแซม อัลท์แมน (Sam Altman) คือ ภาพของโลกที่กำลังจะมาถึง ซึ่ง AGI จะปลดล็อกศักยภาพของมนุษย์ไปสู่ระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน แม้จะเต็มไปด้วยความท้าทาย ความไม่แน่นอน และต้องเผชิญหน้ากับความเชื่อมั่นที่สวนกระแส (ดังที่เขาเคยได้รับอีเมลจากอีลอน มัสก์ที่บอกว่า OpenAI "มีโอกาสสำเร็จเป็นศูนย์เปอร์เซ็นต์")
แต่แซม อัลท์แมน (Sam Altman) ยังคงยืนหยัดด้วยการมองโลกในแง่ดีและความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีที่จะสร้าง "ความอุดมสมบูรณ์แบบสุดขีด" (Extreme abundance) ให้กับมนุษย์ทุกคน
เขาเชื่อว่านี่คือยุคที่ "บุคคลเดียวหรือกลุ่มคนเล็ก ๆ" จะสามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไม่น่าเชื่อ และเป็นยุคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับผู้ที่กล้าคิดต่าง กล้าลงมือทำ และพากเพียรเพื่อกำหนดอนาคตด้วยตนเอง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ภัยคุกคาม? "AI" ไม่ได้แค่ช่วยแต่กำลังแทนที่งาน l การตลาดเงินล้าน
- มหากาพย์ดีล AI ถูกสกัด OpenAI และ Jony Ive ถูกฟ้องละเมิดและเลียนแบบแนวคิดทางธุรกิจ
- เปรียบเทียบเครื่องบินทิ้งระเบิดล่องหน B-2 Spirit และ B-21 Raider จากตำนานสู่อนาคตของการโจมตีทางอากาศ
- Meta ทุ่มแสนล้าน! หนุนธุรกิจไทยทะยานสู่ยุค AI สร้างนวัตกรรม เพิ่มประสิทธิภาพ กวาด ROAS พุ่ง 37%
- บริษัทในสหรัฐฯ จับมือพัฒนาซอฟต์แวร์ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ AI เพื่อสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์