เผยขั้นตอนต่อภาษีรถใหม่ ไม่ต้องไปขนส่งฯ ก็ทำบนมือถือคุณได้เลย!
เผยขั้นตอนต่อภาษีรถใหม่ ไม่ต้องไปขนส่งฯ ก็ทำบนมือถือคุณได้เลย!
กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ประกาศข่าวดีครั้งใหญ่ ปฏิวัติการชำระภาษีรถยนต์ประจำปีให้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ด้วยการเปิดให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลเต็มรูปแบบ ทั้งแอปพลิเคชันบนมือถือและตู้ Kiosk อัตโนมัติ โดยมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ช่องทางต่อภาษีรถ มี 2 ช่องทาง
สำหรับช่องทางใหม่ที่ กรมการขนส่งทางบนได้อำนวยความสะดวกแก่ เจ้าของรถสามารถเลือกใช้บริการได้ 2 ช่องทางคือ
1. แอปพลิเคชัน "DLT Vehicle Tax Plus"
ยกสำนักงานขนส่งมาไว้ในมือคุณ สามารถทำธุรกรรมได้ทุกที่ทุกเวลาตลอด 24 ชั่วโมง เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและลงทะเบียนเพื่อใช้งาน รองรับทั้งมือถือ Android และ iOS
2. ตู้ Kiosk อัตโนมัติ
บริการตู้ชำระภาษีอัตโนมัติที่ติดตั้ง ณ สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความรวดเร็ว และ จุดเด่นสำคัญคือสามารถพิมพ์เครื่องหมายแสดงการเสียภาษี (ป้ายวงกลม) ได้ทันที
รถประเภทไหนใช้บริการได้บ้าง?
บริการใหม่นี้รองรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลที่จดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ ดังนี้
- รย.1: รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน (รถเก๋ง)
- รย.2: รถยนต์นั่งส่วนบุคคลเกิน 7 คน (รถตู้)
- รย.3: รถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล (รถกระบะ)
- รย.12: รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล
แต่สำหรับรถที่มีอายุการใช้งานเกินกำหนด (รถยนต์เกิน 7 ปี, รถจักรยานยนต์เกิน 5 ปี) หรือรถที่ค้างชำระภาษีเกิน 1 ปี จำเป็นต้องนำรถไปตรวจสภาพกับสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ให้เรียบร้อยก่อน จึงจะสามารถใช้บริการผ่านช่องทางใหม่นี้ได้
เปิดขั้นตอนการต่อภาษีรถ โดยใช้แอป DLT
หลังรู้เกี่ยวกับรถยนต์ที่สามารถใช้ต่อทะเบียนออนไลน์แล้วใน Application จะต้องดาวน์โหลดก่อนผ่านทาง Store ของทั้ง มือถือ Android และ iOS จะต้องมีเรื่องที่ต้องรู้ดังนี้
1. ผู้ใช้งานครั้งแรกต้องลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านระบบ Digital ID เช่น แอปพลิเคชัน ThaID เพื่อความปลอดภัยในการทำธุรกรรม
2. ระบุข้อมูลเกี่ยวกับรถที่ต้องการชำระภาษี
3. สามารถเลือกชำระได้ทั้งผ่าน Thai QR Code หรือ หักบัญชีธนาคาร
4. รับหลักฐานการต่อทะเบียน โดยผ่านช่องทางดังนี้
- ผ่านแอปพลิเคชัน: ระบบจะจัดส่งเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีให้ทางไปรษณีย์
- ผ่านตู้ Kiosk: สามารถรับเครื่องหมายฯ ที่พิมพ์จากตู้ได้เลยทันที
เรียกว่าการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ถ่อเป็นการยกระดับการให้บริการภาครัฐสู่ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง ช่วยให้เจ้าของรถสามารถจัดการเรื่องภาษีได้อย่างสะดวกสบาย ตรวจสอบข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ และประหยัดเวลาได้อย่างมหาศาล ใครที่กำลังจะต่อภาษีรถ อย่าลืมนำวิธีนี้ไปใช้เพื่อลดเวลาด้วยนะครับ